See also ebooksgratis.com: no banners, no cookies, totally FREE.

CLASSICISTRANIERI HOME PAGE - YOUTUBE CHANNEL
Privacy Policy Cookie Policy Terms and Conditions
เทพมรณะ - วิกิพีเดีย

เทพมรณะ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เรื่อง เทพมรณะ ในบทความนี้ ยังคงดำเนินเรื่องอยู่
เนื้อหาและรายละเอียดอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่จะเผยออกมา
เทพมรณะ
เทพมรณะ
ชื่อไทย เทพมรณะ
ชื่อญี่ปุ่น ブリーチ
ชื่ออังกฤษ Bleach
ประเภท โชเน็น
แนว แอ็คชั่น, เหนือธรรมชาติ
หนังสือการ์ตูน
ผู้แต่ง คุโบะ ไทเทะ
สำนักพิมพ์ Flag of ญี่ปุ่น ชูเอฉะ
Flag of ไทย เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์
นิตยสาร Flag of ญี่ปุ่น โชเน็นจัมป์
Flag of ไทย บูม
ตีพิมพ์เมื่อ 5 มกราคม 2545 – ปัจจุบัน
จำนวนเล่ม 32 เล่ม, 317 บท
ภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์
ผู้กำกับ อาเบะ โนริยุกิ
ออกแบบตัวละคร คุโด มาซาชิ
ผลิตโดย Flag of ญี่ปุ่น สตูดิโอปิเอโร
ฉายทาง Flag of ญี่ปุ่น ทีวีโตเกียว
ฉายครั้งแรก 5 ตุลาคม 2547 – ปัจจุบัน
จำนวนตอน 171 (ยังไม่จบ)
สารานุกรมการ์ตูน ส่วนหนึ่งของสารานุกรมการ์ตูนญี่ปุ่น

เทพมรณะ หรือ บลีช (「ブリーチ」 Burīchi – ในชื่ออังกฤษว่า Bleach?) เป็นผลงานการ์ตูนญี่ปุ่นของคุโบะ ไทเทะ ซึ่งในขณะนี้ถูกตีพิมพ์ลงนิตยสารโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์ในประเทศญี่ปุ่น ส่วนในประเทศไทยนั้น บลีชกำลังถูกตีพิมพ์ในนิตยสารบูม โดยมีสำนักพิมพ์เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ นอกจากนี้ ในปัจจุบันบลีชกำลังถูกสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูนออกอากาศทางสถานีทีวีโตเกียวทุกวันอังคารเวลา 19.28 - 19.55 น. ตามเวลาประเทศญี่ปุ่น และในเมืองไทยฉายที่ช่อง ทรู สปาร์ค ปี 3 เริ่มวันที่ 18 มิถุนายน 2551 ทุกวันจันทร์-พุธ เวลา 19.00 - 19.30 น. และลิขสิทธิ์ DVD และ VCD ในเมืองไทยโดย โรส มิเดีย เอ็นเตอร์เทนเมนต์

เนื้อหา

[แก้] เนื้อเรื่อง

ระวังเสียอรรถรส ข้อความด้านล่างนี้กล่าวถึงเนื้อเรื่องหรือฉากจบ

[แก้] ภาคโซลโซไซตี้

เทพมรณะเป็นเรื่องของ คุโรซากิ อิจิโกะ (黒崎一護) นักเรียนมัธยมปลายอายุ 15 ปีผู้มีความสามารถมองเห็นวิญญาณ อิจิโกะได้พบกับชินิกามิ (ยมทูต) หญิงชื่อคุจิกิ ลูเคีย (朽木ルキア) ในขณะที่เธอกำลังตามล่าฮอลโลว์ (Hollow - วิญญาณปีศาจที่กินวิญญาณของมนุษย์เป็นอาหาร) ตนหนึ่ง ลูเคียเสียท่าให้กับฮอลโลว์ตนนั้นจึงจำเป็นต้องถ่ายทอดพลังของชินิกามิให้กับอิจิโกะ นับจากนั้น อิจิโกะจึงต้องทำหน้าที่ชินิกามิแทนลูเคียจนกว่าพลังของเธอจะกลับมา

หลังจากนั้น ทางโซลโซไซตี้เกิดระแคะระคายเรื่องของคุจิกิ ลูเคีย ว่าดูผิดสังเกตอย่างมาก จึงส่งยมทูตไปตรวจสอบและพบว่าลูเคียนั้นได้มอบพลังยมทูตของตนให้แก่อิจิโกะไปแล้ว ซึ่งทางโซลโซไซตี้นั้นถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง จึงส่งอาบาราอิ เร็นจิ(รองหัวหน้าหน่วยพิทักษ์ที่หก)และคุจิกิ เบียคุยะ(พี่ชายของลูเคีย/หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ที่หก)คุมตัวลูเคียกลับไปโซลโซไซตี้ อิจิโกะจึงพาพรรคพวก(ได้แก่ อิชิดะ อุริว,ซาโดะ ยาสึโทระ,อิโนะอุเอะ โอริฮิเมะ ชิบะ กันจูและ ชิโฮอิน โยรุอิจิ) ไปช่วยคุจิกิ ลูเคีย

เมื่อไปถึงเซเรย์เทย์ ทุกคนก็ได้แยกย้ายกันไปตามจุดโดยอิจิโกะต้องสู้กับนักสู้ลำดับ 3 มาดาราเมะ อิกคาคุ ส่วนกันจูต้องสู้กับ นักสู้ลำดับ 5 ยูมิจิกะ ซึ่งทั้ง 2 คนก็ชนะผ่านมาได้อย่างง่ายดาย ในระหว่างทางทั้ง 2 ก็ได้ไปพบ ฮานาทาโร่ นักสู้ลำดับ 7 ของหน่วย 4 ซึ่งต้องการจะช่วยลูเคียออกมา แต่ในระหว่างทางที่ไปหอสำนึกผิด ซึ่งเป็นที่ๆลูเคียถูกขัง พวกอิจิโกะได้ไปเผชิญหน้ากับ อาบาราอิ เร็นจิ รองหัวหน้าหน่วย 6 จึงได้สู้กัน ผลคือ อิจิโกะ ชนะ แบบ สะบักสะบอม ฮานาทาโร่จึงช่วยรักษาให้

ในด้านของแช้ด เขาได้เข้าไปในหน่วย 8 และได้จัดการนักสู้ลำดับ 3 ในเวลาต่อมา เขาต้องพบกับ เคียวราคุ ซุนซุย หัวหน้าหน่วย 8 ซึ่งเขาไม่สามารถที่จะสู้ได้จึงต้องพ่ายแพ้ไปและ ต้องถูกนำตัวไปขัง ในด้านของอุริว เขาได้เผชิญหน้ากับ คุโรซึจิ มายูริ หัวหน้าหน่วย 12 และ คุโรซึจิ เนมุ รองหัวหน้าหน่วย 12 ซึ่งเขาจำต้องใช้พลังขั้นสุดยอดแลกกับพลังของการเป็นควีนซี่ ทำให้เขาสามารถชนะได้ แต่เมื่อไปถึงหอสำนึกผิด โทเซ็น คานาเมะ หวหน้าหน่วย 9 ก็ได้มาดักรออยู่แล้ว เนื่องจากร่างกายที่สะบักสะบอมและพลังของเขาที่เพิ่งใช้หมดไป จึงต้องพ่ายแพ้อย่างน่าเสียดาย ทำให้อุริวต้องถูกขังคุกเหมือนกับแช้ด

กลับมาที่ด้านของอิจิโกะ กันจู และฮานาทาโร่ เขาต้องเผชิญหน้ากับ หัวหน้าหน่วย 11 ซาราคิ เคมปาจิ ซึ่งเขาได้บอกให้ฮานาทาโร่ และ กันจูหนีไป ส่วนตัวเขานั้นจะสู้เอง อิจิโกะทำการต่อสู้กับเคมปาจิ ซึ่งพลังของเขาไม่สามารถสู้ได้เลย จึงได้ร่วมมือกับซันเงสึ ทำให้สามารถชนะได้แต่ร่างกายที่สู้ต่อไม่ไหวเขาจึงต้องนอนอยู่ตรงนั้นต่อไป แต่ โยรุอิจิมาช่วยรักษาให้จนอิจิโกะหายดี เมื่อหายดีแล้ว อิจิโกะก็ได้รีบเร่งไปช่วยลูเคีย โดยที่โยรุอิจิยังไม่ได้บอกให้ไป

ในด้านของกันจูที่ เขาได้ไปพบลูเคียแล้ว แต่ก็ได้เผชิญหน้ากับ คุจิกิ เบียคุยะ หัวหน้าหน่วย 6 ซึ่งเบียคุยะใช้ เซ็มบงซากุระ ดาบฟันวิญญาณของเขาจัดการกันจูอย่างง่ายดาย แล้วอิจิโกะก็มาช่วย หลังจากสู้ไปได้ไม่นานโยรุอิจิก็ได้บังคับพาตัวอิจิโกะกลับไป ส่วนฮานาทาโร่และกันจูก็ถูกจับขังคุก

