คุจิกิ ลูเคีย
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ตัวละคร เทพมรณะ | |
---|---|
คุจิกิ ลูเคีย | |
อาชีพ | ยมทูตสังกัดหน่วยที่ 13 |
วันเกิด | 14 มกราคม |
สีผม | สีดำ |
สีตา | สีดำ |
ส่วนสูง | 144 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | 33 กิโลกรัม |
หมู่เลือด | AO |
ดาบฟันวิญญาณ | โซเดะโนะชิรายูกิ |
พากย์เสียงโดย | ฟูมิโกะ โอริคาสะ |
คุจิกิ ลูเคีย (「朽木ルキア」 Kuchiki Rukia?) เป็นตัวละครเอกจากการ์ตูนเรื่องเทพมรณะ และเป็นยมทูตสังกัดหน่วยที่ 13 แห่ง 13 หน่วยพิทักษ์
เนื้อหา |
[แก้] ลักษณะ/อุปนิสัย
ลูเคีย ยมทูตหญิงที่นิสัยค่อนข้างเฮี้ยว ไว้ผมสั้นสีดำ ชอบทำตาขวางและมักจะแสดงอารมณ์รุนแรงเวลาไม่ค่อยพอใจอะไร โผงผาง ปากเร็ว แต่แท้จริงก็เป็นคนที่ดีมาก ขี้กังวล มีความรับผิดชอบมาก เป็นห่วงคนอื่นตลอดเวลา และอ่อนโยน (จะอ่อนโยนเป็นพิเศษต่อเมื่ออยู่กับ คุจิกิ เบียคุยะ) และก็ชอบกระต่ายแชปปี้มากเช่นกัน
ระวังเสียอรรถรส ข้อความด้านล่างนี้กล่าวถึงเนื้อเรื่องหรือฉากจบ |
[แก้] ประวัติ
ลูเคีย คุจิกิเป็นยมทูตหน่วย 13 แห่ง13หน่วยพิทักษ์ แต่เดิมเป็นเด็กสาวที่เติบโตจากเมืองลูคอนเร่ร่อนไปวันๆ ต่อมาได้มาเจอกับ อาบาราอิ เร็นจิโดยบังเอิญ เมื่อเพื่อนของพวกเขาเสียชีวิตไปถึงสามคน ลูเคียและ อาบาราอิ เร็นจิจึงตัดสินใจเข้าเรียนที่สถาบันชินโอเพื่อสอบเข้าหน่วยพิทักษ์ แต่ยังไม่ทันเรียนจบก็ได้รับการติดต่อให้เข้าเป็นคนของตระกูลคุจิกิ ตระกูลขุนนางชั้นสูงที่มีคุจิกิ เบียคุยะ หัวหน้าหน่วย 6 เป็นเจ้าบ้าน โดยเธอเองก็ได้รับการบรรจุเข้า 13 หน่วยพิทักษ ์หน่วยที่ 13 ในทันที ในช่วงที่เธอเข้าในหน่วยพิทักษ์ เธอได้รับการชี้แนะจาก "ชิบะ ไคเอ็น"รองหัวหน้าหน่วย 13 อยู่บ่อย แต่เมื่อไคเอ็นถูกฮอลโลว์เข้าสิง ทำให้เธอต้องฆ่าไคเอ็นด้วยมือของตัวเอง ซึ่งเป็นผลให้เธอรู้สึกผิดต่อคนตระกูลชิบะอยู่ตลอดมา
[แก้] บทบาท
[แก้] ภาคแรก
ลูเคียถูกส่งมาที่โลกในคำสั่งลาดตระเวณเป็นเวลา 1 เดือน เธอได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับฮอลโลว์เพื่อช่วยอิจิโกะ และถ่ายทอดพลังยมทูตให้ ทำให้เธอต้องอาศัยกายหยาบของอุราฮาร่า คิสึเกะเพื่อฟื้นฟูพลังและอาศัยอยู่กับอิจิโกะจนกว่าจะฟื้นพลังยมทูตมาได้ แต่นั่นถือว่าเป็นการผิดกฎอย่างร้ายแรง ทำให้เมื่อพ้นช่วง 1 เดือนที่เธออยู่ในโลกมนุษย์แล้วทางโซลโซไซตี้จึงเริ่มสงสัย ในช่วงหลังของภาคแรก ลูเคียจึงถูกพากลับไปโดยคุจิกิ เบียคุยะหัวหน้าหน่วยที่ 6 ซึ่งเป็นพี่ชายบุญธรรม และอาบาราอิ เร็นจิรองหัวหน้าหน่วยที่ 6 ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ซึ่งอิจิโกะได้เข้าขัดขวางแต่ก็ไม่อาจจะช่วยอะไรได้ ลูเคียจึงถูกพากลับไปโซลไซตี้เพื่อรับโทษประหาร ทำให้คุโรซากิกับเพื่อนต้องบุกเข้าโซลไซตี้เพื่อช่วยเหลือลูเคีย
