See also ebooksgratis.com: no banners, no cookies, totally FREE.

CLASSICISTRANIERI HOME PAGE - YOUTUBE CHANNEL
Privacy Policy Cookie Policy Terms and Conditions
สหรัฐอเมริกา - วิกิพีเดีย

สหรัฐอเมริกา

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

United States of America
สหรัฐอเมริกา
ธงชาติสหรัฐอเมริกา ตราแผ่นดินของสหรัฐอเมริกา
ธงชาติ ตราแผ่นดิน
คำขวัญ: ละติน: E pluribus unum (2332 - 2499)
("จากหลายหลายรวมเป็นหนึ่ง")
In God We Trust (2499 ถึงปัจจุบัน)
("เราเชื่อในพระเจ้า")
เพลงชาติ: The Star-Spangled Banner
แผนที่แสดงที่ตั้งของประเทศสหรัฐอเมริกา
เมืองหลวง วอชิงตัน ดี.ซี.
38°53′N 77°02′W
เมืองใหญ่สุด นิวยอร์กซิตี
ภาษาราชการ ไม่มีกำหนด
ภาษาอังกฤษ (โดยพฤตินัย)
รัฐบาล สหพันธรัฐ
ประชาธิปไตยแบบตัวแทน
ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
• รองประธานาธิบดี
จอร์จ ดับเบิลยู. บุช
ดิก ชีนีย์
ประกาศเอกราช
 • ประกาศ
 • เป็นที่ยอมรับ
จาก สหราชอาณาจักร
4 กรกฎาคม พ.ศ. 2319
3 กันยายน พ.ศ. 2326
เนื้อที่
 - ทั้งหมด
 
 - พื้นน้ำ (%)
 
9,631,418 กม.² (อันดับที่ 3¹)
3,718,711 ไมล์² 
4.87
ประชากร
 - 2550 ประมาณ
 - 2549

 - ความหนาแน่น
 
301,747,000 (อันดับที่ 3)
294,444,215

31/กม² (อันดับที่ 172)
83/ไมล์² 
GDP (PPP)
 - รวม
 - ต่อประชากร
2549 ค่าประมาณ
13.049 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 1)
43,555 ดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 3)
HDI (2004) 0.944 (อันดับที่ 10) – สูง
สกุลเงิน ดอลลาร์สหรัฐ ($) (USD)
เขตเวลา
 - ฤดูร้อน (DST)
(UTC-5 ถึง -10)
(UTC-4 ถึง -10)
รหัสอินเทอร์เน็ต .us .gov .edu .mil .um
รหัสโทรศัพท์ +1
¹พื้นที่โดยอันดับแล้วขัดแย้งกับประเทศจีนในแหล่งข้อมูลบางแหล่ง จึงทำให้บางครั้งถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 4

สหรัฐอเมริกา (United States of America) เป็นสหพันธรัฐประชาธิปไตย ปกครองภายใต้รัฐธรรมนูญ ประกอบไปด้วยมลรัฐ 50 มลรัฐ ตั้งอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ มีพรมแดนต่อกับประเทศแคนาดาและเม็กซิโก ส่วนพรมแดนทางทะเลนั้นติดต่อกับประเทศแคนาดา รัสเซียและบาฮามาส โดยมีมหาสมุทรแปซิฟิก ทะเลแบริง มหาสมุทรอาร์กติก มหาสมุทรแอตแลนติก อ่าวเม็กซิโก และทะเลแคริบเบียนเป็นผืนน้ำล้อมรอบ

สหรัฐอเมริกาเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญของโลก และเป็นอภิมหาอำนาจเพียงหนึ่งเดียวของโลกในยุคปัจจุบันทั้งในด้านการทหารและเศรษฐกิจซึ่งรวมไปถึงในด้าน วิทยาศาสตร์ การศึกษา การกีฬา และบันเทิง