ในระหว่างนั้นอิจิโกะได้ฝึกฝนตัวเองกับซันเงสึ เพื่อฝึกฝนการใช้ปลดปล่อยสวัสดิกะ ซึ่งเขามีเวลาแค่ 3 วันเท่านั้น ซึ่งไม่นานเขาก็สำเร็จ และในเวลานั้นเอง เรนจิก็ได้คิดทรยศไปช่วยลูเคีย ซึ่งเขาต้องเผชิญกับ เบียคุยะ หัวหน้าหน่วยของเขา แต่เนื่องจากเบียคุยะใช้ปลดปล่อยสวัสดิกะ ทำให้เร็นจิต้องพ่ายแพ้ไป แต่แล้วฮานาทาโร่กับริคิจิก็ได้มาช่วยรักษาแผลให้เขา ทำให้เร็นจิสามารถกลับไปต่อสู้ได้

ในด้านของซาราคิ เขาได้พาโอริฮิเมะไปช่วยกันจู แช้ด และอุริวแล้วจึงพาทุกคนไปหยุดการประหารลูเคียแต่ก็ต้องเผชิญหน้ากับโทเซ็น และโคมามูระซึ่งซาราคิก็เอาชนะโทเซ็นได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อซาราคิจะฆ่าโทเซ็น โคมามูระก็ได้มาขวางไว้และได้ใช้ปลดปล่อยสวัสดิกะ แต่พอสู้ได้ไม่นาน โคมามูระก็หนีไปดื้อๆ

ในด้านของลูเคีย การประหารได้เริ่มขึ้นแล้วแต่แล้วอิจิโกะก็ปรากฏออกมาพร้อมกับทำลายแท่นประหาร ส่วนเร็นจิที่ตามมาก็ได้พาลูเคียหนีไป จากนั้นหัวหน้าหน่วย 13 อุคิทาเกะ จูชิโร่และ ซุนซุยก็ได้ปรากฏมาและได้ทำลายเครื่องประหารชื่อว่าโซเคียคุทิ้งจึงเกิดการต่อสู้กัน โดยที่อิจิโกะสู้กับเบียคุยะ อุคิทาเกะและซุนซุยสู้กับ ยามาโมโตะ โยรุอิจิสู้กับซุยฟง

ในด้านของอุคิทาเกะ ซุนซุย และยามาโมโตะ ทั้งสามหลังจากสู้กันได้ไม่นานก็ได้โดยปลดปล่อยดาบของตนออกมา ส่วนด้านโยรุอิจิกับซุยฟง หลังจากที่สู้กันไม่นาน ซุยฟงได้ปลดปล่อยดาบและใช้วิชาสุดยอดของหน่วยสังหาร ซึ่งทำให้โยรุอิจิถึงกับต้องแสดงพลังสุดยอดออกมา จึงทำให้ซุยฟงต้องพ่ายแพ้ไป ส่วนด้านอิจิโกะกับเบียคุยะ ทั้งสองสู้กันอย่างสูสีจนทำให้เบียคุยะต้องปลดปล่อยสวัสดิกะ เซ็มบ้งซากุระ คาเงโยชิ ซึ่งทำความเสียหายอย่างมากจนอิจิโกะต้องใช้ปลดปล่อยสวัสดิกะ เท็นสะ ซันเงสึหลังจากที่ฝึกมา 3 วัน ซึ่งจากการที่ปลดปล่อยสวัสดิกะนั้นได้สร้างความเสียหายจนทำให้ เบียคุยะต้องใช้ เซ็มบ้งซากุระ คาเงโยชิ ซูเคย์ ที่แปรสภาพจากซากุระมาเป็นดาบ หลังจากสู้ต่อไป ก็ได้เบียคุยะเกือบชนะอิจิโกะ แต่ร่างฮอลโลว์ของ อิจิโกะก็ได้เข้าแทรกและได้เล่นงานเบียคุยะซะน่วม แต่สุดท้ายอิจิโกะก็ได้กลับมาร่างเดิมและทั้ง 2 ฝ่ายได้งัดพลังสุดยอดออกมาใช้ และได้ปะทะกัน ผลที่ออกมาคือ อิจิโกะชนะ แล้วโอริฮิเมะกับคนอื่นก็มารับ

ในระหว่างนั้นงินได้ชวนฮินาโมริเข้ามาในหอแห่งหนึ่งพอฮินาโมริหันหลังไปก็ได้พบกับ หัวหน้าหน่วย 5 ไอเซ็น โซสึเกะ ซึ่งไอเซ็นได้ฆ่าฮินาโมริหลังจากที่เดินมาปลอบ ในเวลานั้นเอง โทชิโร่ ก็ได้มาเจอพอดีจึงโกรธมาก เลยใช้ปลดปล่อยสวัสดิกะ แต่ก็ยังสู้ไม่ได้ ซึ่งเป้าหมายของไอเซ็นคือโฮเงียคุซึ่งอยู่ในตัวลูเคีย โดยที่เขามี งินและโทเซ็น เป็นลูกน้อง จึงได้ตามไปหาเร็นจิ และได้ใช้กำลังเอาตัวลูเคียมา แต่อิจิโกะก็มาขวางแต่เขากลับสู้ไอเซ็นไม่ได้เลย ถึงแม้จะร่วมมือกับเร็นจิก็ตาม

หลังจากที่ไอเซ็นได้โฮเงียคุมาแล้วก็ได้ให้งินฆ่าลูเคีย แต่เบียคุยะกลับมาขวางทำให้ลูเคียรอดตาย และหัวหน้าหน่วยทั้งหมดก็ได้ยกเลิกการต่อสู้กันและได้มาหาไอเซ็น งิน และ โทเซ็น แต่ก็ได้มีแสงจากเมนอสมารับทั้ง 3 คน ทำให้หัวหน้าหน่วยที่เหลือทำอะไรไม่ได้เลย

หลังการกบฎของไอเซ็น อิจิโกะก็ได้กลับโลกมนุษย์พร้อมกับคนที่เหลือ โดยลูเคียบอกว่าจะอยู่โซลโซไซตี้ และในชั้นเรียน อิจิโกะได้พบกับ ฮิราโกะซึ่งเป็นไวเซิร์ด ฮิราโกะได้ชักชวนให้อิจิโกะมาเป็นพวกเดียวกันแต่อิจิโกะกลับปฏิเสธ และในระหว่างนั้นเอง เมนอส 2 ตัว ก็ได้ปรากฏตัวมาซึ่งตัวแรก ริวเคน พ่อของอุริว เป็นคนจัดการ ส่วนแกรนด์ฟิชเชอร์ อิชชิน พ่อของอิจิโกะเป็นคนจัดการ

[แก้] ภาคอารันคาร์

ในวันรุ่งขึ้นอิจิโกะก็ได้เจอฮิราโกะที่ยังตื๊อไม่หยุดแม้ว่าจะไล่ยังไงชินจิก็ยังจะตื๊อต่อไปจนกว่าอิจิโกะจะมาเป็นพวกไวเซิร์ด หลังจากนั้นไม่นานอารันคาร์ (ฮอลโลว์ที่ถอดหน้ากากออก) 2 ตนก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่โลกมนุษย์พร้อมกับดูดกลืนวิญญานมนุษย์ไปเป็นจำนวนมาก แช้ดกับอิโนะอุเอะจึงต้องไปหยุดยั้ง แต่แช้ดก็ถูกยามี่ หนึ่งในอารรันคาร์ที่มาบุกทำลายแขนขาด ส่วนอิโนะอุเอะที่กำลังจะถูกจัดการก็ได้มีอิจิโกะมาช่วย อิจิโกะได้ปลดปล่อย สวัสดิกะ และได้ทำการซ้อมยามี่ซะน่วม จนยามี่ต้องใช้ดาบฟันวิญญาน แต่ในระหว่างนั้นอิจิโกะก็ถูกเข้าแทรกโดยด้านโฮลโลว์หรืออิจิโกะสีขาว ทำให้เขาถูกยามี่ซ้อมซะเอง แต่ก่อนที่เขาจะโดนจัดการ โยรุอิจิกับคิสึเกะก็มาช่วย

โดยทั้ง 2คนได้ซ้อมยามี่ซะน่วมทำให้ยามี่โกรธจนต้องใช้ซีโร่ แต่ก็ถูกทำลายโดยเบนิฮิเมะของคิสึเกะ ขณะที่คิสึเกะกำลังจะปลิดชีพยามี่นั้น อุลคิโอร่า อาร์รันคาร์อีกคนก็ได้มาปัดคลื่นพลังที่คิสึเกะปล่อยออกมาเพื่อจัดการยามี่ทิ้งพร้อมกับซัดยามี่ไป 1 ทีแล้วจึงกลับไป ส่วนโอริฮิเมะกับ อิจิโกะก็ถูกพาตัวไปรักษา

ในเวลาต่อมา ยูมิจิกะ อิกคาคุ โทชิโร่ รันงิคุ และลูเคียก็ได้มาโลกมนุษย์ พร้อมกับอธิบายเรื่องฮอลโลว์ชันเมนอส กับ อาร์รันคาร์ให้อิจิโกะฟัง โดยอาร์รันคาร์ก็คือฮอลโลว์ที่ไขว่คว้าพลังยมทูตด้วยการถอดหน้ากากออก ถ้าเป็นฮอลโลว์ธรรมดาที่กล้ายเป็นอารันคาร์นั้นไม่ค่อยน่าหนักใจมากนัก แต่ ฮอลโลว์ชั้นเมนอสกรังเด้ที่กลายเป็นอารันคาร์จะน่ากลัวกว่า โดยเมนอสกรังเด้ยังแยกย่อยได้อีก 3 ชนิด คือ 1.กิลเลี่ยน มีจำนวนมาก ระดับพอๆกับทหารเลว ตัวใหญ่ 2.แอดจูคาส มีจำนวนน้อยกว่ากิลเลียน ฝีมือเก่งกว่ากิลเลียน ตัวเล็กกว่ากิลเลียน มีสติปัญญามากขึ้น และ 3.วาสโทรเด้ มีขนาดเล็กเท่ามนุษย์ ฝีมือสุดยอด ตัวเท่ามนุษย์ ระดับพลังวิญญาณสูงกว่าระดับหัวหน้าหน่วยด้วยซ้ำ ดังนั้นหากมีระดับวาสโทรเด้ที่กลายเป็นอารันคาร์สัก 20 คน โลกและโซลโซไซตี้พินาศแน่ ยามี่ กลับไปรายงานไอเซ็น ก็ได้พบว่ามีอาร์รันคาร์มากถึง 20ตน ซึ่งอุลคิโอร่าได้แสดงให้ไอเซ็นดูเกี่ยวกับการต่อสู้ทั้งหมด