[แก้] ภาคโซลโซไซตี้
ลูเคียต้องรับโทษประหารจากการกระทำของตน โดยใช้"โซเคียคุ" (ง้าวฟันวิญญาณขนาดใหญ่ที่ใช้ในการประหาร มีพลังเทียบเท่ากับดาบฟันวิญญาณ 1,000,000 เล่ม) ซึ่งเธอต้องอยู่ในหอสำนึกตนจนกว่าจะถึงวันประหาร ซึ่งในขณะนั้นเธอได้นึกโทษตัวเองอยู่ตลอดถึงการกระทำที่ทำให้หลายๆคนต้องมารับเคราะห์ ในช่วงนั้นทั้งอิจิโกะและคนอื่นๆต่างก็พยายามที่จะเข้ามาช่วยเธอ รวมทั้งความเห็นของบรรดาหัวหน้าหน่วยต่างๆที่เริ่มแตกแยกกันในเรื่องของการประหารลูเคีย และเมื่อถึงวันประหารที่ "เนินโซเคียคุ" อิจิโกะได้เข้ามาช่วยเธอไว้ได้ รวมทั้งการช่วยเหลือจากอุคิทาเกะ จูชิโร่หัวหน้าหน่วย 13 ซึ่งเป็นหัวหน้าของเธอเอง และเคียวราคุ ชุนซุยหัวหน้าหน่วย 8 รวมทั้งเร็นจิ ทำให้เธอรอดจากการประหารมาได้ในที่สุด
หากแต่ความจริงแล้วการประหารครั้งนี้มีเบื้องหลังที่น่าตกใจมาก โดยทุกอย่างเป็นฝีมือของอดีตหัวหน้าหน่วย 5 "ไอเซ็น โซสุเกะ" โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะใช้โชเคียคุ ในการดึงเอาอุปกรณ์ลับที่อดีตหัวหน้าหน่วย 12 อุราฮาร่า คิสึเกะ ได้ซ่อนไว้ในร่างของลูเคีย นั่นคือ "โฮเคียวคุ" เพื่อแผนการณ์ของตนเอง โดยลูเคียได้ถูก"โทเซ็น คานาเมะ"หัวหน้าหน่วย 9 ที่เข้าพวกกับไอเซ็นพาตัวกลับไปที่เนินโซเคียคุ และโดนไอเซ็นดึงเอาโฮเงียวคุออกมาในที่สุดและก็เกือบจะต้องสิ้นชีวิตด้วยน้ำมือของ "อิชิมารุ งิน" แต่เธอก็ได้รับการช่วยเหลือจากเบียคุยะ
หลังจากจบศึกที่โซลโซไซเอตี้ ลูเคียได้รับการอภัยโทษ เพราะคำสั่งที่ให้ประหารเธอในตอนแรกเป็นคำสั่งปลอมที่ไอเซ็นทำขึ้น (โดย 46 วังกลาง ที่ทำหน้าที่ออกคำสั่งถูกไอเซ็นฆ่าไปหมดแล้วก่อนหน้านี้หลายวัน) พร้อมกับได้กลับเป็นยมทูตอีกครั้ง เธอได้รวบรวมความกล้าเข้าไปขอโทษกับพี่น้องตระกูลชิบะได้สำเร็จ และเธอตัดสินใจที่จะอยู่ที่โซลโซไซตี้ต่อไป
[แก้] ภาคเบาท์
ลูเคียได้มาที่โลกเพื่อศึกต่อต้านเหล่าเบาท์ ที่กำลังวางแผนบุกโซลโซไซตี้ ซึ่งเธอได้โดยเบาท์ที่ชื่อ "มาบาชิ" ทำร้ายและควบคุมร่างกายเธอไว้ แต่ก็รอดมาได้เพราะโอริฮิเมะกับคุโรโดะ และรองหัวหน้าอิซางิช่วยไว้ จนเมื่อกลับไปที่โซลโซไซตี้ เธอได้รักษาตัวเองเพื่อพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ
[แก้] ภาคอารันคาร์