เนื้อหา

[แก้] ประวัติศาสตร์

ดูบทความหลักที่ ประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา

ก่อนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา (รวมถึงอาณานิคมก่อนหน้านั้น) จะถูกก่อตั้งขึ้น พื้นที่ทั้งหมดของสหรัฐฯในปัจจุบันเดิมเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับชนพื้นเมืองชาวอเมริกันมาก่อนเป็นเวลาถึง 15,000 ปี จนกระทั่งในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ได้มีการสำรวจบุกเบิกและตั้งถิ่นฐานของชาวยุโรปเริ่มต้นขึ้น ราชอาณาจักรอังกฤษได้ทำการก่อตั้งอาณานิคมใหม่ และเข้าควบคุมอาณานิคมที่ก่อตั้งมาก่อนอื่นๆ จนกระทั่งในที่สุด หลังจากที่ถูกรัฐบาลตัวแทนจากเกาะบริเตนปกครองมาเป็นเวลาร้อยกว่าปี อาณานิคมที่ตกอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษจำนวน 13 อาณานิคมได้ทำการประกาศอิสรภาพในวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1776 (พ.ศ. 2319) ทำให้เกิดสงครามปฏิวัติอเมริกาขึ้น และแล้วสงครามก็สิ้นสุดลงใน ค.ศ. 1783 (พ.ศ. 2326) โดยชัยชนะเป็นของอดีตอาณานิคม เมื่อราชอาณาจักรอังกฤษยอมรับอดีตอาณานิคมที่อังกฤษเคยปกครองมาก่อนให้เป็นประเทศใหม่ ตั้งแต่นั้นมาประเทศก่อตั้งใหม่ที่ถูกเรียกว่า "สหรัฐอเมริกา" ก็แผ่ขยายอาณาเขตของตนเองจาก 13 มลรัฐไปถึง 50 มลรัฐกับอีกหนึ่งเขตปกครองกลาง รวมถึงดินแดนภายใต้การปกครองอีกหลายแห่งอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ทำให้สหรัฐอเมริกามีขนาดใหญ่กว่าเดิมถึงกว่า 4 เท่าตัว และด้วยเนื้อที่กว่า 9.1 ล้านตารางกิโลเมตรของสหรัฐอเมริกา ทำให้สหรัฐฯกลายเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก (แต่ในบางแหล่งข้อมูลที่ทำการจัดอันดับ สาธารณรัฐประชาชนจีนจะอยู่ในอันดับสาม ส่วนสหรัฐจะตกไปอยู่อันดับสี่ ถ้าทำการนับจีนไทเปรวมเข้าไปด้วย) อีกทั้งสหรัฐฯ ยังเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับสาม ด้วยจำนวนประชากรถึงเกือบ 300 ล้านคน

มลรัฐของสหรัฐอเมริกา 48 มลรัฐ (ซึ่งมักจะถูกเรียกว่าแผ่นดินใหญ่) ตั้งอยู่บนดินแดนระหว่างแคนาดาและเม็กซิโก ส่วนอะแลสกาและฮาวายนั้น ไม่ได้อยู่ติดกับรัฐอื่น นอกจากนี้ สหรัฐอเมริกายังมีดิสตริกต์ออฟโคลัมเบียซึ่งเป็นเขตปกครองกลางประจำสมาพันธรัฐเป็นเมืองหลวง รวมถึงดินแดนที่อยู่ภายใต้การปกครองของสหรัฐอเมริกาอยู่ทั่วโลก มลรัฐทั้ง 50 มลรัฐของสหรัฐอเมริกานั้นมีสิทธิในการปกครองตนเองในระดับสูงภายใต้ระบบสหพันธรัฐ

