อำเภอไชยา
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
|
อำเภอไชยา เมืองอำเภอหนึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เคยเป็นเมืองเก่าแก่มากแห่งหนึ่งในทางใต้ของภูมิภาคนี้ เชื่อกันว่าเคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรศรีวิชัยในสมัยโบราณ โดยมีหลักฐานทั้งโบราณวัตถุ และโบราณสถานจำนวนมาก
เนื้อหา |
[แก้] ที่ตั้ง
อำเภอไชยาเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร 614 กิโลเมตร ห่างจากตัวจังหวัดสุราษฎร์ธานีไปทางทิศเหนือ 38 กิโลเมตร ห่างจากฝั่งทะเลประมาณ 7 กิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้
- ด้านใต้ อ.ท่าฉาง
- ด้านตะวันตก อ.กะเปอร์ (จังหวัดระนอง) อ.พะโต๊ะ (จังหวัดชุมพร)
- ด้านเหนือ อ.ท่าชนะ
- ด้านตะวันออก อ่าวไทย
[แก้] ประวัติ
ดูเพิ่มเติม : ประวัติอำเภอไชยา
อำเภอไชยาเดิมมีฐานะเป็นเมือง เรียกว่า “เมืองไชยา” ซึ่งเป็นเมืองหนึ่งในจำนวน 3 เมือง ในอาณาจักรศรีวิชัยที่เจริญรุ่งเรืองมาก เป็นศูนย์กลางการปกครองเป็นศูนย์กลางการค้าขายกับต่างประเทศ และเป็นศูนย์กลางการเผยแพร่ศาสนา แต่ต่อมาปี พ.ศ. 1568 ได้ถูกประเทศอินเดียฝ่ายใต้เข้ายึดอำนาจไว้ได้ ทว่าก็เป็นไปชั่วคราวเท่านั้นก็สามารถรวมคนตั้งตัวได้อีก และได้ทำการรบพุ่งชิงความเป็นใหญ่ เพื่อชิงเกาะสุมาตราและแหลมมลายูกับอาณาจักรมัชปาหิต(ชวา) จนอ่อนกำลังทั้งคู่ เลยถูกอาณาจักรสุโขทัยตีได้ และเข้าครอบครองไว้ทั้งหมดในปี พ.ศ. 1800 ดังนั้นเมืองไชยาซึ่งเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรศรีวิชัยก็ตกเป็นขอบขัณฑ์สีมาของอาณาจักรสุโขทัยแต่บัดนั้น
ประวัติศาสตร์เมืองไชยาระยะต่อจากนั้นก็เงียบหายไป จนกระทั่ง ปี พ.ศ. 2328 พม่ายกกองทัพมาซึ่งคนไทยรู้จักกันดีในชื่อสงคราม เก้าทัพ บุกเข้าตีเมืองชุมพร แล้วตีเรื่อยจนถึงเมืองไชยา พร้อมกับเผาเมืองเสียจนถาวรวัตถุเป็นซากปรักหักพังเหลือไว้เป็นอนุสรณ์
เดิมอำเภอท่าฉางและอำเภอท่าชนะเคยรวมอยู่เป็นอำเภอเดียวกันกับอำเภอไชยา ต่อมาอำเภอท่าฉางแยกออกเป็น กิ่งอำเภอท่าฉาง และได้รับการยกฐานะเป็นอำเภอท่าฉางเมื่อ พ.ศ. 2482 สำหรับอำเภอท่าชนะ แยกออกเป็นกิ่งอำเภอท่าชนะ เมื่อ วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2491 และต่อมาได้รับการยกฐานะเป็นอำเภอท่าชนะ เมื่อ วันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2499 ต่อมา เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2490 ทางราชการได้จัดตั้งศาลจังหวัดและเรือนจำขึ้นที่อำเภอไชยา และเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2496 อำเภอไชยาได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น อำเภอชั้นเอก
