ลัทธิมาร์กซ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ลัทธิมาร์กซ คือทฤษฎีที่มีพื้นฐานมาจากผลงานของคาร์ล มาร์กซ ร่วมกับเฟรเดอริค เองเกิลส์ มาร์กซ ได้ศึกษาความรู้และวิทยาการที่ก้าวหน้าที่สุดของยุโรป ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 19 คือ ทฤษฎีปรัชญาของเยอรมัน ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ของอังกฤษและ ทฤษฎีสังคมนิยมของฝรั่งเศส ได้แก้ไขความบกพร่อง ผิดพลาดและได้พัฒนายกระดับทางคุณภาพ ของทฤษฎีดังกล่าว ขึ้นเป็นทฤษฎีใหม่ เรียกว่า ลัทธิมาร์กซ
[แก้] องค์ประกอบ
ลัทธิมาร์กซ มีองค์ประกอบที่สำคัญ 3 เรื่อง คือ 1.ทฤษฎีปรัชญาวัตุนิยมวิภาษและวัตถุนิยมประวัติศาสตร์ 2.ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์การเมือง 3.ทฤษฎีสังคมนิยมวิทยาศาสตร์
มาร์กซ์เห็นว่า " ประวัติศาสตร์ของสังคมทั้งหมดที่ผ่านมา ล้วนแต่ประวัติศาสตร์ของการต่อสู้ระหว่างชนชั้น " ในประวัติศาสตร์ สังคมมนุษย์ ได้พัฒนาจากสังคมแบบบุพกาล สังคมทาส สังคมศักดินา จนเข้าสู่ สังคมทุนนิยม ในปัจจุบัน ในสังคมทาส มีชนชั้นนายทาสและชนชั้นทาส ในสังคมศักดินา มีชนชั้นเจ้าขุนมูลนายและชนชั้นไพร่ ในสังคมทุนนิยม มีชนชั้นนายทุนและชนชั้นกรรมกร ความขัดแย้งและการต่อสู้ระหว่างชนชั้น ดังกล่าว ได้ผลักดันให้สังคมมนุษย์ พัฒนาก้าวไปข้างหน้าตามลำดับ จนเข้าสู่สังคมสังคมนิยม และสังคมคอมมิวนิสต์ซึ่งไม่มีชนชั้นในที่สุด
มาร์กซ์ได้วิเคราะห์ ในหนังสือ ชื่อ " ทุน " ว่า รูปแบบการผลิตทุนนิยม บังคับให้กรรมกร จำเป็นต้องขายแรงงานของตนเองในราคาถูกแก่นายทุน กำไรของนายทุน แท้จริงแล้ว เกิดจากการขูดรีด มูลค่าส่วนเกิน จากค่าแรงของกรรมกร
เพื่อกำไร ชนชั้นนายทุน จึงต้องพัฒนาเครื่องมือและวิธีการการผลิตให้ก้าวหน้า ขึ้นตลอดเวลา ต้องขยายตลาดสินค้า แหล่งวัตถุดิบและกิจการไปทั่วโลก การผลิตแบบทุนนิยมนี้ ได้ทำให้เกิดความปั่นป่วนและวิกฤติทางเศรษฐกิจ แบบวัฎจักร นั่นคือการผลิตล้นเกิน ท่ามกลางโลกที่อดหยากขาดแคลน เพื่อแก้ไขวิกฤติการผลิตล้นเกิน และรักษาราคาของผลผลิตให้สูงกว่าต้นทุน จึงต้องทำลายผลผลิตส่วนเกิน ออกจากตลาด พยายามขยายตลาดใหม และใช้ตลาดเก่าให้เป็นประโยชน์ ซึ่งผลสุดท้าย ก็จะนำไปสู่วิกฤตที่รอบด้าน ยิ่งขึ้นและรุนแรงยิ่งขึ้น ทำใหความขัดแย้งทางชนชั้นในสังคมรุนแรงขึ้น จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสังคม ในที่สุด
มาร์กซ เห็นว่า สิทธิ เสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ในสังคมทุนนิยม นั้น เป็นจริงเฉพาะกับผู้ที่มีทรัพย์สิน สำหรับกรรมกรและคนยากจนแล้ว สิ่งเหล่านี้ เป็นเรื่องหลอกลวงและจอมปลอม