ลูเคียได้รับคำสั่งจากโซลโซไซตี้ให้เข้าร่วมต่อสู้กับอิจิโกะอีกครั้งในศึกครั้งใหม่กับอาร์รันคาร์พร้อมกับยมทูตอีก 5 คนที่ถูกส่งมาพร้อมๆกัน โดยเธอได้แกล้งทำเป็นคนบ้านแตกกับพ่อของอิจิโกะเพื่อขอการอนุญาตให้สามารถเข้าอาศัยในบ้านของอิจิโกะได้ และตอนที่"กริมจอร์ แจ็กเกอร์แจ็ก"กับอารันคาร์อีก 5 ตนได้ปรากฏตัวในโลกมนุษย์ เธอก็ได้กำจัดอารันคาร์ "ดีรอย" ลงด้วยมือของตน แต่ก็ถูกทำร้ายจากกริมจอร์ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ได้รับการรักษาจากโอริฮิเมะ และต่อมาเธอก็ได้เข้าต่อกรกับกริมจอร์ ที่กำลังทำร้ายคุโรซากิ อิจิโกะอยู่ จนเกือบจะถูกจัดการ แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากฮิราโกะที่เป็น "ไวเซิร์ด" จนรอดมาได้ และได้รับคำสั่งจากยามาโมโต้ เก็นริวไซให้กลับไปยังโซลโซไซเอตี้พร้อมกับยมทูตคนอื่นๆ
[แก้] ภาคฮูดอโก้มันโด้
ลูเคียได้ปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมกับเร็นจิในโลกของเหล่าฮอลโลว์ ทั้งสองได้รับความช่วยเหลือจากเบียคุยะจนสามารถเดินทางมาที่นี่ได้ และเข้าร่วมกับอิจิโกะในการต่อสู้ด้วย โดยในระหว่างที่พวกเธอบุกเข้ามาใน "ลาส นอร์เซ่" ปราสาทของไอเซ็นและเหล่าอารันคาร์ เธอได้เผชิญหน้ากับอารันคาร์ระดับเอสปาด้าลำดับที่ 9 นาม "อาโรนีโร่ อัลลูเอรี่" ซึ่งได้เปิดเผยหน้าภายใต้หน้ากากของตน ก็คือ"ชิบะ ไคเอ็น"[1] และหลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวจากไคเอ็นเรียบร้อยแล้ว ไคเอ็นก็ได้โจมตีเธอโดยอ้างเรื่องการแก้แค้นจากที่ตนถูกลูเคียฆ่าซึ่งลูเคียเองก็ยอมรับ แต่ไคเอ็นกลับบอกว่าให้ชดใช้ด้วยการฆ่าพวกพ้องคนอื่นๆ นั่นทำให้ลูเคียบันดาลโทสะและเข้าต่อสู้กับไคเอ็นทันที แต่ด้วยฝีมือที่ต่างชั้นกันมาก ทำให้ลูเคียอยู่ในสภาวะตกที่นั่งลำบาก และในเวลานี้ก็กำลังเผชิญหน้ากับไคเอ็นที่ทำการปลดปล่อยดาบเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อการต่อสู้เริ่มไปได้พักใหญ่ ลูเคียได้ใช้วิธีล็อกร่างของไคเอ็นไว้ และทำลายผนังเพื่อให้ร่างของเขาสัมผัสแสง จนในที่สุดร่างที่แท้จริงของไคเอ็น หรือเออร์โรนีโร่ก็ปรากฏขึ้น และได้รู้ว่าเป็นฮอลโลว์ที่มีความสามารถในการกลืนกินฮอลโลว์ตนอื่นเพื่อเพิ่มพลังให้กับตนและหนึ่งในนั้นก็คือฮอลโลว์ที่รวมร่างกับไคเอ็นนั่นเอง โดยลูเคียได้เผชิญหน้ากับเออร์โรนีโร่ที่ปลดปล่อยดาบของตนเอง ซึ่งเธอได้เสียท่าถูกเออร์โรนีโร่เสียบด้วยเนจิบานะจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ด้วยแรงฮึดที่เกิดจากการนึกถึงอดีตของตนกับไคเอ็น ลูเคียได้ใช้กระบวนท่าที่สามของดาบฟันวิญญาณ "ดาบสีขาว" เล่นงานเออร์โรนีโร่ได้สำเร็จ และได้หมดสติไปจนเกือบจะถูกสังหารโดยโซมารีเอสปาด้าลำดับที่ 7 แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากเบียคุยะก่อนจะได้รับการรักษาจากอิซาเนะจนฟื้นคืนสติ
[แก้] ดาบฟันวิญญาณ
[แก้] ขั้นต้น (ชิไค)
- ชื่อ: โซเดะโนะชิรายูกิ (「袖白雪」 Sode no Shirayuki – หิมะขาวในแขนเสื้อ?)