สหรัฐอเมริกาได้ธำรงค์การปกครองระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยเสรี มาตั้งแต่การประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกาในวันที่ 17 กันยายน ค.ศ. 1787 (พ.ศ. 2330) ตั้งแต่นั้นมา สถานะการเมืองของสหรัฐอเมริกายังคงมั่นคงมาจวบจนถึงทุกวันนี้ โดยสถานะทางเศรษฐกิจและทางทหารของสหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้นอย่างคงที่ตลอดช่วงกลางถึงช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 ผ่านทั้งสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสงครามโลกครั้งที่สอง โดยทั้งสองครั้งอยู่ในฝ่ายผู้ชนะ จากนั้นมาสหรัฐฯ ก็เป็นประเทศอภิมหาอำนาจคู่กับสหภาพโซเวียต และทำสงครามแนวใหม่ที่เรียกว่า "สงครามเย็น" ต่อกัน จนกระทั่งในคริสตทศวรรษที่ 90 (พ.ศ. 2533-2534) เมื่อสหภาพโซเวียตได้ล่มสลายลง ทำให้สหรัฐอเมริกากลายเป็นประเทศ "อภิมหาอำนาจ" หนึ่งเดียว มาจนถึงทุกวันนี้

[แก้] ชื่อเรียก

ลุงแซม
ลุงแซม

สหรัฐอเมริกา นอกจากจะรู้จักในชื่อเต็มแล้ว ชาวอเมริกันเองรวมถึงผู้ที่มาจากประเทศอื่น ๆ ยังเรียกสหรัฐอเมริกาในหลายรูปแบบ ได้แก่ สหรัฐฯ (United States), ยูเอส (U.S.), ยูเอสเอ (USA), เดอะสเตตส์ (the States) และอเมริกา (America) สำหรับคนไทยแล้ว นิยมเรียกสหรัฐอเมริกาสั้น ๆ ว่าสหรัฐฯ, อเมริกา จนไปถึงรูปแบบที่สั้นมาก ๆ คือ "มะกัน" และเรียกสหรัฐอเมริกาในเชิงฉายาว่าเป็น "ลุงแซม" รวมถึงเรียกสหรัฐอเมริกาที่เป็นมหาอำนาจที่มีอำนาจทางการเงิน และการทหารยิ่งใหญ่ที่สุดในปัจจุบันในทางเสียดสีว่าเป็นไม่ได้เป็น "เจ้าโลก" หรือ "จ้าวโลก" อีกด้วย เนื่องจากเศรษฐกิจไ ส่วนชื่อประเทศอย่างเป็นทางการนั้น ในหนังสือภาษาไทยยุคก่อน พ.ศ. 2500 เรียกชื่อของสหรัฐอเมริกาว่า "สหปาลีรัฐอเมริกา" นอกจากนี้ในหนังสือสนธิสัญญาระหว่างไทย-สหรัฐอเมริกา ใน พ.ศ. 2375 สมัยรัชกาลที่ 3 ได้เรียกชื่อของสหรัฐอเมริกาว่า "เอสตาโด อุนิโด ดา อเมริกา" เข้าใจว่าเป็นการถ่ายถอดชื่อของสหรัฐอเมริกาในภาษาโปรตุเกส ซึ่งเขียนว่า "Estados Unidos da América" เนื่องจากภาษาตะวันตกที่ราชการไทยในเวลานั้นรู้จักดีคือภาษาโปรตุเกส ดังปรากฏหลักฐานชัดเจนในสนธิสัญญาฉบับนั้นด้วยว่าเนื้อหาในสนธิสัญญาเขียนเป็น 4 ภาษา คือ ภาษาไทย ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ และภาษาโปรตุเกส

ลุงแซม (Uncle Sam) เป็นชื่อที่เรียกเริ่มต้นในสงครามกลางเมืองในช่วง พ.ศ. 2355 เกิดขึ้นจากที่ผลิตภัณฑ์เนื้อที่ส่งเข้าค่ายทหารอเมริกัน ประทับตราว่า U.S. ซึ่งเป็นชื่อย่อของ ลุงแซมูเอล วิลสัน (Uncle Samuel) ซึ่งเป็นชื่อล้อเลียนกับชื่อ U.S. ของ United State