หลังจากนั้นกริมจอว์ ผุ้เป็นหนึ่งใน 10 อารันคาร์ที่มีฝีมือสูงสุด(เอสปาด้า) เขาเป็นผู้มีความสามารถในลำดับ 6 ก็ได้บุกไปโลกมนุษย์ พร้อมกับ นาคีม อิลฟอร์ท เอโดราโด้ เชาหลง และดีรอย แต่ทุกคนก็ถูกกำจัดหมดยกเว้น กริมจอว์ โดยอิลฟอร์ท ถูกเร็นจิจัดการ นาคีมถูกรันงิคุจัดการ เอโดราโด้ถูกอิคาคุจัดการ ดีรอยถูกลูเคียจัดการ และเชาหลงถูกโทชิโร่จัดการ ส่วน กริมจอว์ได้สู้กับอิจิโกะแต่ใระหว่างทางโทเซ็นมารับ กริมจอว์จึงต้องกลับไปก่อน ทำให้อิจิโกะรอดเพราะกริมจอว์เกือบจะปลดปล่อยดาบแล้ว

หลังจบศึกสู้กับอาร์รันคาร์ชุดที่ 2 อิจิโกะได้ไปหาพวกไวเซิร์ดเพื่อที่จะหาวิธีกำราบฮอลโลว์ในตัวเขา ทำให้เขาต้องต่อสู้กับอีกด้านหนึ่งของเขาจนเอาชนะมาได้ด้วยการเร่งเร้า "สันชาตญาณ" ขึ้นมาข่มด้านฮอลโลว์เอาไว้ ต่อมาอิจิโกะ ได้ฝึกการแปลงสภาพเป็นฮอลโลว์ แต่ก็แปลงเป็นฮอลโลว์ได้นานแค่ 11 วินาที

ต่อมาไอเซ็นได้ทดลองปลดปลอ่ยสภาพจำศีลของโฮเงียคุได้สำเร็จด้วยการผสานพลังเข้ากับผู้ที่มีพลังกดดันวิญญาณในระดับหัวหน้าหน่วย(ซึ่งก็คือตัวเขาเอง) แล้วทดลอง สร้างอารันคาร์จากฮอลโลว์ปริศนาร่างเล็กเท่ามนุษย์(คาดว่าเป็นระดับอาจูคาสหรือวาสโตรเด)ที่ชื่อว่าวอนเดอร์ไวซ์ มัลเจร่า และหลังจากนั้นไอเซ็นก็ได้ส่งอารันคาร์ 4 ตน ไปบุกโลกมนุษย์ ซึ่งได้แก่ กริมจอว์ ยามี่ วอนเดอร์ไวซ์ และลูปี จึงได้เกิดการต่อสู้กัน ระหว่าง อารันคาร์กับยมทูต โดย อิจิโกะสู้กับกริมจอว์ ยามี่สู้กับคิสึเกะ วอนเดอร์ไวซ์นั่งเอ๋อ และลูปีสู้กับ โทชิโร่ ยูมิจิกะ อิกคาคุ และ รันงิคุ โดยผลออกมาคือ คิสึเกะเล่นงานยามี่ซะยับเยิน วอนเดอร์ไวซ์ยังคงนั่งเอ๋อต่อไป ลูปี ถูก โทชิโร่จัดการ ส่วนกริมจอว์ถูกชินจิซ้อม และ ในระหว่างนั้นเอง อุลคิโอร่าก็ได้มาห้ามกริมจอว์ไว้เนื่องจากภาระกิจชิงตัวโอริฮิเมะจบแล้ว อารันคาร์ทั้ง 5 จึงเดินทางกลับลาส์นอเช่ไป

หลังจากที่ทุกคนรู้ว่าโอริฮิเมะถูกอารันคาร์ลักพาตัวไป ก็ได้คิดจะไปช่วยแต่ถูกหัวหน้าใหญ่ ยามาโมโตะห้าม จึงต้องเดินทางกลับไปกันหมดทุกคน เหลือแต่อิจิโกะคนเดียว ซึ่งเขาก็ได้คิดจะไปช่วยโอริฮิเมะ เมื่อ อุริวกับแช้ดรู้ข่าว ก็ได้คิดจะไปช่วยโอริฮิเมะพร้อมกับอิจิโกะด้วยโดยก่อนหน้าที่จะไปฮูเอโก้ มุนโด้ อิจิโกะได้ไปโรงเรียนอีกครั้ง อาริซาว่า ทัตสึกิ เข้าไปถามอิจิโกะด้วยอาการโกรธแค้นเพราะอิจิโกะน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่โอริฮิเมะหายตัวไปมากที่สุด และได้ถามว่าโอริฮิเมะหายไปไหน เพราะ เธอไปหาที่บ้านก็ไม่พบ แต่อิจิโกะก็บอกทัตสึกิไม่ได้ และทัตสึกิจึงสารภาพว่าเธอได้เห็นอิจิโกะใส่ชุดของยมทูตต่อสู้กับอารันคาร์หลายครั้ง และขอให้อิจิโกะสารภาพความจริงทั้งหมด แต่อิจิโกะกลับปฏิเสธ

หลังเลิกเรียน เพื่อนๆ ของอิจิโกะ ซึ่งมี อาริซาว่า ทัตสึกิ อาซาโนะ เคโงะ โคจิมะ มิซึอิโระ ตามอิจิโกะไปยังร้านของอุราฮาร่า และก็ได้รู้ความจริงว่า ที่อิจิโกะทำไปก็เพราะเป็นห่วงโอริฮิเมะเหมือนกัน ทั้ง 3 บุกเข้าไปยังฮูเอโก้ มุนโด้ จนเหล่าเอสปาด้า รู้ตัว ทั้งแช้ด และอุริวได้จัดการอารันคาร์ที่เข้ามาขวาง ทั้ง 2 ตน และออกได้จากรังลับของอารันคาร์ และได้มาอยู่ตรงหน้าปราสาทและได้เดินทางเข้าไป

อีกด้านของของเหล่าเอสปาด้าได้ประชุมกันเพื่อรับมือกับเหล่าผู้บุกรุก จนเมื่อกริมจอว์ได้รู้ว่ามีอิจิโกะบุกเข้ามาด้วย ก็อยากจะสู้กับอิจิโกะ หลังจากจบการประชุมของเหล่าเอสปาด้า อุคิโอร่าที่มีหน้าที่ดูแลโอริฮิเมะก็ได้บอกแก่โอริฮิเมะว่า ได้มีเพื่อนมาช่วยโอริฮิเมะแล้ว

ทางฝ่ายของอิจิโกะเดินเท่าไหร่ก็ไม่ได้เข้าใกล้ ลาส์ นอเช่ เลย ทั้ง 3 เลยหยุดพัก ระหว่างนั้นก็ได้พบกับ อารันคาร์ 3 ตน ประกอบไปด้วย เนล เปชเช่ ดอนโดแจ็ค และสัตว์เลี้ยงชื่อ บาวาบาว่าโดยเข้าใจผิดว่าเนลเป็นมนุษย์เลยเข้าไปช่วย แต่เมื่อเห็นเนลมีหน้ากากเลยรู้ความจริงว่าเป็นฮอล์โลว์ ทั้ง 6 เลยขี่บาวาบาว่า ไปลาส์ นอเช่ และได้พบกับผู้เฝ้าชื่อลูนูกังก้า เลยต่อสู้กันแต่ไม่ได้รับชัยชนะ แต่ก็ได้รู้จุดอ่อนคือต้องใช้น้ำในการต่อสู้ แต่ก็ไม่สามารถหาน้ำได้เพราะอยู่ในทะเลทราย ในที่สุดก็มีท่าจากดาบฟันวิญญาณของลูเคีย(โซเดะโนะชิรายูกิ)มาช่วย ลูเคีย และเร็นจิที่มาช่วยอิจิโกะ ทั้งคุจิกิและเร็นจิได้หลบหนีจากโซล โซไซตี้จากการรู้เห็นของคุจิกิ เบียคุยะ ทั้ง 2 ก็ได้ว่ากล่าวอิจิโกะที่ด่วนเข้าฮูเอ้โก้ มุนโด้ หลังจากนั้นทั้ง อิจิโกะ และเร็นจิก็พังกำแพงด้านข้างของ ลาส์นอเช่สำเร็จ เหล่ายมทูตทั้ง 5 คน เมื่อเข้าฮูเอโก้ มุนโด้ต่าง ก็แยกทาง กันไปได้ 5 ทางและสัญญาว่าจะต้องรอดกลับมาอีกครั้ง ก็เหลือแต่อารันคาร์ เนลจึงเลือกทีจะตาม อิจิโกะไป เปชเช่ ก็ตามเนลไป แต่ผิดทาง ไปพบกับอุริว ดอนโดแจ็ค ก็ตามเนลไปเหมือนกันแต่เจอกันเร็นจิแทน