ปัจจุบัน อำเภอไชยาแบ่งการปกครองออกเป็น 9 ตำบล มี 53 หมู่บ้าน มีการปกครองส่วนท้องถิ่น 2 หน่วย คือ เทศบาล และ องค์การบริหารส่วนตำบล มีประชากรทั้งหมด
[แก้] รายชื่อเจ้าเมืองไชยา
ดูเพิ่มเติม : รายชื่อเจ้าเมืองไชยา
ตามจดหมายเหตุของ หมื่นอารีราษฎร์ (วิน สาลี) บันทึกไว้ว่า เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้มีรับสั่งให้พระยาวจีสัตยารักษ์ (ขำ ศรียาภัย) เจ้าเมืองไชยา ให้ช่วยสืบหานามตำแหน่งเจ้าเมืองไชยา และนามเดิมตั้งแต่คนแรกตลอดมา จึงได้จัดการสืบหา ได้ตามคำบอกเล่าของ ขุนนาคเวชวีรชน (จบ นาคเวช) อดีตกำนันตำบลทุ่ง และพระยาศรีสงคราม (ช่วย )ปลัดเมืองไชยา นอกราชการ ดังนี้
- มะระหุมปะแก
- มะระหุมตาไฟ
- มะระหุมมุดา
- พระยาวิชิตภักดีศรีพิชัยสงคราม (บุญชู)
- พระยาวิชิตภักดีศรีพิชัยสงคราม (บุญชู)
- พระยาวิชิตภักดีศรีพิชัยสงคราม (พุทโธ)
- พระยาวิชิตภักดีศรีพิชัยสงคราม (หัวสั่น)
- พระยาวิชิตภักดีศรีพิชัยสงคราม (มี)
- พระยาวิชิตภักดีศรีพิชัยสงคราม (ท้วม)
- พระยาวิชิตภักดีศรีพิชัยสงคราม (ปลอด)
- พระยาวิชิตภักดีศรีพิชัยสงคราม(กลิ่น)
- พระยาวิชิตภักดีศรีพิชัยสงคราม(กลับ)
- พระยาวิชิตภักดีศรีพิชัยสงคราม(กลับ)
- พระยาวิชิตภักดีศรีพิชัยสงคราม(จุ้ย)
- พระยาวิชิตภักดีศรีพิชัยสงคราม (น้อย)
- พระยาวิชิตภักดีศรีพิชัยสงคราม(ขำ ศรียาภัย)
- นายพินิจราชการ (ปิ้ว)
- หลวงวิเศษภักดี (อวบ)
[แก้] การแบ่งเขตการปกครอง
อำเภอไชยา แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 9 ตำบล 54 หมู่บ้าน 2 เทศบาลตำบล (เทศบาลตำบลพุมเรียง และ เทศบาลตำบลตลาดไชยา) 7 องค์การบริหารส่วนตำบล
|
[แก้] ลักษณะภูมิศาสตร์และภูมิอากาศ
[แก้] ลักษณะภูมิประเทศ
ท้องที่อำเภอไชยาแบ่งออกเป็นสามตอน คือทางทิศตะวันออกซึ่งติดกับทะเลเป็นที่ราบน้ำเค็ม มีป่าไม้ชายเลน ไม้เบญจพรรณ และทุ่งหญ้าที่ไม่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ ตอนกลางเป็นที่ราบลุ่ม แต่เดิมมีน้ำไหลผ่านตลอดทั้งปีแต่ปัจจุบันน้ำจะแห้งในระหว่างเดือน 5 และเดือน 6 ทางทิศตะวันตกเป็นที่ราบสูงประกอบด้วยภูเขาและป่าไม้ พื้นที่ตอนนี้เป็นสวนยางและสวนผลไม้ยืนต้นทั่วไป
[แก้] ดินฟ้าอากาศ
มีฝนตกชุกเกือบตลอดปี เพราะตั้งอยู่ในคาบสมุทรจึงได้รับลมมรสุมเต็มที่ มีเพียง 2 ฤดู คือ ฤดูแล้งและฤดูฝน ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนธันวาคมตามลำดับ
[แก้] ลำน้ำสำคัญ
ไชยามีลำน้ำสำคัญ 2 สาย คือ
- คลองไชยา ต้นกำเนิดจากแพรกหรือแควต่างๆในทิวเขาแดนซึ่งเป็นทิวเขากั้นระหว่างอำเภอกะเปอร์จังหวัดระนอง กับอำเภอไชยา ไหลผ่านตำบลโมถ่าย ตำบลป่าเว ตำบลเวียง แล้วไหลผ่านแยกลงทะเลที่ปากน้ำท่าปูนและปากน้ำไชยา ตำบลเลม็ด เมื่อ 100 ปีก่อนเรือใบสามารถแล่นมาถึงวัดพระบรมธาตุได้
