หมื่นมวยมีชื่อ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ข้อมูลส่วนตัว | ||
---|---|---|
ชื่อจริง | ปล่อง จำนงทอง | |
วันเกิด | ||
สถานที่เกิด | สุราษฎร์ธานี | |
สถิติ | ||
ชก | ||
ชนะ | ||
ชนะน็อก | ||
แพ้ | ||
เสมอ |
นายปล่อง จำนงทอง เป็นลูกศิษย์ (มวย) เจ้าเมืองไชยา (เมื่อครั้งหัวเมืองขึ้นกับกระทรวงกลาโหม) คือพระยาวัยวุฒิวิเศษฤทธิ์ (ขำ ศรียาภัย) ซึ่งต่อมาได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น พระยาวจีสัตยารักษ์ และนายปลอง จำนงทอง ต่อมาได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าจากสมเด็จพระปิยะมหาราช รัชกาลที่ 5 ให้เป็น หมื่นมวยมีชื่อ เพราะได้เป็นผู้พิชิตมายฝีมือดี ลูกศิษย์พระเหมสมาหาร เจ้าเมืองโคราช โดยทำการต่อสู้ กันในงานเมรุกรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์ ณ ท้องทุ่งสุเมรุด้านใกล้ๆกับป้อมเผด็จดัสกร ก็โปรดเกล้าฯ ให้นักมวยฝีไม้ลายมือดีชกชนะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ (ข้าราชการชั้นประทวน) “ หมื่นมวยมีชื่อ” (ปลอง จำนงทอง) เป็นนักมวยจากไชยา และ “หมื่นมือแม่นหมัด” แห่งบ้านทะเลชุบศร จังหวัดลพบุรี กับอีกผู้หนึ่งได้เป็น หมื่นชงัดเชิงชก (แดง ไทยประเสริฐ) แห่งเมืองโคราช หรือนครราชสีมา ข้าราชการชั้นประทวนทั้งสามท่านนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯไม่ต้องเสียส่วยสาอากร แม้กระทั่งทำความผิดก็ให้กรมการบ้านเมืองพิจารณาลดหย่อนผ่อนโทษ ตามสมควร นับเป็นความภูมิใจของคนทั้งเมืองไชยาและลูกหลานของตระกูล “จำนงทอง” ที่นายปลอง จำนงทอง ได้เป็นตัวแทนของคนไชยาและได้นำเกียรติประวัติอันสูงส่งมาสู่เมืองไชยา
นายปล่อง จำนงทอง เป็นคนบ้านหัววัว ตำบลเลม็ดโดยกำเนิด ลักษณะของท่านเป็นคนสันทัดคน หน้ากว้าง คางเรียว จมูกแหลมงุ้ม ผมหยักศกเล็กน้อย แผงอกใหญ่ แขนใหญ่ ข้อมือเล็ก น่องเล็ก ผิวค่อนไปข้างขาว แต่มีตบะน่าเกรงขาม ไม่ดุแต่คนกลัว ดูรูปร่างแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนที่มีความรวดเร็วและว่องไว เพราะการฝึกหัดศิษย์ท่านมีความรวดเร็วเหนือลักษณะรูปร่างเป็นอันมาก ไม่ว่าลูกศิษย์จะทำอะไรลูกไม้มวยแบบไหน ท่านสามารถที่จะปิดป้องได้จนหมดสิ้น
ลักษณะนิสัย เป็นคนพูดน้อย แต่พูดจริงทำจริง เกลียดการทำตัวเป็นนักเลงโดยเฉพาะพวกลักขโมย เคยมีคนนำเนื้อควายสดไปให้ท่าน ท่านเพียงแต่ถามว่า เอามาจากไหน คนที่นำมาต้องเอาเนื้อควายกลับบ้าน เพราะรู้ตัวเองดีและเคยเห็นมาก่อนว่าท่านผู้นี้จะไม่กินหรือใช้ของที่ได้มาจากการลักขโมย และคนผู้นั้นก็ต้องกลับตัวไม่ลักขโมยอีกจนสิ้นชีวิตของท่าน ลูกศิษย์ของท่านทุกคนห้ามพกพาอาวุธ ซึ่งจะเป็นอันตรายแก่ผู้อื่น นอกจากเครื่องมือในการที่จะประกอบอาชีพเท่านั้น แม้แต่พวกที่มาฝึกมวยกับท่าน ถ้าผู้ใดพกมีดหรือของแหลมคมมาด้วย ท่านจะต้องเก็บไว้เสียเอง และจะคืนให้ก็ต่อเมื่อเสร็จการฝึกซ้อมกลับบ้าน