[แก้] การแบ่งเขตการปกครอง

แผนที่แบ่งตามมลรัฐของสหรัฐอเมริกา
แผนที่แบ่งตามมลรัฐของสหรัฐอเมริกา

สหรัฐอเมริกาปัจจุบันประกอบด้วย มลรัฐ 50 มลรัฐ ดังรายชื่อต่อไปนี้

รายชื่อมลรัฐในสหรัฐอเมริกา เรียงตามลำดับการก่อตั้ง

นอกจากนี้ยังประกอบด้วยดินแดนอื่น ๆ ได้แก่ ดินแดน ดิสตริกต์ออฟโคลัมเบีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของประเทศ และดินแดนโพ้นทะเลอื่น ๆ ที่สำคัญได้แก่ อเมริกันซามัว กวม จอห์นสตันอะทอลล์ หมู่เกาะมิดเวย์ หมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา เปอร์โตริโก และหมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา และอีกหนึ่งดินแดนคือเขตคลองปานามาที่สหรัฐอเมริกาเช่าไว้จากปานามา

[แก้] โครงสร้างทางการเมืองการปกครอง

มีรูปแบบการปกครองแบบสหพันธรัฐ ( Federal Republic) แบ่งอำนาจออกเป็น 3 ฝ่าย ภายใต้บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ แต่ละฝ่ายได้รับเลือกในลักษณะที่แตกต่างกันออกไป จึงมีการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจซึ่งกันและกัน (checks and balances) ประกอบด้วยพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรค คือ พรรครีพับลิกัน (Republican) และพรรคเดโมแครต (Democrat) ดังนี้

ฝ่ายบริหาร มีประธานาธิบดี (President) เป็นประมุขและเป็นหัวหน้ารัฐบาล (Chief of Executive) ได้รับเลือกจากการเลือกตั้งทั่วไป ร่วมกับรองประธานาธิบดีทุก 4 ปี ในวันอังคารแรกหลังวันจันทร์แรกของเดือนพฤศจิกายน ประธานาธิบดีมาจากการเลือกตั้งผ่านคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) จำนวน 538 คน ดำรงตำแหน่งไม่เกิน 2 สมัย สมัยละ 4 ปี ประธานาธิบดีจะเป็นผู้ร่างรัฐบัญญัติต่อรัฐสภา และทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้ทำสนธิสัญญาต่าง ๆ ตลอดจนแต่งตั้งผู้พิพากษาเอกอัครราชทูตและตำแหน่งต่าง ๆ ของฝ่ายบริหารตั้งแต่ระดับรองผู้ช่วยรัฐมนตรี (Deputy Assistant Secretary) ขึ้นไป

ฝ่ายนิติบัญญัติ ประกอบด้วย 2 สภา คือ

  1. วุฒิสภา มีสมาชิกจากแต่ละมลรัฐ มลรัฐละ 2 คน รวมเป็น 100 คน ดำรงตำแหน่งสมัยละ 6 ปี โดยสมาชิกจำนวน 1 ใน 3 ครบวาระทุก 2 ปี วุฒิสภามีอำนาจให้ความเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบต่อบุคคลที่ประธานาธิบดีเสนอขอแต่งตั้ง รวมทั้งคณะรัฐมนตรี และให้สัตยาบันสนธิสัญญา รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นผู้ดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง (President of the Senate)
  2. สภาผู้แทนราษฎร มีสมาชิก 435 คน แบ่งตามสัดส่วนของประชากรในมลรัฐ คือ ประชากร 575,000 คน ต่อ สมาชิก 1 คน ดำรงตำแหน่งสมัยละ 2 ปี ประธานสภา (Speaker of the House)

ฝ่ายตุลาการ ประกอบด้วย ศาลชั้นต้น (Curcuit Court) ศาลอุทรณ์ (Appeal Court) และศาลฎีกา (Supreme Court) ศาลฎีกามีอำนาจที่จะล้มเลิกกฎหมายใด ๆ และการปฏิบัติการของฝ่ายบริหารที่ได้วินิจฉัยแล้วว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ ในการแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลฎีกานั้น ประธานาธิบดีเป็นผู้เสนอชื่อและวุฒิสภาเป็นผู้ให้การรับรอง โดยศาลสูงของสหพันธ์มีผู้พิพากษาทั้งหมด 9 คน ซึ่งตำรงตำแหน่งได้โดยไม่มีการกำหนดวาระ โดยประธานาธิบดีเป็นผู้เสนอชื่อและวุฒิสภาเป็นผู้ให้การรับรอง