- คลองตะเคียน ต้นกำเนิดจากเทือกเขาจอมสีในอำเภอท่าชนะ ไหลเขาสู่อำเภอไชยาที่ตำบลป่าเว ผ่านตำบลตลาด ตำบลทุ่ง และไหลออกปากน้ำที่ตำบลพุมเรียง
การประกอบอาชีพ
[แก้] การเกษตร
[แก้] การทำนา
เนื้อที่เพื่อการทำนามีไม่ถึงครึ่งหนึ่งของเนื้อที่ ทั้งหมดแต่การทำนาก็นับว่าเป็นอาชีพหลัก โดยทั่วไปส่วนใหญ่ทำกันรอบๆบริเวณตัวเมือง (อำเภอและตลาด) ยิ่งห่างออกไปก็มีเนื้อที่เพาะปลูกน้อยลงตามลำดับ ปัจจุบันเริ่มมีการทำนาปีละ 2 ครั้งกันหลายตำบล สำหรับการเกี่ยวข้าวนั้น แต่เดิมชาวไชยาใช้วิธีลงแขกกันคือนัดกันไปเก็บเกี่ยวของคนนั้นในวันหนึ่งของคนนี้อีกวันหนึ่งสลับกันไป ซึ่งปัจจุบันยังมีให้เห็นในหลายหมู่บ้าน เครื่องมือเก็บเกี่ยวนั้น แต่เดิมชาวไชยาใช้ “ตรูด” ปัจจุบันกำลังสูญหายไปและมีคนใช้น้อยมาก บางคนไม่สามารถใช้ “ตรูด” ได้แล้ว เพราะหันไปใช้ “เคียว”สำหรับเก็บเกี่ยวเกือบทั่วไป
[แก้] การทำไร่
แต่เดิมทำกันประปรายทางแถบที่เป็นที่ราบสูงทางตะวันตกบริเวณเชิงเขา แต่ส่วนใหญ่เป็นการทำไร่แบบเลื่อนลอย
[แก้] การทำสวน
การทำสวนของชาวไชยาที่กำลังขยับขยายและกำลังทำกันอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้นปัจจุบันคือการทำสวนยางพารา ซึ่งทำกันมากทางตะวันตกและเขตติดต่ออำเภอท่าฉาง
[แก้] การเลี้ยงสัตว์
สัตว์ที่เลี้ยงกันมากและมีอยู่เกือบทุกตำบล คือหมู เป็ด ไก่ วัว และควายโดยเฉพาะการเลี้ยงไก่ เป็ด มีการเลี้ยงเป็นฟาร์มขนาดใหญ่ ขนาดกลาง อยู่หลายแห่ง ซึ่งนอกเหนือจากการเลี้ยงเป็นประจำบ้านจำนวนน้อยที่มีอยู่ไปทั่ว
[แก้] การประมง
เนื่องจากอาณาเขตทางด้านทางด้านตะวันออกของอำเภอไชยา ติดต่อกับทะเลคืออ่าวบ้านดอน ดังนั้นอาชีพอีกอย่างหนึ่งของชาวไชยาคือการประมง ซึ่งนับได้ว่าเป็นอาชีพที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการประกอบอาชีพการเกษตรเลย โดยเฉพาะราษฎรที่อาศัยอยู่ริมทะเล ตั่งแต่เขตติดต่ออำเภอท่าชนะจนถึงเขตอำเภอท่าฉาง ต่างก็ยึดอาชีพการประมงเป็นอาชีพหลัก คือราษฎรตำบลตะกรบ พุมเรียง และตำบลเลม็ด แต่ที่หนาแน่นที่สุดได้แก่ราษฎรตำบลพุมเรียง ชาวไชยาทำการประมงด้วยวิธีต่างๆกันออกไป ตั้งแต่ แห อวน ขนาดเล็กริมน้ำตื้น จนถึงขนาดใช้เครื่องมือที่เกิดจากเทคโนโลยีสมัยใหม่เหมือนกับการประมงทั่วไปของไทย ปัจจุบันอาชีพใหม่ของชาวประมงคือการเลี้ยงหอยแครง หอยแมลงภู่ และที่ได้รับผลแล้วที่ปากน้ำพุมเรียง อีกอย่างหนึ่งคือการทำนากุ้ง
[แก้] การอุตสาหกรรม
การอุตสาหกรรมเครื่องจักรแต่เดิมมีโรงสีข้าวขนาดใหญ่ 2 โรง ปัจจุบันมีเพียงโรงสีขนาดกลาง และขนาดเล็ก อุตสาหกรรมในครัวเรือน มีทำกันหลายอย่าง แต่ที่ขึ้นหน้าขึ้นตาและเป็นที่ยอมรับทั่วไปมี