นอกจากนั้นท่านยังเป็นผู้ที่มีเมตตาแม้แต่ในเกมการต่อสู้ เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งลูกศิษย์ของท่านขึ้นชกมวยโดยมีท่านเป็นกรรมการห้ามมวย ลูกศิษย์ของท่านคือท่านวิทยากรผู้ให้ความรู้นี้ยืนยันว่า นอกจากความยุติธรรมแล้วเมตตาธรรมของท่านสูงส่งยิ่งนัก เพราะในตอนที่ตัวเขาเพลี่ยงพล้ำคู่ต่อสู้ท่านเฉยได้ แต่ครั้นเมื่อคู่ต่อสู้เพลี่ยงพล้ำบ้าง และเป็นโอกาสทองของเขาในการที่จะซ้ำเติมคู่ต่อสู้ ด้วยการที่ท่านเป็นผู้ที่มีความรวดเร็วท่านสามารถจับเขาอยู่แล้วตะคอกใส่หน้าว่า มวยมิใช่ผู้ทำลายชีวิต แต่เป็นการต่อสู้ด้วยฝีมือ จนผลการชกครั้งนั้นต้องเสมอกันทั้งๆที่โอกาสชนะก็มีมาก
ท่านเป็นคนสมถะ ประกอบอาชีพที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ท่านไม่เคยเอาตำแหน่งข้าราชการประทวน “หมื่น” ของท่านในการหาผลประโยชน์เข้าสู่ตัวเอง ท่านประกอบอาชีพทำนาของท่าน จะมีเพียงลูกศิษย์ลูกหาของท่านเท่านั้นที่ไปช่วยเหลือท่านในบางครั้ง ว่างจากการทำนา สิ่งที่ท่านชอบมากที่สุด คือการวางแร้วปูและการดักซ่อน โดยเฉพาะการวางแร้วปูและการมัดปูนั้นท่านทำได้เร็วมาก ถึงขนาดผู้หญิงที่มัดข้าวต้มที่ว่าเก่งแข่งกับท่านผูกปู ข้าวต้มหนึ่งลูกกับปูหนึ่งตัวท่านสามารถผูกปูได้เสร็จก่อน
การฝึกมวยให้กับศิษย์ของท่าน ส่วนใหญ่ท่านจะคอยนั่งดูและจะแนะนำให้นอกจากจะไม่พอใจเท่านั้นท่านจึงจะลงมาสวมนวมซ้อมให้เอง แต่ไม่ค่อยมีใครกล้าซ้อมกับท่าน เพราะการซ้อมกับท่านต้องทำจริงโดยท่านจะเป็นผู้แสดงวิธีแก้ลูกไม้มวยแต่ละอย่างให้พร้อมทั้งการจู่โจมเข้าทำ เนื่องจากท่านเป็นคนที่มีความรวดเร็วในการเข้าออกในการต่อสู้ รวมทั้งเข้ามวยได้ทั้งซ้ายและขวา ลูกศิษย์ของท่านต้องเข้ามวยได้ทั้งสองข้าง ถ้าใครเข้ามวยเพียงด้านเดียวแล้ว ส่วนใหญ่จะได้รับการฝึกเป็นพิเศษ จนบางครั้งต้องเป็นอันตรายก็มี เช่น นายนุ้ย อักษรชื่น เป็นแผลเป็นที่หน้าแข้งยาว เกือบ 2 นิ้วมาจนทุกวันนี้ นายรับ เมืองคล้ายหน้าแข้งยังบวมปูดอยู่จนทุกวันนี้ ก็เพราะลูก “ฉุด” (การใช้นิ้วเท้าเตะไปที่หน้าแข้ง) จากการฝึกหัดที่อาจจะเจ็บตัวกว่าการที่ชกจริง ทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าลงนวมซ้อมกับท่าน เคยมีครั้งหนึ่งท่านไม่พอใจในการฝึก ถึงมาลงนวม เพื่อซ้อมให้ ปรากฏว่าหลานชายต้องกระโดดน้ำหนีทั้งๆที่ยังสวมนวมอยู่ แต่เมื่อท่านไม่อยู่ผู้ที่ควบคุมการฝึกซ้อมได้แก่ นางอาบ ลูกสาวคนโต ถึงแม้ลูกๆของท่านจะเป็นผู้หญิงแทบทั้งหมด แต่ท่านยังฝึกมวยให้สำหรับลูกที่สนใจ อย่างเช่นนางอาบและนางปราง เป็นต้น
หมื่นมวยมีชื่อมีนิสัยอีกอย่างหนึ่งคือเป็นคนเจ้าชู้ เพราะนอกจากภรรยาทั้งสามคนแล้ว การไปไหนโดยเฉพาะการนำมวยไปชกที่งานเฉลิมฯที่บ้านดอน ทุกครั้งต้องมีลูกสาวคนโตติดตามไปด้วยเพื่อเป็นการป้องกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามเมื่อท่านเสียชีวิตแล้วก็มีลูกๆจากในบาง (อำเภอเมือง) ติดตามมาหาพ่อก็หลายคน
