See also ebooksgratis.com: no banners, no cookies, totally FREE.

CLASSICISTRANIERI HOME PAGE - YOUTUBE CHANNEL
Privacy Policy Cookie Policy Terms and Conditions
ไซบีเรียนฮัสกี้ - วิกิพีเดีย

ไซบีเรียนฮัสกี้

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ไซบีเรียนฮัสกี้
ถิ่นกำเนิดของสายพันธุ์
ถิ่นกำเนิด Flag of รัสเซีย รัสเซีย (ไซบีเรีย)
มาตรฐานสายพันธุ์
น้ำหนัก เพศผู้ 45-60 ปอนด์ (20½-27 กิโลกรัม)

เพศเมีย 35-50 ปอนด์

ส่วนสูง เพศผู้ 21-23½ นิ้ว (53-60 ซ.ม.)

เพศเมีย 20-22 นิ้ว

ลักษณะขน ขน 2 ชั้น ฟูแน่น
สีขน ดำ เทา ทองแดง บนพื้นขาว
จัดอยู่ในกลุ่ม working dog

ไซบีเรียนฮัสกี้ (รัสเซีย: Сибирский хаски, Sibirskiy Haski) เป็นสุนัขขนาดกลาง ขนฟูแน่น จัดอยู่ในกลุ่มสุนัขใช้งาน(Working dog) มีต้นกำเนิดทางตะวันออกของไซบีเรีย เพาะพันธุ์มาจากสุนัขในวงศ์สปิตซ์ มีลักษณะขม 2 ชั้นฟูแน่น, หางรูปเคียว, หูเป็นรูปสามเหลี่ยมตั้งชัน และลายที่เป็นลักษณะเฉพาะ

แข็งแรง คล่องแคล่ว เต็มไปด้วยพลังและยืดหยุ่นเป็นคุณสมบัติที่สืบทอดจากบรรพบุรุษที่มาจากสิ่งแวดล้อมที่หนาวเย็นอย่างรุนแรงของไซบีเรียและการเพาะพันธุ์ของชาวชุกชี(Chukchi)ที่อาศัยอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเอเชีย มันถูกนำเข้ามาในอะแลสกา ระหว่างช่วงตื่นทองที่เมืองนอมน์(Nome) และแพร่เข้าสู่สหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดาในฐานะสุนัขลากเลื่อน. ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นสุนัขเลี้ยงตามบ้านในภายหลังอย่างรวดเร็ว

เนื้อหา

[แก้] ลักษณะทั่วไป

ไซบีเรียนเพศเมียสีแดงอ่อน
ไซบีเรียนเพศเมียสีแดงอ่อน

ไซบีเรียนฮัสกี้มีรูปร่างลักษณะภายนอกคล้ายกับอลาสกันมาลามิวเช่นเดียวกับสายพันธุ์อื่นๆที่พัฒนาสายพันธุ์มาจากสุนัขวงศ์สปิตซ์เช่นซามอย ไซบีเรียนมีขนหนาแน่นกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่น มีสีและรูปแบบขนที่หลากหลาย โดยปกติมีสีขาวที่เท้า, ขา, ท้อง, รอบตาหรือเป็นหน้ากากที่หน้า และที่ปลายหาง ทั่วไปมีสีดำ-ขาว, เทา-ขาว, ทองแดง-ขาว, และขาวปลอด และยังมีแบบที่เป็นเอกลักษณะเฉพาะ เช่น สีอ่อน แต้มจุด แว่นตา ฯลฯ บางครั้งก็มีลักษณะคล้ายหมาป่าเกิดขึ้น แม้ว่าในการพัฒนาพันธุ์ไม่มีความใกล้ชิดกับหมาป่าหรือสายพันธุ์ที่ใกล้ชิดเลย คิดว่าเกิดจากการเพาะพันธุ์ที่ไซบีเรียแล้ว

ไซบีเรียนฮัสกี้ "ตา 2 สี", "จมูกหิมะ", สีแดง
ไซบีเรียนฮัสกี้ "ตา 2 สี", "จมูกหิมะ", สีแดง