สิทธิในการเลือกตั้ง : อายุ 18 ปีขึ้นไป

[แก้] เมืองขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา

ดูรายชื่อทั้งหมดที่ รายชื่อเมืองในสหรัฐอเมริกาเรียงตามจำนวนประชากร

อันดับเมืองขนาดใหญ่ 15 เมืองแรก จัดอันดับตามจำนวนประชากร

อันดับ เมือง มลรัฐ ประชากร
(ข้อมูล กรกฎาคม 2549[1])
1 นิวยอร์กซิตี รัฐนิวยอร์ก 8,214,426
2 ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย 3,849,378
3 ชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ 2,873,321
4 ฮิวสตัน รัฐเทกซัส 2,144,491
5 ฟินิกซ์ รัฐแอริโซนา 1,512,986
6 ฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย 1,448,394
7 ซานแอนโทนีโอ รัฐเทกซัส 1,296,682
8 ซานดีเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย 1,256,951
9 ดัลลัส รัฐเทกซัส 1,232,940
10 ซานโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย 929,936
11 ดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน 871,121
12 แจ๊กสันวิลล์ รัฐฟลอริดา 794,555
13 อินเดียแนโพลิส รัฐอินดีแอนา 785,597
14 ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย 744,041
15 โคลัมบัส รัฐโอไฮโอ 733,203

[แก้] เศรษฐกิจ

ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่สามารถนำเทคโนโลยีใหม่มาได้ทดลองกันบ่อยๆและยังเป็นประเทศที่อยู่ในกลุ่ม G8

[แก้] ชาวอินเดียนแดง

ชาวอินเดียนแดงเผ่าอะแพชี
ชาวอินเดียนแดงเผ่าอะแพชี

ชนพื้นเมืองเดิมในประเทศ หรือชาวอินเดียนแดง เป็นกลุ่มชนผิวเหลืองที่อาศัยในสหรัฐอเมริกามาก่อนที่ชาวยุโรปจะเข้ามาตั้งรกรากในประเทศ โดยชาวอินเดียนแดงได้ลดจำนวนลงอย่างมากในช่วง คริสต์ศตวรรษที่ 15-19 จากการทำสงครามกับชาวยุโรปที่มาตั้งถิ่นฐาน การจับเป็นทาส รวมถึงการย้ายที่อยู่ และโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ

โดยในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ได้มีการกำหนดขยายดินแดนของชาวอเมริกันทำให้เกิดการขยายตัวของพลเมือง และการขับไล่ชาวอินเดียนแดงออกไปอยู่บริเวณส่วนตะวันตกของประเทศ โดยชาวอินเดียนแดงกว่าหนึ่งแสนคนได้ถูกย้ายไปอยู่บริเวณตะวันตก ถึงแม้ว่าการย้ายถิ่นฐานที่ลงในลายลักษณ์อักษรปรากฏในกฎหมายของสหรัฐอเมริกา จะเป็นการย้ายตามการสมัครใจ แต่ในทางปฏิบัติชาวอินเดียนแดงหลายเผ่าได้ถูกบังคับให้ย้ายและบังคับให้มีการเซ็นสัญญา ทำให้เกิดมีข้อขัดแย้ง ที่เรียกว่า สงครามอินเดียนแดง เกิดขึ้นหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา และเมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2419 ทางการสหรัฐได้ออกคำสั่งให้ชาวอินเดียนแดงทั้งหมดถูกสั่งให้ย้ายเข้าไปอยู่อาศัยในเขตสงวนอินเดียนแดง