- การเย็บหมวก แต่เดิมทำกันมากที่ตำบลพุมเรียง ปัจจุบันมีแพร่หลายไปหลายหมู่บ้าน โดยการเย็บแล้วส่งไปขายต่างจังหวัดส่วนที่จำหน่ายในท้องถิ่นมีน้อยลงกว่าเดิม
- การทอผ้าไหมผ้ายก ทำกันมากในท้องที่ตำบลพุมเรียง และผ้าไหมพุมเรียงก็เป็นผ้าไหมที่มีชื่อเสียงมากอีกอย่างหนึ่งของอำเภอไชยา
- การทำไข่เค็ม นับได้ว่าเป็นอุตสาหกรรมภายในครัวเรือน อย่างหนึ่งที่กำลังมีชื่อเสียงทั่วประเทศ ทำกันมากในท้องที่ตำบลตลาด ไชยา และบริเวณรอบๆตัวตลาดไชยา ปัจจุบันการทำไข่เค็มได้รับการสนับสนุนจากทางราชการ ดังนั้นการทำไข่เค็มจึงเริ่มขยายเข้าสู่โรงเรียน มีอยู่หลายโรงเรียนกำลังฝึกสอนให้นักเรียนทำไข่เค็มและเป็นสินค้าของโรงเรียนเพื่อหารายได้เข้าบำรุงการศึกษา
- การทำน้ำตาลโตนด ทำกันมากที่ตำบลทุ่งและนำตาลจากแหล่งนี้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คนชาวไชยาถ้าพูดถึงน้ำตาลก็ต้อง “น้ำตาลบ้านทุ่ง” เพราะสีสวยปราศจากการปลอมปน หวานหอม เป็นที่ถูกใจของผู้ที่เคยลิ้มรส
- การทำขนมที่มีชื่อเสียงของอำเภอไชยา ได้แก่ “ขนมกรุบ” และ “จั้ง” ซึ่งทำกันมากในบริเวณตลาดไชยา
- การค้าขายเป็นอาชีพที่ทำกันเฉพาะในตัวอำเภอและที่ตำบลพุมเรียง และของที่ทำการค้าขายส่วนใหญ่ได้แก่เครื่องอุปโภคบริโภคทุกชนิด
[แก้] โบราณสถานและสถานที่ท่องเที่ยว
เนื่องจากไชยาเป็นเมืองเก่าแก่ดังนั้นจึงมีสถานที่โบราณและสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอยู่หลายแห่ง เช่น
- พระบรมธาตุไชยา ตั้งอยู่ที่วัดพระบรมธาตุฯ ริมถนนใหญ่ทางเข้าอำเภอไชยา เป็นเจดีย์บรรจุพระบรมสาริกธาตุแบบศรีวิชัย มีอายุประมาณ 1,200 ปี
- วัดเวียง ตั้งอยู่ตำบลตลาดไชยา บริเวณเคยเป็นเมืองเก่า เชื่อกันว่าเดิมเป็นวังของกษัตริย์ศรีวิชัย สร้างเมื่อ พ.ศ. 1726
- บ่อน้ำพุร้อน อยู่ที่ตำบลเลม็ด ห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ 2 กิโลเมตร ตรงเชิงเขาบ่อร้อน และน้ำพุร้อนผุดจาไต้ภูเขาตลอดเวลา อุณหภูมิประมาณ 50 องศาเซลเซียส
- ป่าไทรงาม อยู่ที่ตำบลเลม็ด มีต้นไทรขึ้นหนาแน่น ดูจนคล้ายเป็นป่า มีแม่น้ำคลองไชยาตอนแยกไปคลองท่าปูนไหลผ่าน เป็นที่สวนที่ร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อน
- สวนโมกข์พลาราม (วัดธารน้ำไหล) เดิมตั้งอยู่ที่ตำบลพุมเรียง ปัจจุบันได้ย้ายมาอยู่ท้องที่ตำบลเลม็ด ริมถนนสาย 41 เป็นสำนักสงฆ์ตั้งอยู่ที่ในอุทยานที่สวยงามตามธรรมชาติ มีลำธารเล็กๆไหลผ่าน เป็นที่สงบร่มเย็นเหมาะแก่การปฏิบัติธรรมและท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
- ถ้ำพระกฤษณะและรอยพระบาท ที่วัดสวนโมกข์พลาราม
- สวนโมกข์นานาชาติ ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของถนนสาย 41 เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและอบรมธรรมะให้กับชาวต่างประเทศที่สนใจ อีกทั้งที่บริเวณใกล้เคียงจะมีบ่อน้ำพุร้อนให้ทุกท่านสามารถอาบได้