สังคมสังคมนิยม ที่มนุษย์ได้รับค่าตอบแทนตามผลงาน ได้รับความคุ้มครองจากรัฐและกฎหมายเท่าเทียมกัน ได้รับความช่วยเหลือด้านการศึกษาและสาธารณะสุข รวมทั้งโอกาสในการพัฒนาตนเอง ให้ก้าวหน้าและมีชีวิตที่มีความสุข ย่อมจะเข้ามาแทนที่สังคมทุนนิยม ในที่สุด
[แก้] ลัทธิมาร์กซ์ในปัจจุบัน
ทฤษฎีของลัทธิมาร์กซ์ ได้รับการยึดถือ แปลความและวิพากษ์วิจารณ์ จากบรรดานักวิชาการ นักการเมือง พรรคการเมือง รัฐบาล องค์กรต่างๆทั่วโลก รวมทั้งประชาชนจำนวนมาก นับตั้งแต่ทฤษฎีินี้ ได้กำเนิดขึ้นตลอดมา ตราบจนถึงปัจจุบัน จนกล่าวได้ว่า เป็นทฤษฎี ที่ได้รับการพูดถึง และอ้างอิงมากที่สุดทฤษฎีหนึ่ง ไม่ว่าจากฝ่ายที่เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยก็ตาม
นับจากที่ได้กำเนิดขึ้นในกลางศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา ได้มีคนนำลัทธิมาร์กซ์ไปใช้เป็นจำนวนมาก คนเหล่านี้ในปัจจุบันแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ
กลุ่มแรก คือ กลุ่มคนที่เชื่อมั่นในลัทธิมาร์กซ์แบบดั้งเดิม และนำลัทธิมาร์กซ์ ไปประยุกต์ใช้ โดยเน้นถึงความถูกต้อง ตรงตามทฤษฎีอย่างเคร่งครัด พวกนี้ จะเรียกตนเองว่า เป็นนักลัทธิมาร์กซ์ และกล่าวหากลุ่มที่สองว่าเป็นพวกลัทธิแก้
กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มคนที่เห็นว่า ทฤษฎีบางส่วนของลัทธิมาร์กซ์ ไม่ถูกต้องและไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบันแล้ว แต่ทฤษฎีบางส่วนของลัทธิมาร์ืกซ์ ยังคงถูกต้องและสามารถใช้ได้ จึงนำเอาเฉพาะส่วนที่ยังใช้ได้ ไปประยุกต์ใช้ตามมุมมองของกลุ่มตน โดยไม่ยึดถือทฤษฎีลัทธิมาร์กซ์ ดั้งเดิมอย่างเคร่งครัดเหมือนกลุ่มแรก แต่้ยังเรียกกลุ่มตนว่า เป็นนักลัทธิมาร์กซ์
กลุ่มที่สาม คือ กลุ่มคนที่ไม่ได้เชื่อถือในทฤษฎีลัทธิมาร์กซ์ แต่นำเฉพาะแนวคิดหรือข้อเขียนบางส่วนที่ตรงกับแนวคิดของตน มาใช้อ้างอิง ในการอธิบายปรากฏการณ์ทางสังคม ทางเศรษฐกิจ ทางการเมือง หรือทางอื่นๆ เช่น ข้อเขียนของทอฟเลอร์ ซึ่งถือว่าเป็นนักอนาคตศาสตร์ที่มีชื่อเสียง ของสหรัฐ เป็นต้น ดังนั้น ในปัจจุบันเราจึงสามารถพบเห็น คำพูดหรือแนวคิดบางอย่าง ของลัทธิมาร์กซ์ ปรากฏในหนังสือ วารสาร และบทความต่างๆอยู่เสมอ
 |
ลัทธิมาร์กซ เป็นบทความเกี่ยวกับ การเมือง การปกครอง หรือ กฎหมาย ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น ข้อมูลเกี่ยวกับ ลัทธิมาร์กซ ในภาษาอื่น อาจสามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ด้านซ้ายมือ |