ในปัจจุบันชาวอินเดียนแดงยังมีการอาศัยปะปนการชาวอเมริกัน และบางส่วนได้เข้ารับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยร่วมกับชาวอเมริกันทั่วไป

[แก้] ประชากร

[แก้] เชื้อชาติ

ตามข้อมูลของ CIA World Fact ปี พ.ศ. 2548 ประชากรของสหรัฐอเมริกาประกอบด้วย

  • คนผิวขาว รวมถึง คนเม็กซิกัน 81.7% หรือ 241 ล้านคน
  • คนผิวดำ หรือ แอฟริกันอเมริกัน 12.9% หรือ 36.4 ล้านคน
  • คนอเมริกันเอเชีย 4.2% หรือ 11.9 ล้านคน
  • ชาวอินเดียนแดง 1.4% หรือ 4.1 ล้านคน
  • ชาวฮาวาย 0.2%

[แก้] ภาษา

สหรัฐอเมริกาไม่มีการกำหนดภาษาประจำชาติ แต่ในทางปฏิบัติภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้กันมากที่สุดในประเทศ ในบางรัฐได้มีการกำหนดภาษาทางการของรัฐ นอกจากนี้ภาษาที่มีใช้กันมากในสหรัฐอเมริกาได้แก่มากกว่าหนึ่งล้านคน ได้แก่ ภาษาสเปน ภาษาจีน ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเวียดนาม และ ภาษาเยอรมัน

[แก้] ศาสนา

ในสหรัฐอเมริกาไม่มีการกำหนดศาสนาประจำชาติอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตามจากการสำรวจเรื่องศาสนามีประมาณ 76.7% ของชาวอเมริกันนับถือศาสนาคริสต์ (52% นิกายโปรแตสแตนต์ 24.5% นิกายโรมันคาทอลิก และนิกายอื่นอีก 0.2%) โดยที่เหลือ เป็นชาวอเมริกันนับถือศาสนาอื่น หรือไม่นับถือศาสนาใดเลย

[แก้] การศึกษา

ระบบการศึกษาในสหรัฐอเมริกาควบคุมโดยแต่ละรัฐแยกจากกัน เด็กทุกคนจะถูกให้เรียนจบในระดับไฮสคูล และจบในระดับชั้นเกรด 12 หรือเทียบเท่า โดยผู้ปกครองสามารถเลือกให้ลูกเรียนที่โรงเรียนรัฐบาล หรือโรงเรียนเอกชน นอกจากนี้ยังมีผู้ปกครองบางกลุ่ม ที่สอนให้ลูกเรียนด้วยตนเองที่บ้านหรือในชุมชนซึ่งเรียกลักษณะนี้ว่าโฮมสกูล ภายหลังจากจบการศึกษา นักเรียนสามารถเลือกเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยทั้งในมหาวิทยาลัยรัฐหรือมหาวิทยาลัยเอกชน โดยนักเรียนสามารถกู้เงินจากทางธนาคารหรือหน่วยงานราชการสำหรับจ่ายเป็นค่าเล่าเรียนในระดับนี้ และจ่ายคืนภายหลังจบการศึกษา มหาวิทยาลัยเอกชนส่วนใหญ่ค่าเรียนจะแพงกว่ามหาวิทยาลัยรัฐ ในขณะที่คุณภาพของมหาวิทยาลัยบางแห่งเทียบเท่า ดีกว่า หรือด้อยกว่ามหาวิทยาลัยรัฐ นอกจากนี้นักเรียนสามารถเลือกเรียนในวิทยาลัยชุมชนที่ค่าเรียนถูกกว่าทั้งมหาวิทยาลัยรัฐและเอกชนในช่วง 2 ปีแรก และโอนหน่วยกิตไปเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยอื่นในช่วงต่อมาได้

สหรัฐอเมริกามีอัตราการอ่านออกเขียนได้ค่อนข้างต่ำ โดยมีค่า 86-98% ของประชากรที่อายุมากกว่า 15 ปี