อิจิโกะได้ไปยังรังของเทรซซีรัฟ(3หลัก)หรือพีวารอน(เหล่าเอสปาด้าตกชั้น,อดีตเอสปาด้า)และได้ต่อสู้กับ อารันคาร์ No.103 ดอนโดนี่คิดว่าถ้าตนชนะอิจิโกะได้จะได้กลับไปเป็นเอสปาด้าดังเดิมจึงท้าอิจิโกะให้ปลดปล่อยสวัสดิกะและแปลงร่างเป็นฮอลโลว์โดยทำร้ายเนลเป็นตัวกระตุ้น สุดท้ายก็แพ้และถูกหน่วยเอ็กซีคิวส์(หน่วยล่าสังหาร)ที่ซาเอล อพอลโล่ส่งออกไปเก็บ อุริวก็สู้กับจิรุจิอารันคาร์ No.105 จิรุจจิแพ้และโดนหน่วยเอ็กซีคิวส์(หน่วยล่าสังหาร)เก็บเหมือนกับดอนโดนี่ส่วนแช้ดก็ได้แสดงพลังที่แท้จริงของแขนทั้งสองข้างของเขาออกมาขณะต่อสู้กับอารันคาร์ No.107 กันเทนไบน์ มอสเคด้า จนสามารถเอาชนะได้ไปได้อย่างสบายด้วย"ลาร์มูเอเต้"(การโจมตีของจอมมาร)ส่วนลูเคีย เจอกับ เอสปาด้าหมายเลข 9 อาโรนีโร่ อัลลูรี่ ปลอมเป็นไคเอ็นแต่ก็ชนะมาได้ด้วยระบำที่3 ชิราฟุเนะ(ดาบสีขาว) แต่ก็ไม่ทราบว่าตายรึยังเพราะถูกหอกแทงทะลุร่าง ส่วนเร็นจิเมื่อเจอกับดอนโดแจ็ค ก็ตกลงไปในหลุมพรางของ เอสปาด้าหมายเลข 8 ซาเอล อะพอลโล แกรนซ์แต่ก็ไม่สามารถเชนะได้เพราะดาบถูกสะกดไม่ให้ปลดปล่อยสวัสดิกะ

แต่แล้วหลังจากที่แช้ดชนะ เขาก็ต้องเจอกับเอสปาด้าหมายเลข 5 อย่างนอยโทร่าจึงได้แพ้ราบคาบ เพราะ ลาร์มูเอร์เต้ของแช้ดนั้นไม่สามารถโจมตีทะลุ"ฮิเอโร่"(ผิวเหล็ก)ของนอยโทร่าได้ และ โล่ของเขาก็ไม่สามารถป้องกันการโจมตีของ"ซานต้า เทเรซ่า"ดาบฟันวิญญาณของนอยโทร่าได้ ทางฝั่งอิจิโกะที่ได้เผชิญหน้ากับอุลคิโอร่านั้นอิจิโกะได้ปลดปล่อยสวัสดิกะเข้าต่อสู้เเละเเปลงเป็นฮอลโลว์เข้าโจมตีเเต่อุลคิโอร่าใช้เเค่เเขนข้างเดียวซัดอิจิโกะกระเด็นเเละหน้ากากก็เเตก เเละในที่สุดอิจิโกะรู้ว่าอุลคิโอร่าไม่ใช่เอสปาด้าหมายเลข1เเต่เป็นหมายเลข4(Cuator Espada )เเละใช้ซีโร่ซัดอิจิโกะตกลงไปแล้วเจาะรูที่หน้าอกตำแหน่งเดี่ยวกับของตน

ตัดกลับมาที่อุริวซึ่งชนะจิรุจจิแล้วก็ได้ไปเจอกับเร็นจิที่สู้อยู่กับ อะพอลโล แล้วอุริวได้ช่วยต่อสู้โดยใช้ สเปรงเกอร์(ขอบเขตทำลายล้าง)ซึ่งใช้ เซ่เล่ชไนเดอร์ วางเป็นรูปกางเขนควินซี่แล้วหยดอณูวิญญาณควบแน่นลงไปทำให้เกือบชนะ อะพอลโล แต่เพราะ อะพอลโล กิน ฟรานเชี่ยน ของเขาทำให้รักษาอาการบาดเจ็บได้หมด ตัดกลับไปที่อิจิโกะที่นอนสลบอยู่แล้วกริมจอว์ ก็โผล่มาโดยพา อิโนะอุเอะ มาด้วยแล้วให้รักษา อิจจิโกะ เพราะจะสู้กับอิจจิโกะในสภาพที่ไม่มีบาดแผล ระหว่างรักษา อุลคิโอร่า ก็โผล่มานำตัวอิโนอุเอะกลับไป แต่กริมจอว์มาขวางไว้เลยเกิดการปะทะขึ้นแล้วกริมจอว์ก็ใช้ คาฮาเนกาเชี่ยน ขังอุลคิโอร่าไป เมื่ออิจิโกะฟื้นแล้วก็ทำการต่อสู้ กับกริมจอว์

หลังจากที่อิจิโกะปลดปล่อยสวัสดิกะแล้วต่างฝ่ายต่างจู่โจมเข้าหากันทันที ท่ามกลางการต่อสู้นั้น เนลซึ่งเกลียดการต่อสู้ และเป็นห่วงอิจิโกะอีกทำให้เนลกลัวการต่อสู้มากยิ่งขึ้น แต่อิโนะอุเอะก็ยังคงปลอบประโลมว่าอิจิโกะต้องทำได้ และยังมั่นใจอีกว่าอิจิโกะต้องชนะเพื่อทำให้เนลสบายใจ ทั้งๆที่ตัวเธอเองนั้น ยังหวาดหวั่นในใจ การต่อสู้นั้นไม่มีใครต่างยอมใคร เพราะการต่อสู้นี้เป็นนัดชี้ชะตา และจะไม่มีใครขัดขวางได้ แต่แล้วกริมจอว์ก็ปล่อย ซีโร่ที่ทางอานุภาพมากที่สุดในหมู่เอสปาด้าคือ กรังด์ เรย์ ซีโร่(ลำแสงราชันย์ฮอลโลว์) แต่สิ่งที่อิจิโกะปล่อยออกมาคือ พลังของฮอลโลว์ในตัวอิจิโกะในรูปหน้ากากฮอลโลว์ ทำให้สิ่งที่กริมจอว์คาดหวังนั้นประสบผลแล้ว การที่กริมจอว์ปล่อยพลังนี้ออกมา อิโนะอุเอะและเนลก็รับรู้ถึงพลังนั้น ทำให้ความกลัวนั้นยิ่งน่าเกรงกลัวยิ่งขึ้นและยังสัญญาว่าจะทำให้มันจบลง

เมื่อสิ่งที่คาดหวังมาถึงก็ถึงเวลาที่กริมจอว์ปลดปล่อยดาบของตัวเองเช่นกัน "จงเสียดเสียง แพนเทร่า (ราชันย์พยัคฆ์)" อิจิโกะบอกให้อิโนะอุเอะกั้นโล่สามสวรรค์หน้าตัวเองกับเนล เมื่อการต่อสู้ดำเนินต่อไป อิจิโกะตะลึงกับแรงอัดเสียงของกริมจอว์ ไม่รอช้า กริมจอว์จู่โจมอิจิโกะอย่างรวดเร็ว ทำให้อิจิโกะบาดเจ็บอย่างไม่น่าสงสัย แถมยังดูถูกเพราะรู้ดีว่าฝีมือของอิจิโกะไม่ใช่แค่นี้ และอิจิโกะก็จู่โจมโดยใช้ เก็คขะ(เขี้ยวจันทรา) เท็นโช (ทะลวงสวรรค์)การบาดเจ็บของกริมจอว์ทำให้ความแค้นเกิดขึ้น กริมจอว์ตอบโต้อย่างไม่ยั้ง ทำให้หน้ากากของอิจิโกะแตกเหลือเศษส่วนเพียงเล็กน้อย แต่นั้นก็เป้นการกระตุ้นอิจิโกะด้วย ทำให้อิจิโกะต้องนำดาบที่คมกริบ ฟาดฟันกริมจอว์ด้วยพลังฮึดสุดท้าย กริมจอว์พ่ายแพ้อย่างหมดท่า แต่ดีใจได้เพียงไม่นานกริมจอว์ลุกขึ้นมาอย่างขี้แพ้ชวนตี แต่อิจิโกะไม่ต้องการจะต่อสู้แล้ว เพราะรู้ผลว่ากริมจอว์นั่นแพ้แล้ว แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น นอยโทร่า(เอสปาด้าหมายเลข 5) เข้ามาปรากฏตัวพร้อมโจมตีกริมจอว์ จนหมอบไป อิจิโกะที่หมดเรี่ยวแรง ผลจากที่ต่อสู้กับกริมจอว์เข้าต่อสู้ ระหว่างที่ทั้ง 2 กำลังต่อสู้กัน เนลที่สูญเสียหน้ากากฮอลโลว์ ได้ค่อยๆกลายร่างเป็นเนลเลียน ซึ่งก็คือ อดีตเอสปาด้าอันดับที่ 3 โดยเนเลียนต่อสู้กับดอยโทร่า ได้สูสี จนสามารถจะล้มได้แล้ว ทว่า เนลเลียนได้กลับคืนร่างเดิม อันตรายได้คลืบคลานสู่อิจิโกะ และ เนล ด้าน อิชิดะและเรนจิ ได้ต่อสู้กับ ซาเอลอพอลโล่ รอบ 2 คราวนี้ เขาได้ใช้ไม้ตายเหมือนตุ๊กตาลงทัณฑ์ ใช้ค่อยๆทรมานทั้ง 2 ทางอิจิโกะ ขณะที่กำลังจะจนมุม ซาราคิ เค็นปาจิ ก็เข้ามาช่วยอิจิโกะสู้กับ นอยโทร่าด้วย และ คุจิกิ เบียคุยะ ก็เข้ามาสู้กับ โซมารี เอสปาด้า หมายเลข 7 ซึ่งสามารถเอาชนะได้ด้วยการใช้ เซมบ้ง ซากุระ คาเงโยชิ เช่นกันทางนอยโทร่าก็พ่ายแพ้แก่ ซาราคิ แต่แล้ว โอริฮิเมะก็ถูก สตาร์ค จับตัวไป เมื่อพบกับไอเซ็น ไอเซ็นจึงจะไปหาโอเค็น ซึ่งดันเจอ 13 หน่วยพิทักษ์แห่งโซลโซไซตี้มา เพื่อขัดขวาง ซึ่งทาง ลาสต์นอเช่ ก็ฝากให้อุลคิโอร่า จัดการ อิจิโกะ ก็เลย เข้าปะทะกับ อุลคิโอร่า ซีเฟอร์อีกครั้ง โดยจะมีการย้อนอดีตของพวกไวเซิร์ดเเละเรื่องต่างๆในโซลไซไซตี้และการกำเนิดไวเซิร์ด เมื่อย้อนอดีตเสร็จ พวกไวเซร์ดก็เริ่มเคลือนไหวอีกครั้งเพื่อปะทะกับไอเซน