[แก้] ตา

สีตาของไซบีเรียนฮัสกี้ที่เป็นที่ยอมรับมีสีฟ้าหรือน้ำตาลเข้ม, เขียว, น้ำตาลอ่อน, เหลือง/อำพัน, "แก้วตาหลายสี" หรือตาเฮเซล(Hazel) เป็นจุดบกพร่องร้ายแรงที่แสดงวงสีต่างกันในแก้วตา รวมถึงตาข้างนึงสีน้ำตาลอีกข้างสีฟ้า (complete heterochromia) หรือตาข้างเดียวหรือทั้ง 2 ข้างมีสี "แบ่งส่วน" น้ำตาลครึ่งฟ้าครึ่ง (partial heterochromia) นี่คือสีตาทั้งหมดที่ถูกพิจารณายอมรับโดยสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (สหรัฐอเมริกา) ตาต้องเป็นรูปอัลมอนด์ เว้นระยะห่างกันปานกลาง วางตัวเฉียงเล็กน้อย [1]


ดูสีตาเพิ่มเติม

[แก้] หูและหาง

หูเป็นรูปสามเหลี่ยม, มีขนสมบูรณ์, ขนาดกลาง, และตั้งชัน ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยๆในการพัฒนาพันธุ์โดยสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข เช่นสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (สหรัฐอเมริกา) ที่มีรูปหูที่เรียกว่าหูผึ่ง(prick ears) มันหางเป็นพู่เหมือนหางหมาจิ้งจอกรูปเคียวโค้งเหนือหลังและลากหางไปด้านหลังเมื่อเคลื่อนไหว ไซบีเรียนฮัสกี้ส่วนมากมีสีขาวตรงปลายหาง[2]หางต้องไม่โค้งจนแตะหลังเหมือนสปิตซ์ สีออกแกมขาว

[แก้] ขน

ขนของไซบีเรียนฮัสกี้มี 2 ชั้น, ขนชั้นในที่หนาแน่นและขนชั้นนอกที่ยาวกว่า ขนชั้นนอกยาวตรงและบางส่วนเหยียดเรียบไม่ชี้ชันตั้งตรงจากลำตัว ที่สามารถปกป้องมันจากความรุนแรงของฤดูหนาวขั้วโลกเหนือได้ แต่ขนที่หนานั้นทำให้มันยากที่อยู่อย่างสบายในฤดูร้อน ขนยาวแบบที่เรียกว่า "wooly huskies" นั้นไม่เป็นที่ยอมรับ และไม่มีสิทธิ์ลงแข่งในสนามประกวด


ดูสีขนเพิ่มเติม

[แก้] จมูก

ไซบีเรียนฮัสกี้บางตัวมีจมูกที่เรียกว่า "จมูกหิมะ" เป็นสภาวะที่เรียกว่าผิวด่าง(hypopigmentation)ในสัตว์ ในสุนัขระดับประกวดจะไม่มีจมูกแหลมหรือจมูกสี่เหลี่ยม จมูกมีสีดำในสีเทา สีแทนและสีดำ สีเลือดหมูในสีทองแดง และอาจจะมีสีเนื้อในสุนัขสีขาว "จมูกหิมะ" สามารถลงประกวดได้[3] [4]

[แก้] ขนาด

  • เพศผู้
    • สูง : 21 - 23.5 นิ้ว (53.5 - 60 ซ.ม.)
    • น้ำหนัก : 45 - 60 ปอนด์ (20.5 - 28 กิโลกรัม)
  • เพศเมีย
    • สูง : 20 - 22 นิ้ว (50.5 - 56 ซ.ม.)
    • น้ำหนัก : 35 - 50 ปอนด์ (15.5 - 23 กิโลกรัม)

[5]