- หมู่บ้านพุมเรียง เป็นที่ตั้งเมืองไชยาเก่า ห่างถนนสาย 41 มาทางทิศตะวันออกประมาณ 7 กิโลเมตร ติดชายทะเล มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นหาดทรายบริเวณหาดแหลมโพธิ์ เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าตากสิน ตอนยกทัพมาปราบพระยานคร และเป็นที่ประทับของรัชกาลที่ 5 ตอนเสด็จประพาสหัวเมืองภาคใต้ วัดสวนโมกข์ (เก่า) เป็นสถานที่แรกที่ท่านอาจารย์พุทธทาสได้สร้างขึ้นก่อนที่จะย้ายไปยังที่ตั้งปัจจุบัน ในตัวตลาด มีการทอผ้าไหมที่มีชื่อเสียงมากคนทั่วไปรู้จักในนาม “ผ้าไหมพุมเรียง” ลวดลายดอกต่างๆบนผืนผ้าเป็นที่แปลกตาเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น
- บ่อน้ำมูรธาภิเษก อยู่ที่ตำบลทุ่ง เป็นบ่อน้ำที่ใช้ในพระราชพิธีมูรธาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
[แก้] มวยไชยา
ดูเพิ่มเติม : มวยไชยา
มวยไชยาเป็นศิลปะมวยไทยประจำถิ่นอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีชื่อเสียงมากสมัยรัชกาลที่ 5 - 6 จนมีนักมวยจากไชยาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหมื่นมวยมีชื่อ
มวยไชยาเริ่มมีระเบียบแบบแผนชัดเจนที่ตำบลพุมเรียง โดยนายมาชาวกรุงเทพฯ มาบวชที่วัดทุ่งจับช้างและสอนวิชามวยให้แก่ผู้ที่สนใจ ต่อมาพระยาวจีสัตยารักษ์ (ขำ ศรียาภัย) เจ้าเมืองไชยาในเวลานั้นพาลูกศิษย์ขึ้นไปชกมวยหน้าพระที่นั่ง จน นายปล่อง จำนงทองได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหมื่นมวยมีชื่อ นอกจากนี้พระยาวจีฯจัดให้มีการแข่งขันมวยในงานสมโภชพระบรมธาตุไชยาทุกปี บุตรธิดาของพระยาวจีฯ เช่น ชื่น ศรียาภัย เป็นผู้ส่งนักมวยจกไชยาขึ้นมาชกในกรุงเทพฯจนเป็นที่รู้จัก
เมื่อย้ายตัวเมืองไชยาจากตำบลพุมเรียงไปที่ตำบลตลาดไชยาดังในปัจจุบัน สถานที่ใหม่ที่ใช้จัดมวยคือสนามมวยเวทีพระบรมธาตุไชยา ในยุคนี้มีนักมวยเกิดขึ้นหลายคณะ แต่เมื่อเวทีมวยแห่งนี้สิ้นสุดลง วงการมวยไชยาก็เริ่มเสื่อมลง
อำเภอในจังหวัดสุราษฎร์ธานี | |||
---|---|---|---|
เมืองสุราษฎร์ธานี - กาญจนดิษฐ์ - ดอนสัก - เกาะสมุย - เกาะพะงัน - ไชยา - ท่าชนะ - คีรีรัฐนิคม - บ้านตาขุน - พนม - ท่าฉาง - บ้านนาสาร - บ้านนาเดิม - เคียนซา - เวียงสระ - พระแสง - พุนพิน - ชัยบุรี - วิภาวดี |
อำเภอไชยา เป็นบทความเกี่ยวกับ จังหวัด อำเภอ หรือเขตการปกครองต่าง ๆ ของประเทศไทย ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น ข้อมูลเกี่ยวกับ อำเภอไชยา ในภาษาอื่น อาจสามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ด้านซ้ายมือ หรือ ดูเพิ่มที่ สถานีย่อย:ประเทศไทย |