[แก้] ตัวละคร

ดูรายละเอียดตัวละครเพิ่มเติมได้ที่ ตัวละคร เทพมรณะ

[แก้] โลกของบลีช

[แก้] โซลโซไซตี้

ในโลกของบลีช กรรมที่คนคนหนึ่งทำขณะมีชีวิตเป็นตัวกำหนดที่ที่วิญญาณของคนคนนั้นจะไปหลังความตาย วิญญาณของคนดี จะถูกส่งไปที่ โซล โซไซตี้ (Soul Society) ซึ่งคนโดยทั่วไปเรียกว่า "สวรรค์" สำหรับฮอลโลว์ที่ถูกทำลายด้วยดาบฟันวิญญาณ ดาบฟันวิญญาณจะชำระบาปที่ทำไปในระหว่างเป็นฮอลโลว์ให้ หากก่อนตายเป็นคนดีก็ไปโซลโซไซตี้ หากเป็นคนชั่วจะถูกส่งไปยังนรก แม้ว่านรกในบลีชจะมีความหมายเหมือนนรกโดยทั่วไปคือเป็นสถานที่สำหรับลงโทษผู้ทำบาป แต่โซลโซไซตี้ไม่ใช่สถานที่ปูนบำเหน็จผู้ทำกรรมดีเหมือนสวรรค์ กลับเป็นแค่ชุมชนของวิญญาณที่มีสภาพสังคมคล้ายกับประเทศญี่ปุ่นสมัยโบราณ โซลโซไซตี้ทำหน้าเป็นที่พักของวิญญาณก่อนที่จะไปเกิดเป็นมนุษย์ใหม่อีกครั้ง แบ่งเขตเป็น 2 เขตใหญ่คือ "ลูคอนไก" (流魂街) ซึ่งมีเขตการปกครองทั้งหมด 320 เขต ซึ่งเป็นสถานที่อาศัยของวิญญาณเร่ร่อน กับ "เซเรยเทย์" (瀞霊廷) ที่อยู่กึ่งกลางของโลกโซลโซไซตี้ ซึ่งเป็นที่อาศัยของเหล่ายมทูตและตระกูลขุนนางในโซลโซไซตี้ พวกที่ไม่ใช่ยมทูตแต่ทำการบุกเข้ามาในเขตของเซยเรเทย์โดยไม่ได้รับอนุญาตจะถูกเรียกว่า "เรียวกะ" ซึ่งหากทาง 13 หน่วยพิทักษ์สามารถควบคุมตัวไว้ได้ เรียวกะจะถูกนำไปพิพากษาโทษหนักหรือเบาตามความผิดที่ได้ก่อไว้กับทางเซเรย์เทย์

โซลโซไซตี้ เป็นมิติที่ประกอบด้วยอนูวิญญาณเป็นพื้นฐาน ไม่ว่าสิ่งก่อสร้าง ต้นไม้ ก้อนหิน หรือพื้นดิน ดังนั้นวิญญาณที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้จึงอยู่ในสภาพของสิ่งมีชีวิตที่มีอนูวิญญาณเป็นพื้นฐาน คล้ายคลึงกับโลกที่มีอนุภาคต่างๆ เป็นพื้นฐานของมวลสารนั่นเอง วิญญาณจึงมีอวัยวะมีเลือดเฉกเช่นเดียวกับร่างกายมนุษย์ต่างกันเพียงอนุภาคมูลฐานเท่านั้น

[แก้] นรก

สถานที่ซึ่งวิญญาณที่มีบาปในจิตใจจะต้องไป ในเรื่องเทพมรณะนี้ เมื่อเหล่าวิญญาณบาปที่กลายสภาพเป็นฮอลโล่ว์ได้รับการปลดปล่อยแล้ว ประตูนรกก็จะมาปรากฏและดึงวิญญาณดวงนั้นลงสู่ขุมนรกในทันที เพราะดาบฟันวิญญาณของยมทูตจะชำระบาปที่ทำระหว่างเป็นฮอลโลว์ให้เท่านั้น(บาปหลังความตาย) ไม่ได้ชำระบาปที่ทำขึ้นในระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่

[แก้] ฮูเอโก้ มุนโด้

โลกของเหล่าฮอลโล่ว์ เป็นสถานที่ซึ่งเหล่าฮอลโล่ว์จำนวนมากเข้ามาอาศัยรวมกันอยู่ ลักษณะของพื้นที่เป็นทะเลทรายสีขาวและขุนเขาน้อยใหญ่กระจายอยู่ทั่ว และปรากฏดวงจันทร์บนฟ้าอยู่ตลอดซึ่งจะแตกต่างจากดวงจันทร์ของโลกโดยสลับซ้ายขวาเหมือนส่องกระจก และบรรยากาศของที่นี่จะมืดสลัวโดยตลอด โดยเมื่อเหล่าฮอลโล่ว์จะเดินทางมายังโลก ก็จะใช้วิธีฉีกห้วงมิติออกมา

[แก้] คาแร็กเตอร์ของเทพมรณะ

[แก้] มนุษย์

ในเรื่องเทพมรณะ เหล่ามนุษย์ที่ในเรื่องจะดำเนินในสังคมของประเทศญี่ปุ่น มนุษย์ในที่นี้ก็จะเหมือนกับในโลกของความเป็นจริง โดยทุกคนจะอาศัยกายหยาบเพื่อการมีชีวิต วิญญาณกับกายหยาบจะเชื่อมต่อกันด้วย "โซ่แห่งผลกรรม" ที่จะติดอยู่ที่ส่วนอกของวิญญาณกับกายหยาบ และถ้ามีมนุษย์คนใดได้รับผลกระทบจากการกระทำของวิญญาณ ก็อาจจะไปกระตุ้นพลังวิญญาณในตัวของเขาจนสามารถมองเห็นวิญญาณได้ หรืออาจจะมีพลังพิเศษจากพลังวิญญาณได้เช่นกัน

[แก้] วิญญาณ

เมื่อมนุษย์ตาย วิญญาณของจะไม่ไปยังโซลโซไซตี้หรือนรกในทันที วิญญาณเหล่านี้เรียกว่า "พลัส (Plus)" เป็นวิญญาณของคนส่วนใหญ่ซึ่งปรากฏให้เห็นเป็นร่างมนุษย์ โดยโซ่แห่งผลกรรมที่หน้าอกจะขาดออกจากกายหยาบแล้วซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความตายของคนๆนั้น และตราบใดที่ยังไม่มียมทูตมาชี้นำที่ไปให้ยังที่ๆควรไป พวกเขาก็จะวนเวียนไปเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่เหล่าวิญญาณจะวนเวียนอยู่ในสถานที่ซึ่งตนเองตายหรือคุ้นเคย และวิญญาณเหล่านี้จะมีตัวตนอยู่ในระดับหนึ่งซึ่งในบางครั้งสามารถสัมผัสได้