[แก้] อารมณ์

ไซบีเรียนฮัสกี้ที่มีตาสีฟ้าน้ำแข็ง
ไซบีเรียนฮัสกี้ที่มีตาสีฟ้าน้ำแข็ง

ไซบีเรียนฮัสกี้ก็เหมือนสุนัขใช้งานทั่วๆไปที่มีพลังงานสูงต้องการการออกกำลังมาก มันควรได้รับการปฏิบัติแบบเพื่อนเดินทางและสุนัขลากเลื่อนไม่ใช่สุนัขอารักขา การรวมกันของปัจจัยนี้ส่งผลให้ไซบีเรียนฮัสกี้มีจิตประสาทที่สุภาพอ่อนโยนและซื่อสัตย์[6]

ชาวอินูอิต(Inuit)พัฒนาสายพันธุ์นี้ขึ้นมาเพื่อใช้ลากเลื่อนหนักเป็นระยะทางไกลๆและสามารถเอาตัวรอดได้การภูมิประเทศที่หนาวเย็นแบบทรุดรา(tundra)และช่วยในการล่าสัตว์[7]

ไซบีเรียนฮัสกี้ เพศเมีย อายุ 6 เดือน กำลังเล่นในหิมะ
ไซบีเรียนฮัสกี้ เพศเมีย อายุ 6 เดือน กำลังเล่นในหิมะ

[แก้] พฤติกรรม

พฤติกรรมของไซบีเรียนฮัสกี้ถูกมองว่าเป็นตัวแทนบรรพบุรุษของสุนัขบ้าน นั่นก็คือหมาป่า มันแสดงออกในรูปแบบพฤติกรรมของเทือกเถาเหล่ากอแบบกว้างๆ[8] บ่อยครั้งที่ชอบหอนมากกว่าเห่า[9] การแสดงออกที่มากเกินไปเกิดจากการถูกขับด้วยสัญชาตญาณในการล่า บุคลิกลักษณะของสุนัขที่เกิดจากการเพาะพันธุ์บ่อยครั้งที่เห็นได้ชัดในพฤติกรรมการละเล่นไล่จับสิ่งต่างๆในสิ่งแวดล้อมที่สุนัขแสดงออกมาคล้ายกับสุนัขล่าเนื้อมากกว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยง มันชอบวิ่งเป็นพิเศษ น่าจะเป็นเพราะจากประวัติการเพาะพันธุ์ในอเมริกาเหนือ ในการฝึกสุนัขให้เชื่อฟังคำสั่งควรใช้เวลา 15 นาที/วันดีที่สุด และทำทุกๆวัน[10]

[แก้] สุขภาพ

ไซบีเรียนฮัสกี้มีอายุเฉลี่ยราวๆ 12 - 16 ปี ข้อบกพร่องในตาแต่กำเนิดที่พบจากการเพาะพันธุ์ เช่น ต้อกระจกนิ่ม, กระจกตาเจริญผิดเพี้ยน, และจอตาฝ่อรุกลาม การเจริญผิดปรกติของเอวก็พบได้บ่อยเช่นกันในการเพาะเลี้ยงเหมือนกับสุนัขขนาดกลางหรือขนาดใหญ่ทั่วไป[11]

ไซบีเรียนฮัสกี้ที่เป็นสุนัขลากเลื่อนอาจมีโรคอื่นๆอีก เช่น โรคกระเพาะ[12], หลอดลมอักเสบ(ski asthma)[13], และแผลในกระเพาะ[14]

[แก้] ประวัติ

ในสุนัขทุกสายพันธุ์ที่ถูกพัฒนาพันธุ์เป็นผลมาจากบรรพบุรุษเดียวกันนั่นคือสุนัขป่าโบราณ(วงศ์ Canidae)[15] สุนัขเอซคิโม(สุนัขลากเลื่อน)เป็นสุนัขที่มีภาพลักษณ์กระตือรือร้นอย่าง ไซบีเรียนฮัสกี้, ซามอย, และอลาสกันมาลามิว ที่สืบสายตรงจากสุนัขลากเลื่อน[7] การวิเคราะห์ดีเอ็นเอที่ผ่านมาเมื่อเร็วๆนี้ช่วยยืนยันว่ามันเป็นหนึ่งในสุนัขที่มีการเพาะเลี้ยงมาแต่โบราณดังที่เห็นได้จากอลาสกันมาลามิว[16]