[แก้] วัฒนธรรม

[แก้] อาหาร

แฮมเบอร์เกอร์ อาหารประจำชาติสหรัฐอเมริกา
แฮมเบอร์เกอร์ อาหารประจำชาติสหรัฐอเมริกา

เนื่องจากสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีผู้อพยพเข้ามาอยู่ตลอดเวลา อาหารในประเทศจึงมีความหลากหลาย โดยอาหารพื้นเมืองในสหรัฐอเมริกา หรืออาหารชาวอินเดียนแดง คืออาหารที่มีส่วนประกอบของ ไก่งวง มันสำปะหลัง ข้าวโพด และฟักทอง โดยในปัจจุบันจากการอพยพจากประชากรจากฝั่งยุโรปเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีบทบาทสำคัญในส่วนของอาหารอเมริกัน ซึ่งได้แก่อาหารหลายประเภท เช่น พายแอปเปิล พิซซา ชาวเดอร์ พาสตา แฮมเบอร์เกอร์ ฮอตด็อก แซนด์วิช และนอกจากนี้ยังมีกลุ่มที่อพยพมาจากทางประเทศเม็กซิโก ซึ่งอาหารประเภท เบอร์ริโต และ ทาโก ได้เป็นอาหารหลักในสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้อาหารชาติอื่น ไม่ว่าจะเป็น ซูชิของญี่ปุ่น หรือติ่มซำของจีน รวมไปถึงอาหารไทยเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในสหรัฐอเมริกาเช่นกัน

[แก้] ดนตรี

ดนตรีในสหรัฐอเมริกา เกิดจากการผสมผสานของดนตรีหลายเชื้อชาติเข้าด้วยกัน และเกิดเป็นดนตรีแนวใหม่รายประเภท เช่น ร็อคแอนด์โรลล์ ฮิปฮอป คันทรี บลูส์ และแจ๊ส และในช่วงล่าสุด ดนตรีของสหรัฐอเมริกาได้เริ่มเป็นที่นิยมในหลายที่ทั่วโลก นอกจากนี้การเต้นรำ ได้มีกำเนิดมาจากสหรัฐอเมริกันเช่นกัน ตัวอย่างเช่น การเต้นแท็ป

[แก้] กีฬา

อเมริกันฟุตบอล เป็นกีฬาที่นิยมมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา
อเมริกันฟุตบอล เป็นกีฬาที่นิยมมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา

ในสหรัฐอเมริกา กีฬาเป็นการละเล่นที่นิยมเล่นกันมากตั้งแต่ระดับโรงเรียนจนถึงมหาวิทยาลัย และระดับอาชีพ และเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศ กีฬาที่นิยมมากที่สุดในสหรัฐทั้ง 4 อย่างคือ อเมริกันฟุตบอล บาสเกตบอล เบสบอล และ ไอซ์ฮอกกี กีฬาอื่นที่นิยมลองลงมาได้แก่ การแข่งรถ (นาสคาร์) ลาครอสส์ และ ฟุตบอลที่เริ่มเป็นที่นิยมในหมู่เด็กชาวอเมริกัน ถึงแม้ว่าฟุตบอลจะมีการแข่งขันอาชีพในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ แต่ยังไม่ได้รับความนิยมเท่าการแข่งขันอื่นเช่นใน เอ็นเอฟแอลของอเมริกันฟุตบอล เอ็นบีเอของบาสเกตบอล หรือ เมเจอร์ลีกเบสบอล นอกจากนี้กีฬาที่ได้รับความนิยมในหมู่บุคคลเฉพาะเช่น สเก็ตบอร์ด สกี สโนว์บอร์ด และ เซิร์ฟบอร์ด เริ่มเป็นที่แพร่หลายเช่นกัน

นอกจากนี้ในระดับนานาชาติ สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จสูงในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก

[แก้] ดูเพิ่ม

[แก้] อ้างอิง

  1. ^ ประชากรสหรัฐอเมริกา แบ่งตามเมือง

[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น


การแบ่งเขตการปกครองของสหรัฐอเมริกา ธงชาติสหรัฐอเมริกา
มลรัฐ คอนเนตทิคัต · เคนทักกี · แคนซัส · แคลิฟอร์เนีย · โคโลราโด · จอร์เจีย · เซาท์แคโรไลนา · เซาท์ดาโคตา · เดลาแวร์ · เทกซัส · เทนเนสซี · นอร์ทแคโรไลนา · นอร์ทดาโคตา · นิวเจอร์ซีย์ · นิวเม็กซิโก · นิวยอร์ก · นิวแฮมป์เชียร์ · เนแบรสกา · เนวาดา · เพนซิลเวเนีย · ฟลอริดา · มอนแทนา · มิชิแกน · มินนิโซตา · มิสซิสซิปปี · มิสซูรี · เมน · แมริแลนด์ · แมสซาชูเซตส์ · ยูทาห์ · โรดไอแลนด์ · วอชิงตัน · วิสคอนซิน · เวสต์เวอร์จิเนีย · เวอร์จิเนีย · เวอร์มอนต์ · ไวโอมิง · ลุยเซียนา · แอริโซนา · ออริกอน · อะแลสกา · อาร์คันซอ · แอละแบมา · อินดีแอนา · อิลลินอยส์ · โอคลาโฮมา · โอไฮโอ · ไอดาโฮ · ไอโอวา · ฮาวาย
เขตที่ตั้งรัฐบาล วอชิงตัน ดี.ซี.
พื้นที่เกาะ อเมริกันซามัว · เกาะเบเกอร์ · กวม · เกาะฮาวแลนด์ · เกาะจาร์วิส · จอห์นสตันอะทอลล์ · คิงแมนรีฟ · หมู่เกาะมิดเวย์ · เกาะนาวาสซา · หมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา · พอลไมราอะทอลล์ · เปอร์โตริโก · หมู่เกาะเวอร์จิน · เกาะเวก

ภาษาอื่น


aa - ab - af - ak - als - am - an - ang - ar - arc - as - ast - av - ay - az - ba - bar - bat_smg - bcl - be - be_x_old - bg - bh - bi - bm - bn - bo - bpy - br - bs - bug - bxr - ca - cbk_zam - cdo - ce - ceb - ch - cho - chr - chy - co - cr - crh - cs - csb - cu - cv - cy - da - de - diq - dsb - dv - dz - ee - el - eml - en - eo - es - et - eu - ext - fa - ff - fi - fiu_vro - fj - fo - fr - frp - fur - fy - ga - gan - gd - gl - glk - gn - got - gu - gv - ha - hak - haw - he - hi - hif - ho - hr - hsb - ht - hu - hy - hz - ia - id - ie - ig - ii - ik - ilo - io - is - it - iu - ja - jbo - jv - ka - kaa - kab - kg - ki - kj - kk - kl - km - kn - ko - kr - ks - ksh - ku - kv - kw - ky - la - lad - lb - lbe - lg - li - lij - lmo - ln - lo - lt - lv - map_bms - mdf - mg - mh - mi - mk - ml - mn - mo - mr - mt - mus - my - myv - mzn - na - nah - nap - nds - nds_nl - ne - new - ng - nl - nn - no - nov - nrm - nv - ny - oc - om - or - os - pa - pag - pam - pap - pdc - pi - pih - pl - pms - ps - pt - qu - quality - rm - rmy - rn - ro - roa_rup - roa_tara - ru - rw - sa - sah - sc - scn - sco - sd - se - sg - sh - si - simple - sk - sl - sm - sn - so - sr - srn - ss - st - stq - su - sv - sw - szl - ta - te - tet - tg - th - ti - tk - tl - tlh - tn - to - tpi - tr - ts - tt - tum - tw - ty - udm - ug - uk - ur - uz - ve - vec - vi - vls - vo - wa - war - wo - wuu - xal - xh - yi - yo - za - zea - zh - zh_classical - zh_min_nan - zh_yue - zu -