[แก้] ฮอลโลว์

ฮอลโลว์ (Hollow) คือวิญญาณที่โซ่กรรมขาดทำให้เกิดการรุกกินจนหน้าอกเป็นรู ในที่สุดก็จะกลายร่างเป็นอสูรกาย ฮอลโลว์ทุกตนจะมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป แต่ทุกตัวจะสวมหน้ากากไว้เพื่อปิดบังใบหน้าของตนและหน้ากากจะป้องกันสันดานดิบหรือนิสัยเก่าก่อนที่จะเป็นฮอลโลว์ และส่วนอกที่เคยมีชิ้นส่วนของโซ่แห่งผลกรรมที่หลงเหลืออยู่จะถูกแทนที่ด้วยรูกลวงสัญลักษณ์ของการเสียดวงจิต(เป็นที่มาของชื่อฮอลโลว์) เหล่าฮอลโลว์จะกินวิญญาณธรรมดาและวิญญาณของคนที่มีพลังวิญญาณสูง ซึ่งทำได้แม้แต่การฆ่าคนเพื่อเอาวิญญาณมาดับความหิวกระหาย ไม่ก็ดับความทรมาณของตนเอง โดยเหล่าฮอลโลว์แม้คนธรรมดาจะมองไม่เห็น แต่ก็มีตัวตนสัมผัสได้ โลกที่เหล่าฮอลโล่ว์มารวมกันและอาศัยอยู่คือ "ฮูเอโก้ มุนโด้" ส่วนฮอลโลว์ชั้นสูงจะถูกเรียกว่า "เมนอส" ซึ่งในหมู่เมนอสเองแล้ว ก็สามารถแบ่งได้อีก 3 ประเภทเช่นกัน คือ

  1. กิลเลียน เมนอสที่พวกอิจิโกะเรียกกันว่า "เมนอสกรังเด้" นั้นแท้จริงแล้วคือพวก "กิลเลียน" เป็นเมนอสชั้นต่ำที่สุด ร่างใหญ่ เคลื่อนไหวช้า มีปัญญาราวกับสัตว์ป่าเท่านั้น
  2. แอดจูคาส เมนอสที่มีขนาดเล็กกว่ากิลเลียน มักเป็นผู้นำฝูงของกิลเลียน และมีขนาดเล็กกว่า ฉลาดกว่า
  3. วาสโทรเด้ เมนอสชั้นสูงสุด มีขนาดเท่ากับมนุษย์ มีจำนวนน้อย รวมทั้งหมดในฮูเอโก้ มุนเด้ มีอยู่ไม่กี่ตนเท่านั้น

[แก้] ยมทูต

ยมทูต (「死神」 Shinigami ; Death's God?) เป็นผู้ปกครองโซลโซไซตี้ ทำหน้าที่ควบคุมปริมาณวิญญาณที่ถ่ายเทระหว่างโลกมนุษย์กับโซลโซไซตี้ นอกจากนี้ยังมีภารกิจสำคัญอีกสองประการ คือ การทำพิธีส่งพลัสไปยังโซลโซไซตี้ และการกำจัดฮอลโลว์ ตัวชินิกามิเองนั้นเป็นวิญญาณ ด้วยเหตุนี้คนธรรมดาไม่สามารถมองเห็น ได้ยิน หากแต่สัมผัสชินิกามิได้ในบางครั้ง ชินิกามิทุกตนมีร่างเป็นมนุษย์ สวมชุดฮากะมะสีดำเป็นเครื่องแบบและมีอาวุธประจำกายเรียกว่า ซัมปาคุโต (斬魄刀 "ดาบฟันวิญญาณ"(ภาษาอังกฤษเรียก "Soul Slayer / Soul Cutter") สำหรับใช้ต่อสู้กับฮอลโลว์ นอกจากนี้ชินิกามิยังสามารถใช้คิโด (มนต์ดำ, Demon Art(หรือ "วิถีมาร") ในการต่อสู้ได้อีกด้วย เเละสำหรับระดับหัวหน้าแล้วยังมีการปลดปล่อยสวัสดิกะ(บังไค:卍解)โดยการเรียกชื่อดาบของตนซึ่งมียมทูตจำนวนไม่มากนักที่สามารถทำได้

[แก้] ควินซี่

ควินซี่ (Quincy) หรือที่ช่อง TRUE Spark (53) แปลว่า "พรตปราบมาร" คือ ตระกูลนักปราบมารที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วโลก คอยฝึกฝนตัวเองเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถต่อสู้กับฮอลโลว์ได้ และ สูญสิ้นไปกว่า 200 ปีมาแล้วจากการกวาดล้างของยมทูต เนื่องจากเจตนาของควินชี่ในการกำจัดฮอลโลว์ที่ต่างกันกับเหล่ายมทูต เพราะว่า ควินชี่มุ่งที่จะสังหารฮอลโลว์เท่านั้นไม่เหมือนกับยมทูตที่ส่งวิญญาณฮอลโลว์ไปสู่โซลโซไซตี้ ควินซี่จะไม่ใช้อาวุธอื่นใดนอกจากธนู

[แก้] อารันคาร์

อารันคาร์ (Arrancar) คือเหล่าฮอลโล่ว์ที่ถอดหน้ากากและได้รับพลังยมทูต กลายเป็นฮอลโลว์ที่มีทั้งความสามารถของทั้งฮอลโลว์และยมทูต เหล่าอารันคาร์จะมีหน้ากากที่ถอดออกไปส่วนหนึ่งทำให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงในระดับหนึ่ง และจะอยู่ในร่างที่เกือบจะเป็นมนุษย์(แต่จะเป็นร่างมนุษย์แบบสมบูรณ์ถ้าเป็นร่างแปลงของฮอลโลว์ระดับสูง)และยังคงมีรูกลวงตรงกลางอยู่เช่นเดิม เหล่าอารันคาร์จะสวมชุดเสื้อคลุมสีขาว และจะมีดาบฟันวิญญาณเช่นเดียวกับยมทูต การปลดปล่อยดาบของอารันคาร์จะไม่ใช่การเปลี่ยนอาวุธชิ้นหนึ่งเป็นอีกแบบหนึ่ง แต่ดาบฟันวิญญาณของอารันคาร์ก็คือแก่นแห่งพลังของอารันคาร์ตนนั้น เมื่อปลดปล่อย อารันคาร์จะกลับคืนสู่ร่างที่แท้จริงและมีพลังเพิ่มขึ้นจากเดิมหลายสิบเท่า

เดิมทีอารันคาร์มีจำนวนน้อยแต่เดิม และเป็นร่างที่ไม่สมบูรณ์ แต่เมื่อได้รับพลังจากโฮเงียวคุของไอเซ็น อารันคาร์จึงพัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด จนถึงระดับสมบูรณ์แบบ

อารันคาร์ที่ถูกคัดเลือก 10 ตน จะถูกเรียกว่า เอสปาด้า (Espada) เเละจะมีอำนาจปกครอง อารันคาร์ด้วยกันเอง เอสปาด้าเเต่ละตนจะ มีวังอยู่ใน ลาส์ นอเช่ ซึ่งเเต่ล่ะวังจะล้อมรอบวังของไอเซ็นเอาไว้ พวกที่ถูกถอดออกจากเอสปาด้าจะกลายเป็น พีวารอน เอสปาด้า (เอสปาด้าตกชั้น) ที่จะอยู่ในกำเเพงด้านนอกของลาส์ นอเช่ เอสปาด้าทั้งหมดมีดังนี้

1 พริเมโร่ เอสปาต้า [ Primero Espada ] สตาร์ค [ Stark ]

2 เซกุนโด้ เอสปาต้า [ Segundo Espada ] บาริกัน [ Barican ]

3 เตร์เซโร่ เอสปาต้า [ Tesaro Espada ] ฮาริเบล [ Haribel ] (อดีตเอสปาด้า)เนลิเอล โท โอเดล ชแวงค์ [ Neliel to O'dell Svank ]

4 ควอร์โต้ เอสปาด้า [ Cuator Espada ] อุลคิโอร่า ชิฟเฟอร์ [ Ulquiorra Schiffer ]

5 ควินโต้ เอสปาต้า [ Quinto Espada ] นอยโทร่า จิลก้า [ Noitora Jilka ]

6 เซ็คโต้ เอสปาด้า [ Sextar Espada ] กริมจอว์ เเจ็คเกอร์เเจ็ค [ Grimjaw jackerjack ]

7 เซปติโม่ เอสปาต้า [ Semtimo Espada ] โซมารี เลอรูซ์ [ Zomari Le Roux ]

8 ออคตาโว เอสปาด้า [ Octava Espada ] ซาเอล อพอลโล เเกรนท์ [ Sael Apollo Grant ]

9 โนเวโน่ เอสปาด้า [ Noveno Espada] อาโรนีโร่ อาลูเอรี่ [ Aoniro Aruerie ]

10 เดซิโม่ เอสปาด้า [ Dasimo Espada] ยามี่ [ Yame ]

[แก้] ไวเซิร์ด

ไวเซิร์ด (Vizard) เป็นอดีตยมทูตที่ถูก ไอเซ็น ใช้วิชาต้องห้ามทดลอง ให้ยมทูตกลายเป็นฮอลโลว์การทดลองดูเหมือนจะล้มเหลวแต่สมารถได้ผลตามที่ ไอเซ็นต้องการ พวกอดีตยมทูตจึงโดนเข้าใจผิดและจึงถูกเนรเทศออกจากโซลโซไซตี้มาอยู่ที่โลกมนุษย์ มีความรู้และความเชี่ยวชาญในการต่อสู้ขั้นสูง และจะมีพลังมากขึ้นอีกเมื่อสวมหน้ากากฮอลโลว์ และนอกจากนี้ยังรู้เรื่องราวความเป็นมาของเหตุการณ์ต่างๆในโซลโซไซตี้และฮูเอโก้ มุนโด้เป็นอย่างดี