คำว่า "ฮัสกี้(husky)" ได้มาจากชื่อที่ใช้เรียกชาวอินนูอิต(Inuit)ว่า "ฮัสกี้ส์(huskies)" โดยคณะสำรวจคนขาว(Caucasian)คณะแรกๆที่มาถึงแผ่นดินของพวกเขา ส่วนคำว่า "ไซบีเรียน(Siberian)" ได้มาจากไซบีเรียนั่นเองเนื่องจากความคิดที่ว่าสุนัขลากเลื่อนนี้ถูกใช้ในการข้ามสะพานแผ่นดิน(land bridge)ของช่องแคบเบอร์ริ่งที่เป็นทางเข้าสู่หรือออกจากมลรัฐอะแลสกา[7], ซึ่งทฤษฎีนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในหมู่ผู้ที่ทำการศึกษาค้นคว้า[17] สุนัขที่สืบเชื้อสายมาจากสุนัขเอซคิโมสามารถพบได้ตลอดซีดโลกด้านเหนือจากไซบีเรียถึงประเทศแคนาดา, มลรัฐอะแลสกา, กรีนแลนด์, ลาบราดอร์(Labrador), และเกาะบัฟฟินค์(Baffin Island)[7]

ด้วยความช่วยเหลือของไซบีเรียนฮัสกี้ประชาชนของชนเผ่าต่างๆไม่เพียงแค่รอดตายเท่านั้นในการออกสำรวจดินแดนที่ไม่มีรู้จัก พลเรือเองโรเบิร์ต เพียร์รี่(Robert Peary)แห่งกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาก็ได้รับความช่วยเหลือจากสายพันธุ์นี้ระหว่างคณะสำรวจของเขาออกสำรวจขั้วโลกเหนือ บทบาทของไซบีเรียนฮัสกี้ในกระทำหน้าที่นี้ไม่สามารถเป็นที่หยั่งรู้ได้[7]

สุนัขจากแม่น้ำอานาเดียร์(Anadyr River)และพื้นที่รอบๆถูกนำเข้ามาในมลรัฐอะแลสกาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1908 (และเป็นเวลา 2 ทศวรรษ)ในช่วงตื่นทองเพื่อใช้เป็นสุนัขลากเลื่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน All-Alaska Sweepstakes (AAS)หรือการแข่งสุนัขลากเลื่อนทางไกลซึ่งเป็นระยะทาง 408 ไมล์ (657 กม.)จากเมืองนอมน์(Nome)ถึงเมืองแคนเดิล(Candle) ไปและกลับ "เล็กกว่า, เร็วกว่า และอดทนมากกว่า ในการบรรทุกน้ำหนักราว 100 - 120 ปอนด์ (45 - 54 กิโลกรัม)" มันเป็นส่วนสำคัญใกล้ชิดของผู้เข้าแข่งขันยาวนอมน์ที่มีชื่อเสียง ลีออนฮาร์ด เซพพารา(Leonhard Seppala)ที่เคยเป็นผู้เพาะเลี้ยงไซบีเรียนฮัสกี้มาก่อนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันตั้งแต่ปี ค.ศ. 1909 ถึงช่วง ค.ศ. 1920[7]

ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1925 กันเนอร์ คาเซ็น(Gunnar Kaasen) เป็นผู้นำเซรุ่มไปถึงเมืองนอมน์เป็นคนแรกในปี ค.ศ. 1925 เพื่อรักษาโรคคอตีบ ได้ออกจากเมืองนีนนานา(Nenana)สู่เมื่องนอมน์เป็นระยะทางมากกว่า 600 ไมล์ ด้วยความพยายามของผู้เดินทางและความช่วยเหลือของสุนัขลากเลื่อน การแข่งสุนัขลากเลื่อนสู่เมื่องอิดิตทารอต(Iditarod Trail Sled Dog Race)ที่จัดขึ้นก็เพื่อเป็นอนุสรณ์ของการขนส่งเซรุ่มนี้ และเหตุการณ์นี้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันในปี ค.ศ. 1995 ที่ชื่อ"บอลโต(Balto)" ตามชื่อของสุนัขนำทีมของกันเนอร์ และเพื่อเป็นเกียรติแก่สุนัขนำทีมบอลโต มีการสร้างรูปหล่อเหมือนที่ทำจากทองแดง ตั้งอยู่ในเซ็นทรอล ปาร์คในมลรัฐนิวยอร์ก มีคำจารึกดังนี้

อุทิศแก่จิตวิญญาณที่ทรหดของสุนัขลากเลื่อนที่นำเชื้อต้านพิษบนทางยากลำบากเต็มไปด้วยน้ำแข็ง 600 ไมล์, ข้ามน้ำที่แข็งตัว, ฝ่าพายุหิมะของขั้วโลกเหนือจากเมื่องนีนนานาสู่เมืองนอมน์ที่รอความช่วยเหลือให้พ้นจากโรคร้ายในฤดูหนาวปี ค.ศ. 1925 อดทน--ซื่อสัตย์--มีไหวพริบ[7]

ในปี ค.ศ. 1930 ไซบีเรียนฮัสกี้ตัวสุดท้ายถูกนำออกจากรัฐบาลโซเวียดใกล้กับพรมแดนของไซบีเรียเพื่อการแลกเปลี่ยนกับภายนอก ปีเดียวกันมีการจดทะเบียนรับรองสายพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้โดยสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (สหรัฐอเมริกา)เป็น 9 ปีหลังจากสายพันธุ์นี้ถูกจดทะเบียนในประเทศแคนนาดา ณ.วันนี้ไซบีเรียนฮัสกี้ที่จดทะเบียนในอเมริกาเหนือเป็นลูกหลานส่วนใหญ่ของไซบีเรียนฮัสกี้ที่ถูกนำเข้ามาในปี ค.ศ. 1930 และสุนัขของลีออนฮาร์ด เซพพารา เซพพาราเจ้าของคอกสุนัขในนีนนานาก่อนที่จะย้ายไปอยู่นิวอิงแลนด์ อาเทอร์ วาวเด็น(Arthur Walden)เจ้าของคอกสุนัขชินุก(Chinook)แห่งวอนนาแวมเซิด(Wonalancet) มลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ผู้มีไซบีเรียนฮัสกี้ในคอกที่โดดเด่น สุนัขตั้งแต่เริ่มก่อตั้งคอกของเขามาจากอะแลสกาโดยตรงและมาจากคอกของเซพพารา[7]

ก่อนที่จะมีชื่อเสียง, ในปี ค.ศ. 1933 ว่าที่พลเรือเอกริชาร์ด อี. เบอร์ด(Richard E. Byrd)แห่งกองทัพเรือได้ซื้อสุนัขไซบีเรียนฮัสกี้ราวๆ 50 ตัวด้วยตัวเขาเอง หลายๆตัวถูกรวบรวมและฝึกจากคอกชินุกในมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ เพื่อใช้ในคณะสำรวจของเบอร์ดที่เขาหวังจะเดินทางราวๆ 16,000 ไมล์ไปตามชายฝั่งของทวีปแอนตาร์กติกา ที่เรียกว่าปฏิบัติการกระโดดสูง(Operation Highjump) จากประวัติการเดินทางนี้เอง พิสูจน์ให้เห็นคุณค่าไซบีเรียนฮัสกี้เพราะขนาดที่พอเหมาะ และความเร็วที่ดีเยี่ยม[7] กองทัพสหรัฐอเมริกาได้ใช้ไซบีเรียนฮัสกี้ในการค้นหาและช่วยเหลือในขั้วโลกเหนือของคำสั่งขนส่งทางอากาศระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง [18]