- คำปลดปล่อย : "จงร่ายรำ" (「舞え」 mae?)
- ลักษณะ : ตัวคมดาบจะมีสีขาวทั่วทั้งเล่ม ทั้งใบมีด ด้ามดาบ โกร่งดาบ และมีริบบิ้นยาวห้อยออกมาจากปลายด้ามดาบ ได้ชื่อว่าเป็นดาบฟันวิญญาณที่งดงามที่สุดในโซลโซไซตี้
- ความสามารถ : เป็นดาบสายน้ำแข็ง มีรูปแบบของพลังอยู่ 3 แบบ
- ระบำที่ 1 (初めの舞) ซึคิชิโระ (「月白」 จันทราสีขาว?) เป็นการใช้ดาบวาดขอบเขตวงกลมสีขาว ซึ่งจะแช่แข็งทุกสิ่งภายในขอบเขตนั้นแม้จะไม่ได้เหยียบอยู่ในขอบเขตก็ตาม
- ระบำที่ 2 (次の舞) ฮาคุเร็น (「白漣」 ระลอกขาว?) เป็นการยิงคลื่นพลังเป็นริ้วๆ 4 สาย และจะเปลี่ยนไปเป็นคลื่นน้ำแข็งเข้าโจมตี
- ระบำที่ 3 (参の舞) ชิราฟุเนะ (「白刀」 ดาบสีขาว?) เป็นการสร้างคมดาบน้ำแข็งขึ้นจากดาบเข้าแทงศัตรู ซึ่งแม้ตัวดาบจะหักไปแล้วก็ยังสามารถใช้ท่านี้ได้[2]
[แก้] ขั้นปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค)
- ยังไม่ปรากฏ
[แก้] เกร็ดความรู้
- เนื่องจากลูเคียต้องการจะเป็นกุลสตรีที่สมบูรณ์พร้อมอย่าง มิยาโกะ ภรรยา ของไคเอ็น ทำให้เธอมีความสามารถพิเศษในการทำอาหารด้วย
ย้อนไปตอนที่ไอเซ็นออกไปจากโซลโซไซตี้ใหม่ๆ พวกเบียคุยะ ต่างได้รับบาดเจ็บต้องรักษาตัวที่หน่วย 4 ลูเคียจึงอยากทำของกินไปให้เบียคุยะ ซึ่งในตอนแรก ลูเคียทำของหวาน (ชิราทามะ) ไปให้ แต่ปรากฏว่า เบียคุยะชอบทานของเผ็ด จึงเอาขนมไปให้รันงิคุแทน ต่อมา ลูเคียทำแกงกระหรี่ แต่พอจะเอาไปให้เบียคุยะ อุโนะฮานะ หัวหน้าหน่วย 4 แนะนำว่าไม่เหมาะกับคนที่เพิ่งทุเลาจากอาการบาดเจ็บ เธอจึงเอาไปให้ เร็นจิกับอิจิโกะแทน ซึ่งทุกคนต่างก็ชมว่าฝีมือทำกับข้าวของเธออร่อยมาก จนสุดท้าย เธอจึงต้มข้าวต้มไปให้เบียคุยะ ซึ่งเบียคุยะไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ค่อยๆทานจนหมด ทำให้ลูเคียรู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่าง เธอกับพี่ชาย ดีขึ้นทีละน้อยๆ[3]
- ตามหลักแล้วคุจิกิ ลูเคียเป็นนักสู้ที่มีลำดับ และจะต้องเป็นรองหัวหน้าหน่วยที่ 13 ต่อจากชิบะ ไคเอ็นที่ตายไป แต่คุจิกิ เบียคุยะคัดค้านลูเคียจึงถูกถอดถอนชื่อออกจากนักสู้ที่มีลำดับ[4]
- ในลำดับการสอบที่ปรากฏในภาคแรก ลูเคียได้ลำดับที่ 302 จาก 322 ลำดับ เพราะนอกจากภาษาญี่ปุ่นแล้ว ลูเคียสอบตกหมดทุกวิชา[5]
- วันเกิด : 14 มกราคม
- ส่วนสูง : 144
- น้ำหนัก : 33
- กรุ๊ปเลือด : AO