[แก้] เบาท์

เบาท์ (Bount) เป็นคาแร็กเตอร์ที่ปรากฏเฉพาะในอะนิเมะ เป็นเผ่าพันธุ์ที่ถือกำเนิดขึ้นจากความผิดพลาดในการทดลองสร้างชีวิตนิรันดร์ของกองวิทยาการแห่งโซลโซไซตี้ วิญญาณที่หลุดรอดไปที่โลกมนุษย์ในตอนนั้นจึงเกิดเป็นบาวด์ ซึ่งมีชีวิตที่ยืนยาวจากการดูดกินวิญญาณมนุษย์เป็นอาหาร และสามารถต่อสู้ได้โดยใช้ "ดอลล์" ซึ่งคล้ายคลึงกับการใช้ดาบฟันวิญญาณของยมทูต และมีความสามารถหลากหลายกันไป แต่เมื่อดอลล์ตาย บาวด์ที่เป็นเจ้าของก็จะต้องตายตามไปด้วยเช่นกัน

โดยพวกบาวด์ มีหัวหน้าชื่อว่า "คาริยะ จิน" โดยมีลูกน้องอีก 9 คน(ตายไป 2) คือ แฝด "โฮ" กับ "บัน" ดอลล์เป็นน้ำ ชื่อ กรูว กับ กรูวต้า ดอลล์สามารถรวมร่างกันได้เพราะใช้พลังแฝดกรรมทอนซึ่งถ้าอยู่ห่างกันจะทำให้บังคับดอลล์ไม่ได้ โดนกันจูฆ่าด้วยเคล็ดวิชาดอกไม้ไฟสำนักชิบะ โดยจุดประสงค์ของ จิน คือ พรตปราบมาร (ควินซี่) หรือ อิชิดะ นั้นเอง

แต่มีบาวด์ คนหนึ่งที่ไม่ได้เป็นพวกของคาริยะ นั้นคือ "โยชิโนะ โซมะ" เป็นผู้หญิง ผมยาวสีน้ำตาล ซึ่ง โยชิโนะ เป็นอดีตคนรักของคาริยะนั่นเอง ซึ่งชอบช่วยเหลือ อิชิดะ เสมอ มีดอลล์ชื่อว่า เกเต้ เป็นดอลล์ธาตุไฟ โดยโยชิโนะ เป็นคนที่อิชิดะคิดว่าเป็นคนที่มีรอยยิ้มคล้ายกับแม่ของเขาคือมีรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความเศร้า

ในพวกบาวด์มียมทูตอยู่ด้วยคนหนึ่งชื่อ มากิ ยาจิรุเรียก มากิจัง ซึ่ง มากิเคยอยู่ในหน่วยที่ 11 มากิลาออกจากหน่วยที่ 11 เพราะว่าซารากิ เคมปาชิ ฆ่าหัวหน้าหน่วยที่ 11 คนก่อนแล้วเป็นหัวหน้าแทน(คือการที่สู้กันเพื่อชิงตำแหน่งหัวหน้าโดยมียมทูต200คนเป็นพยาน) ภาคนี้เป็นภาคที่มีแต่ในอะนิเมะโดยมี ตุ๊กตา3ตัวเป็นผู้ช่วยในการค้นหาบาวด์(เม็ดวิญญาณ หรือ ม็อดโซล) ที่สามารถค้นหาที่อยู่ของบาวด์ได้เพราะอุราฮาระ คิสึเกะเป็นคนดัดแปลงเม็ดวิญญาณ โดยทั้ง 3 คนปรากฏตัวครั้งแรกก่อนบาวด์ (ในบททดสอบของอุราฮาระ) โดยคนที่ไปช่วยอิจิโกะค้นหาพลังของบาวด์คือ ริริน เป็นเด็กผู้หญิงจอมอวดดีมีความสามารถในการสร้างภาพลวงตา

คนที่ไปช่วยชาโด้ คือ โนบะ เป็นคนที่มีนิสัยขรึมๆเงียบๆไม่ค่อยพูดมีความสามารถในการวาปสิ่งต่างๆให้หายไปโดยถ้าอยู่ในร่างตุ๊กตาจะสามารถวาปได้ 2 เมตร คนที่อยู่กับอิโนะอุเอะ โอริฮิเมะ คือ คุโรโดะ เป็นผู้ชายแก่ๆ ออกท่าทางทะลึ่งหน่อยมีความสามารถในการเปลี่ยนร่างเป็นคนอื่น โดยริรินอยู่ในตุ๊กตานกหน้าตาประหลาด โนบะอยู่ในตุ๊กตาหัวสีเขียวๆ ไม่มีปาก คุโรโดะ อยู่ในตุ๊กตาคล้ายกระต่ายมีสายสะพาย (โอริฮิเมะชอบเพราะคล้ายกระต่ายจั๊ปปี้)

[แก้] อุปกรณ์ต่างๆในบลีช

[แก้] ซัมปาคุโต (ดาบฟันวิญญาณ)

ซัมปาคุโตแต่ละเล่มสามารถเปลี่ยนรูปแบบได้สามรูปแบบ รูปแบบแรกมีลักษณะเป็นดาบคะตะนะธรรมดา (ทำให้ชินิกามิดูเหมือนซามูไรไปโดยปริยาย) ซัมปาคุโตเกือบทุกเล่มจะดูเหมือนกันในรูปแบบนี้(อาจแตกต่างกันในเรื่องความยาว รูปแบบกั่นดาบเป็นต้น) รูปแบบที่สองเรียกว่า ชิไค (Shikai) ซึ่งซัมปาคุโตทุกเล่มจะแสดงลักษณะเฉพาะตัวของมัน ชิไคของชินิกามิส่วนใหญ่เป็นอาวุธมือที่มีรูปร่างเฉพาะตน บ้างคงรูปดาบญี่ปุ่น บ้างคล้ายดาบจีน บ้างคล้ายดาบเซเบอร์ บ้างเป็นหอก บ้างเป็นมีด เป็นต้น นอกจากนี้ ชิไคแต่ละเล่มยังมีพลังโจมตีเฉพาะตัว เช่น พ่นลูกไฟ พ่นน้ำแข็ง ยึดยาวได้ เป็นต้น รูปแบบที่สามเรียกว่า บันไค (Bankai - ฉบับภาษาไทยใช้คำว่า ปลดปล่อยสวัสดิกะ) ซึ่งเป็นรูปแบบขั้นสุดยอดของซัมปาคุโต บังไคมีรูปร่างไม่แน่นอน เช่น บังไคของชินิกามิบางตนเป็นกระดูกงูขนาดยักษ์[อาบาราอิ เร็นจิ] บางตนเป็นดาบเล็กๆ นับพันเล่ม[คุจิกิ เบียคุยะ] บางตนเป็นหุ่นขนาดยักษ์[ซาจิน] หรือแม้แต่ดาบซามูไรธรรมดาๆ แต่เพิ่มความเร็ว พลังของผู้ใช้[คุโรซากิ อิจิโกะ] เป็นต้น บังไคเป็นรูปแบบที่มีพลังโจมตีสูงและสามารถใช้ท่าไม้ตายที่มีความรุนแรงมากได้ มีชินิกามิน้อยตนนักที่สามารถบรรลุบันไคของตัวเอง ผู้ที่ปลดปล่อยบังไคได้เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เป็นยมทูตในระดับ หัวหน้าหน่วย ใน 13 หน่วยพิทักษ์

[แก้] องค์กรในบลีช

[แก้] 13 หน่วยพิทักษ์

คือหน่วยงานของเหล่ายมทูตในโซลโซไซตี้ ถูกแบ่งออกเป็นหน่วยย่อยๆ 13 หน่วยด้วยกัน แต่ละหน่วยถูกเรียกด้วยหมายเลขตั้งแต่ 1 ถึง 13 และมีผู้นำคือหัวหน้าหน่วยและรองหัวหน้าหน่วย เครื่องแบบของหัวหน้าหน่วยจะแตกต่างจากเครื่องแบบปกติของชินิกามิ กล่าวคือจะใส่เสื้อคลุมยาวสีขาวที่ด้านหลังเขียนหมายเลขของหน่วยทับยูกาตะสีดำของชินิกามิอีกทีหนึง ส่วนรองหัวหน้าหน่วยนั้นจะสวมปลอกแขนที่มีหมายเลขหน่วย หัวหน้าของหน่วยหนึ่งยังดำรงตำแหน่งพิเศษเป็นผู้บังคับการสูงสุดของ 13 หน่วยพิทักษ์อีกด้วย

ภายในแต่ละหน่วยยังมีตำแหน่งที่ลดหลั่นลงมาจากหัวหน้าและรองหัวหน้าหน่วยอีกหลายชั้น (กล่าวคือมียศเป็นอันดับที่สาม สี่ ห้า ฯลฯ ลงมา) ผู้ถือตำแหน่งเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าหมู่ของชินิกามิ ซึ่งในแต่ละหน่วยจะประกอบด้วยหมู่ย่อยๆ อย่างน้อย 20 หมู่ เป็นที่น่าสังเกตว่าชินิกามิที่ถือยศตำแหน่งที่สามกับที่ถือยศตำแหน่งที่ห้าอาจจะเก่งพอๆ กัน แต่ความแข็งแกร่งของหัวหน้าหน่วยนั้นเหนือกว่าของรองหัวหน้าหน่วยมาก เนื่องจากผู้ที่จะเป็นหัวหน้าหน่วยได้จะต้องสามารถใช้บังไคได้อย่างเชี่ยวชาญ (ยกเว้น หัวหน้าหน่วย 11 ซาราคิ เค็มปาจิ ที่ไม่สามารถใช้ได้ทั้งชิไคและบังไค แต่ด้วยความสามารถส่วนตัวทางการต่อสู้ที่เก่งกาจ ทำให้ได้รับการยอมรับเป็นหัวหน้าหน่วย) ส่วนรองหัวหน้าหน่วยนั้นมีเพียงไม่กี่ตนที่สามารถปลดปล่อยบังไคของตัวเองได้