[แก้] การแข่งขันสุนัขลากเลื่อน

บางครั้งไซบีเรียนฮัสกี้ยังถูกใช้เป็นสุนัขลากเลื่อนในการแข่งขันลากเลื่อนแต่บางครั้งการมีการใช้สายพันธุ์อลาสกันฮัสกี้(Alaskan Husky)ที่เป็นที่นิยมมากกว่าแทนหรือสุนัขล่าสัตว์ที่เกิดจากการพัฒนาพันธุ์เป็นพิเศษโดยเลือกจากความเร็วและขนที่หนาน้อยกว่า ระวางบรรทุกของไซบีเรียนฮัสกี้ที่ถูกพัฒนาพันธุ์อย่างเลือกเฟ้นสามารถดึงน้ำหนักระดับกลางเป็นระยะทางไกลๆด้วยฝีเท้าระดับปานกลางและโดยทั่วไปไม่สามารถทำความเร็วมากกว่านี้ติดต่อกันได้ ไซบีเรียนฮัสกี้ก็ยังเป็นที่นิยมใช้ในการแข่งขัน มันวิ่งได้เร็วกว่าสายพันธุ์สุนัขลากเลื่อนแท้ๆบางสายพันธุ์เช่นซามอย, ช้ากว่าแต่แข็งแรงกว่าอลาสกันมาลามิว ปัจจุบันทิศทางการพัฒนาพันธุ์แบ่งออกเป็นไซบีเรียนฮัสกี้สำหรับ “การแข่งขัน” และสำหรับ “การประกวด”

ในสหราชอาณาจักร การแข่งขันไซบีเรียนฮัสกี้มีขึ้นบนเส้นทางในป่าต้องใช้สามล้อที่ออกแบบพิเศษแทนเลื่อน นิยมแข่งในฤดูหนาว

[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น

Commons
คอมมอนส์ มีภาพและสื่ออื่นๆ เกี่ยวกับ:
ไซบีเรียนฮัสกี้

[แก้] อ้างอิง


aa - ab - af - ak - als - am - an - ang - ar - arc - as - ast - av - ay - az - ba - bar - bat_smg - bcl - be - be_x_old - bg - bh - bi - bm - bn - bo - bpy - br - bs - bug - bxr - ca - cbk_zam - cdo - ce - ceb - ch - cho - chr - chy - co - cr - crh - cs - csb - cu - cv - cy - da - de - diq - dsb - dv - dz - ee - el - eml - en - eo - es - et - eu - ext - fa - ff - fi - fiu_vro - fj - fo - fr - frp - fur - fy - ga - gan - gd - gl - glk - gn - got - gu - gv - ha - hak - haw - he - hi - hif - ho - hr - hsb - ht - hu - hy - hz - ia - id - ie - ig - ii - ik - ilo - io - is - it - iu - ja - jbo - jv - ka - kaa - kab - kg - ki - kj - kk - kl - km - kn - ko - kr - ks - ksh - ku - kv - kw - ky - la - lad - lb - lbe - lg - li - lij - lmo - ln - lo - lt - lv - map_bms - mdf - mg - mh - mi - mk - ml - mn - mo - mr - mt - mus - my - myv - mzn - na - nah - nap - nds - nds_nl - ne - new - ng - nl - nn - no - nov - nrm - nv - ny - oc - om - or - os - pa - pag - pam - pap - pdc - pi - pih - pl - pms - ps - pt - qu - quality - rm - rmy - rn - ro - roa_rup - roa_tara - ru - rw - sa - sah - sc - scn - sco - sd - se - sg - sh - si - simple - sk - sl - sm - sn - so - sr - srn - ss - st - stq - su - sv - sw - szl - ta - te - tet - tg - th - ti - tk - tl - tlh - tn - to - tpi - tr - ts - tt - tum - tw - ty - udm - ug - uk - ur - uz - ve - vec - vi - vls - vo - wa - war - wo - wuu - xal - xh - yi - yo - za - zea - zh - zh_classical - zh_min_nan - zh_yue - zu -