ความเป็นยอดมวยของท่านผู้นี้มีอยู่สองสิ่งที่ท่านกลัวเป็นชีวิตจิตใจ สิ่งนั้นคือปลิงกับช้าง กล่าวกันว่าตอนร่วมกันทำคอกช้างกับเพื่อนๆ ท่านได้รับการยกเว้นภาษีเมื่อได้ช้างท่านก็มีสิทธิ์ได้ฟรีหนึ่งตัว แต่ท่านไม่เอาเพราะความกลัวช้าง แต่ที่ทำไปก็เพื่อเป็นการช่วยเหลือเพื่อนๆเท่านั้นเอง สำหรับปลิงนั้นถึงแม้ท่านจะมีอาชีพทำนา ท่านก็จะไม่ยอมให้ปลิงเกาะตัวท่าน การแต่งคันนา ท่านก็ไม่ยอมลงน้ำ ท่านจะยืนแต่งบนคันนาเท่านั้น แต่ถ้าจำเป็นต้องลงไปในนาแล้วถูกปลิงเกาะ ท่านจะออกวิ่ง ไปเรื่อยจนกว่าปลิงจะหลุดไปเอง
นอกจากนั้นกล่าวกันว่าท่านเป็นคนเนื้อดี(หนังเหนียว) ครั้งชกมวยหน้าพระที่นั่งและได้ตำแหน่งหมื่นกลับมานั้น ท่านถูกคู่ชก ชกถูกบริเวณใต้ตาซ้าย มีอาการเขียวคล้ำอย่างมากแต่ไม่แตก จากความเป็นคนสู้คน กรรมการและพรรคพวกบอกให้ยอมแพ้ แต่ท่านคิดว่าถ้าแพ้ขอตายหน้าพระที่นั่ง จนการต่อสู้จบลงด้วยชัยชนะ และจากการต่อสู้ครั้งนี้เอง ที่ทำให้ท่านเป็นรอยเขียวช้ำจนตลอดชีวิต แม้ตอนที่เสียชีวิตรอยเขียวช้ำนั้นจะจางหายไปบ้างแล้วก็ตามนอกจาการต่อสู้ในครั้งนั้นแล้วมีอยู่ครั้งหนึ่งคือ ตอนที่ท่านนำนักมวยไปชกในงานรับเสด็จรัชกาลที่ 6 ที่บนควนท่าข้าม อำเภอพุนพิน ตอนขากลับท่านได้รับอุบัติเหตุคือ เรือใบถูกลมพัดจัด เสาใบหักลงตีศีรษะของท่านเป็นรอยบุ๋มทุกคนในเรือคิดว่าท่านศีรษะต้องแตก แต่เมื่อท่านเปิดมือที่กุมหัวให้ดู ทุกคนก็เห็นว่าไม่มีเลือดไหลออกมาเลย นอกจากจะเห็นศีรษะของท่านเป็นรอยบุ๋มลง และจากอุบัติเหตุครั้งนี้เองที่ทำให้ท่านกลายเป็นคนที่หูค่อนข้างตึงไปเล็กน้อย
หมื่นมวยมีชื่อ ท่านได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ ที่บ้านของท่านเองเมื่ออายุได้ 60 ปี เศษ มีการจัดงานศพถึง 9 คืน ซึ่งนับได้ว่าเป็นศพแรกของไชยาก็ว่าได้ที่ทำบุญงานศพนานถึงเพียงนั้น และในวันเผาศพก็มีการชกมวยของบรรดาศิษย์เป็นการบูชาครูครั้งสุดท้ายอย่างมากมาย
หมื่นมวยมีชื่อ ได้จากลูกหลานอย่างไม่มีวันกลับ แต่เกียรติประวัติของท่านยังคงจารึกไว้ในหัวใจของลูกหลาน ศิษย์และผู้ที่เคารพนับถือท่าน หมื่นมวยมีชื่อมีทายาทสืบสกุลดังต่อไปนี้ คือ
1.ทายาทที่เกิดจากแม่หอย
- นางอาบ คงคล้ำ อายุ 91 ปี บ้านเลขที่ 38 หมู่ที่ 1 ตำบลเวียง อำเภอไชยา
- นางพร้อย จำนงทอง อายุ 87 ปี บ้านเลขที่ 120 หมู่ที่ 4 ตำบลเลม็ด อำเภอไชยา
- นางปราง ศักดิ์เพชร อายุ 85 ปี หมู่ที่ 40 ตำบลเวียง อำเภอไชยา
- นางปริง (ถึงแก่กรรมแล้ว)
- นางอบ นิลเอี่ยม อายุ 78 ปี บ้านเลขที่ 121 หมู่ที่ 4 ตำบลเลม็ด อำเภอไชยา
2. ทายาทที่เกิดจากแม่ช้อย
- นางงอ เรืองเวช อายุ 75 ปี บ้านเลขที่ หมู่ที่ 4 ตำบลเลม็ด อำเภอไชยา
- นางเกลื้อน ศักดิ์เพชร อายุ ปี บ้านเลขที่ หมู่ที่ 4 ตำบลเลม็ด อำเภอไชยา
3.ทายาทที่เกิดจากแม่จบ
- นางพัน มุนเนียมอายุ ปี บ้านเลขที่ หมู่ที่ 5 ตำบลเลม็ด อำเภอไชยา
- นายจูด จำนงทอง (ถึงแก่กรรมแล้ว)