[แก้] รายชื่อหัวหน้าหน่วยและรองหัวหน้า

หน่วยที่ 1
หน่วยที่ 2
หน่วยที่ 3
หน่วยที่ 4
หน่วยที่ 5
หน่วยที่ 6
หน่วยที่ 7
หน่วยที่ 8
หน่วยที่ 9
หน่วยที่ 10
หน่วยที่ 11
หน่วยที่ 12
หน่วยที่ 13

[แก้] รายชื่อนักสู้ในหน่วย

นักสู้ในหน่วยจะมีเป็นระดับไป ซึ่งระดับยิ่งสูงก็ยิ่งเก่ง (รวมหัวหน้าและรองด้วย)

ลำดับ 3
  • อิเอมูระ ยาโซจิกะ (หน่วยที่ 4)
  • เอ็นโจจิ ทัตสึฟุสะ (หน่วยที่ 8)
  • มาดาราเมะ อิกคาคุ (หน่วยที่ 11)
  • ชิบะ มิยาโกะ (อดีตหน่วยที่ 13)
  • โคเท็ตสึ คิโยเนะ (หน่วยที่ 13)
  • โคซึบากิ เซ็นทาโร่ (หน่วยที่ 13)
ลำดับ 4
  • อิคคังซากะ จิโรโบ (หน่วยที่ 7)
ลำดับ 5
ลำดับ 7

[แก้] หน่วยวิถีมาร

"หน่วยวิถีมาร" คือหน่วยพิเศษหน่วยหนึ่งของโซล โซไซตี้ที่รวบรวมเอาเฉพาะยมทูตที่มีฝีมือทางด้านวิถีมารสูงมาก่อตั้งเป็นหน่วยใหม่ เป็นหน่วยที่มีความสามารถด้านวิถีมารสูงที่สุดตามชื่อที่ตั้งให้ มักทำงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้วิถีมารเป็นหลัก เช่น เปิดปิดประตูที่เชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับโซล โซไซตี้ เป็นต้น และในสมัยก่อนมี สึคาบิชิ เท็ตไซ เป็นหัวหน้าหน่วยวิถีมาร และมี อุโชดะ ฮาจิเง็น หรือ ฮัตช์(1ในไวเซิร์ด) เป็นรองหัวหน้าหน่วยวิถีมาร

[แก้] หน่วยลับ

เป็นองค์กรลับของโซลโซไซตี้ มีหน้าที่ในการสอดแนมเหล่าฮอลโลว์และทำการสังหารยมทูตที่มีความผิดร้ายแรง คนของหน่วยลับจะสวมชุดดำคล้ายกับนินจา และทุกคนจะใช้ชื่อรหัสแทนชื่อจริงไปตลอดชีวิต มีหัวหน้าคนปัจจุบันคือ"ซุยฟง"

[แก้] 46 ห้องวังกลาง

คือ กลุ่มผู้ปกครองสูงสุดในโซลโซไซตี้ ประกอบด้วยนักปราชญ์ที่รวบรวมมาจากทั่วทั้งโซลโซไซตี้ 40 คน และผู้อาวุโสอีก 6 คน ซึ่งได้รับมอบอำนาจสูงสุดจาก "ราชันย์แห่งวิญญาณ" ในการปกครองและการตัดสิน คำตัดสินจากพวกเขาถือเป็นเด็ดขาดสูงสุด

[แก้] หน่วยราชันย์

หน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อราชาแห่งโซลโซไซตี้ ทำหน้าที่ปกป้องราชาแห่งโซลโซไซตี้ และมอบคำสั่งไปยัง 46 วังกลาง โดยไม่มีการก้าวก่ายงานของ 46 ห้องวังกลาง และ 13 หน่วยพิทักษ์ ยมทูตทุกคนในหน่วยนี้มีความสามารถเหนือกว่ายมทูตหัวหน้าหน่วยแห่ง 13 หน่วยพิทักษ์ ปัจจุบันยังไม่ได้รับการเปิดเผยแต่อย่างใด เรียกกันในหมู่ยมทูตว่าหน่วย 0

[แก้] วังของราชาโซลโซไซตี้

คือ สถานที่ที่อยู่ของราชา โดยวังของราชาจะอยู่อีกมิติหนึ่งของโซลโซไซตี้ มีองค์รักษ์ของหน่วยราชันย์คุ้มกันอย่างแน่นหนา ซึ่งไม่มียมทูตคนใดเลยที่เคยเห็นราชา การเข้ามายังมิติของวังราชาได้นั้นจะต้องอาศัยกุญแจที่ชื่อว่า "โอเค็น" หรือกุญแจราชันย์

[แก้] ภาพยนตร์อะนิเมะ

  1. Bleach The sealed Sword Frenzy
  2. Bleach Memories of Nobody
  3. Bleach The DiamondDust Rebellion

[แก้] เพลงประกอบอะนิเมะ

เพลงเปิด (OPENING)
  1. *~アスタリスク~(*~Asterisk~) ขับร้องโดย Orange Range [ep 01-25]
  2. D-tecnoLife ขับร้องโดย UVERworld [ep 26-51]
  3. 一輪の花(Ichirin no Hana) ขับร้องโดย High and Mighty Color [ep 52-74]
  4. TONIGHT, TONIGHT, TONIGHT ขับร้องโดย BEAT CRUSADERS [ep 75-97]
  5. Rolling Star ขับร้องโดย YUI [ep 98-120]
  6. ALONES ขับร้องโดย Aqua Timez [ep 121-143]
  7. After Dark ขับร้องโดย Asian Kung-Fu Generation [ep 144-167]

8 CHU-BURA ขับร้องโดย KELUN [ep 168-ปัจจุบัน]

เพลงปิด (ENDING)
  1. Life is Like a Boat ขับร้องโดย ริเอะ ฟุ [ep 01-13]
  2. サンキュー!!(Thank You!!) ขับร้องโดย HOME MADE คาโซคุ [ep 14-25]
  3. ほうき星(Houkiboshi) ขับร้องโดย Younha [ep 26-38]
  4. happypeople ขับร้องโดย Skoop on Somebody [ep 39-51]
  5. LIFE ขับร้องโดย YUI [ep 52-63]
  6. マイペース(My Pace) ขับร้องโดย SunSet Swish [ep 64-74]
  7. Hanabi ขับร้องโดย อิคิโมโนะ งาคาริ [ep 75-86]
  8. MOVIN!! ขับร้องโดย ทาคาชา [eo 87-97]
  9. Baby It's You ขับร้องโดย JUNE [ep 98-109]
  10. 桜日和(Sakura Biyori) ขับร้องโดย ไม โฮชิมูระ [ep 110-120]
  11. 爪先(Tsumasaki) ขับร้องโดย Ore Ska Band [ep 121-132]
  12. 橙(Daidai) ขับร้องโดย Chatmonchy [ep 132-143]
  13. 種をまく日々(Tane wo Maku Hibi) ขับร้องโดย Atari Kousuke [ep 144-154]
  14. Kansha ขับร้องโดย RSP [ep 155-167]
  15. Orange ขับร้องโดย Lil'B [ep 168-176]
  16. Gallop ขับร้องโดย pe'zmoku [ep 177-ปัจจุบัน]

[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น


aa - ab - af - ak - als - am - an - ang - ar - arc - as - ast - av - ay - az - ba - bar - bat_smg - bcl - be - be_x_old - bg - bh - bi - bm - bn - bo - bpy - br - bs - bug - bxr - ca - cbk_zam - cdo - ce - ceb - ch - cho - chr - chy - co - cr - crh - cs - csb - cu - cv - cy - da - de - diq - dsb - dv - dz - ee - el - eml - en - eo - es - et - eu - ext - fa - ff - fi - fiu_vro - fj - fo - fr - frp - fur - fy - ga - gan - gd - gl - glk - gn - got - gu - gv - ha - hak - haw - he - hi - hif - ho - hr - hsb - ht - hu - hy - hz - ia - id - ie - ig - ii - ik - ilo - io - is - it - iu - ja - jbo - jv - ka - kaa - kab - kg - ki - kj - kk - kl - km - kn - ko - kr - ks - ksh - ku - kv - kw - ky - la - lad - lb - lbe - lg - li - lij - lmo - ln - lo - lt - lv - map_bms - mdf - mg - mh - mi - mk - ml - mn - mo - mr - mt - mus - my - myv - mzn - na - nah - nap - nds - nds_nl - ne - new - ng - nl - nn - no - nov - nrm - nv - ny - oc - om - or - os - pa - pag - pam - pap - pdc - pi - pih - pl - pms - ps - pt - qu - quality - rm - rmy - rn - ro - roa_rup - roa_tara - ru - rw - sa - sah - sc - scn - sco - sd - se - sg - sh - si - simple - sk - sl - sm - sn - so - sr - srn - ss - st - stq - su - sv - sw - szl - ta - te - tet - tg - th - ti - tk - tl - tlh - tn - to - tpi - tr - ts - tt - tum - tw - ty - udm - ug - uk - ur - uz - ve - vec - vi - vls - vo - wa - war - wo - wuu - xal - xh - yi - yo - za - zea - zh - zh_classical - zh_min_nan - zh_yue - zu -