พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก ชื่อภาษาไทยของภาพยนตร์จีนกำลังภายใน เรื่อง Crouching Tiger, Hidden Dragon (ภาษาจีนกลาง : 臥虎藏龍) (พินอิน : Wòhǔ Cánglóng) นำแสดงโดย โจวเหวินฟะ, จางชิยี่, มิเชลล์ โหยว, เจิ้งเพ่ยเพ่ย กำกับโดย อั้งลี่ ออกฉายในปี พ.ศ. 2543
[แก้] เนื้อเรื่องย่อ
ระวังเสียอรรถรส ข้อความด้านล่างนี้กล่าวถึงเนื้อเรื่องหรือฉากจบ |
เรื่องราวเกิดขึ้นในยุคราชวงศ์ชิงรัชสมัยจักรพรรดิเฉียนหลง หลี่มู๋ไป๋ (โจวเหวินฟะ) จอมยุทธผู้ทรงคุณธรรมแห่งยุทธจักรตั้งใจจะวางกระบี่ และกลับไปใช้ชีวิตกับ ซูเหลียน (มิเชลล์ โหยว) จอมยุทธหญิงเจ้าของสำนักคุ้มภัยคู่หมั้น หลี่มู๋ไป๋มอบกระบี่ชะตาฟ้า กระบี่วิเศษคู่กายแก่ขุนนางผู้ใหญ่ผู้หนึ่ง แต่แล้วคืนหนึ่ง กระบี่ก็ถูกขโมยไปจากจวนขุนนาง
อีกด้านหนึ่ง อวี้เจียวหลง (จางชิยี่) บุตรสาวที่ใกล้พิธีวิวาห์ของขุนนางชั้นผู้ใหญ่อีกผู้หนึ่ง นางเป็นหญิงสาวที่ดูภายนอกเหมือนกุลสตรีในตระกูลสูงทั่วไป แต่แท้ที่จริงแล้วนางเป็นผู้ที่ชื่นชอบการฝึกฝนวรยุทธ มีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องการอยู่ใต้อาณัติใคร และต้องการเป็นอิสระ อวี้เจียวหลง เป็นลูกศิษย์ของนางจิ้งจอกเงิน (เจิ้งเพ่ยเพ่ย) ที่แฝงเป็นข้ารับใช้ของนางมาตลอด และอวี้เจียวหลงเป็นผู้ขโมยกระบี่ชะตาฟ้าเองโดยที่นางจิ้งจอกเงินไม่ได้สั่ง ในวันวิวาห์ ขณะที่กำลังส่งตัวเจ้าสาว นางจิ้งจอกเงินก็มาลักพาตัวเจนไป หลี่มู๋ไป๋ที่ประสงค์จะวางมือจากยุทธจักรแล้วต้องลุกขึ้นมาหวนสู่วงการอีกครั้ง ท้ายที่สุด หลี่มู๋ไป๋ต้องตาย และอวี้เจียวหลงก็ได้ค้นพบตัวเอง
[แก้] ปรากฏการณ์
Crouching Tiger, Hidden Dragon เป็นภาพยนตร์จีนกำลังภายในเรื่องแรกที่ฮอลลีวูดสร้างโดยร่วมกับทางไต้หวัน สร้างจากบทประพันธ์ดั้งเดิมของหวังตู้ลู่ โดยทีมงานใช้ชาวเอเชียล้วน ๆ เมื่อเข้าฉายในสหรัฐอเมริกาก็ได้สร้างปรากฏการณ์อย่างมาก เมื่อภาพยนตร์ได้รับความนิยมอย่างสูงสุด ด้วยเป็นเพราะชาวตะวันตกไม่เคยได้ดูภาพยนตร์ในแนวนี้มาก่อน อีกทั้งฉากบู๊และคิวการต่อสู้ก็ทำได้ดี เป็นธรรมชาติ จนได้รับรางวัลออสการ์ถึง 4 รางวัลด้วยกัน ได้แก่ ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม, กำกับภาพยอดเยี่ยม, ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม และเมื่อฉายในอีกหลายประเทศก็ได้รับรางวัลมากมายเช่นกัน
Crouching Tiger, Hidden Dragon ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียงอย่างมากให้แก่ อั้งลี่ ผู้กำกับ ในระดับโลกอย่างแท้จริง อีกทั้งยังเป็นการแจ้งเกิดของ จางชิยี่ นักแสดงหญิงตัวเอกในเรื่องด้วย และเป็นการเปิดศักราชให้แก่ภาพยนตร์กำลังภายในอีกครั้ง หลังจากเงียบหายไปนับ 10 ปี เพราะหลังจากนี้ก็ได้มีภาพยนตร์กำลังภายในอีกหลายเรื่องทะยอยสร้างตามมาและเข้าฉายในต่างประเทศทั่วโลก แต่สำหรับในประเทศไทยแล้ว เมื่อภาพยนตร์เข้าฉายกลับไม่ประสบความสำเร็จมากนักเหมือนในหลายประเทศ อีกทั้งคำวิจารณ์ก็ยังมีทั้งในแง่บวกและแง่ลบด้วย อาจเป็นเพราะสำหรับคนไทยแล้วภาพยนตร์ในแนวนี้เป็นที่คุ้นเคยดีและภาพยนตร์ก็ยังไม่อาจทำได้ถึงระดับเหมือนภาพยนตร์กำลังภายในเรื่องก่อน ๆ