อำเภอสุไหงโก-ลก
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
|
อำเภอสุไหงโก-ลก เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดนราธิวาส มีตัวขนาดตัวเมืองใหญ่และมีความเจริญกว่าตัวจังหวัดมาก เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งของภาคใต้ตอนล่าง
เนื้อหา |
[แก้] ที่ตั้งและอาณาเขต
อำเภอสุไหงโก-ลกตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัด มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอสุไหงปาดีและอำเภอตากใบ
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับรัฐกลันตัน (ประเทศมาเลเซีย)
- ทิศใต้ ติดต่อกับรัฐกลันตัน (ประเทศมาเลเซีย) และอำเภอแว้ง
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอสุไหงปาดี
[แก้] ประวัติ
สุไหงโก-ลกเดิมเป็นป่าดงดิบรกร้างว่างเปล่าในเขตตำบลปูโยะ อำเภอสุไหงปาดี ความเป็นป่าทึบทำให้ชาวบ้านเรียกว่า "ป่าจันตุหลี" หมายความว่า ทึบจนเรียกไม่ได้ยิน เหมือนหูหนวก เมื่อเริ่มมีผู้เข้ามาหักร้างถางพง จากชื่อป่าจันตุหลีเปลี่ยนเป็น "สุไหงโก-ลก" ซึ่งเป็นภาษามลายู มาจากคำว่า "สุไหง" แปลว่า แม่น้ำ ลำคลอง และคำว่า "โก-ลก" แปลว่า คดเคี้ยว ถ้าเป็นคำนามหมายถึง มีดพร้า (ที่คนพื้นเมืองนิยมใช้) เมื่อนำคำว่าสุไหงรวมกับโก-ลก จึงหมายถึง แม่น้ำที่คดเคี้ยว หรือ แม่น้ำมีดอีโต้ ชาวบ้านคงเรียกชื่อเมืองตามแม่น้ำที่ไหลผ่านพื้นที่ ปัจจุบันแม่น้ำสายนี้เป็นเส้นกั้นพรมแดนประเทศไทยกับรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย
เมื่อปี พ.ศ. 2460 ได้มีการกรุยทางเพื่อก่อสร้างทางรถไฟเชื่อมไปรัฐกลันตันโดยกำหนดตั้งสถานีรถไฟในเขตป่าจันตุหลี ซึ่งต่อมาก็คือสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นสถานีรถไฟสถานีสุดท้ายของประเทศไทยที่มีระยะทางไกลที่สุด ชาวบ้านปูโยะที่เห็นการณ์ไกลได้เริ่มเข้ามาจับจองที่ดิน บ้างก็ขออนุญาตทำสวนยางพาราแต่ยังไม่มีการปลูกสร้างบ้านเรือน ชุมชนที่ชาวปูโยะติดต่อค้าขายมีเฉพาะรันตูปันยังของกลันตันซึ่งมีราษฎรอยู่อาศัยและประกอบอาชีพค้าขายเป็นหลักแหล่งแล้ว
แม้ว่าจะเปิดการเดินรถไฟเป็นรถรวมจากหาดใหญ่ไปสิ้นระยะที่สุไหงโกลกเมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2464 แต่ราษฎรก็ยังไม่ได้รับความสะดวก เนื่องจากป่าถูกจับจองไว้โดยมิได้ก่อประโยชน์ ดังนั้น ในปี พ.ศ. 2468 นายวงศ์ ไชยสุวรรณ อาศัยที่ดินของนายฉ่ำที่หลังสถานีรถไฟ พร้อมนายฮวด นายซั้ว นายกวาซ่อง นายเจ๊ะหมัด นายหลีหลง และนายหวัง รวม 7 คน เป็นเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงซึ่งมีทั้งคนไทย คนมุสลิม และคนจีนร่วมกันพัฒนาเมือง (สุนทรธรรมพาที: 2501) นับเป็นต้นแบบแห่งสังคมพหุลักษณ์ที่มีเสน่ห์ยิ่ง ปี พ.ศ. 2472 กำนันตำบลปูโยะถึงแก่กรรม นายวงศ์ ไชยสุวรรณจึงได้รับแต่งตั้งเป็นกำนันได้พัฒนาจนเริ่มกลายเป็นเมือง ได้อาศัยเงินจากเพื่อน 5 คน ได้ 500 บาท ตัดถนนถึง 31 สาย ลักษณะถนนตัดพาดผ่านกันเป็นตาหมากรุก จึงมีสี่แยกจำนวนมาก แต่เชื่อว่านั่นคือแนวคิดการป้องกันการลุกลามของไฟเมื่อเกิดอัคคีภัย ดังนั้นจึงมีผู้คนอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานและประกอบอาชีพมากมาย ตำบลปูโยะมีประชากรถึง 12,300 คน ทางราชการจึงแยกเป็น 2 ตำบล คือ ตำบลปูโยะและตำบลสุไหงโก-ลก
ต่อมาเมื่อจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ล่องใต้มาตรวจราชการที่ตำบลสุไหงโก-ลก นายวงศ์ ไชยสุวรรณได้ร้องขอให้ตั้งท้องถิ่นนี้ขึ้นเป็นเทศบาล ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีเห็นด้วย จึงได้มีพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งเทศบาลตำบลสุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2483 มีนายวงศ์ ไชยสุวรรณ เป็นนายกเทศมนตรีคนแรก เหตุการณ์นี้พระครูสุนทรธรรมภาณีได้เขียนคำกลอนบันทึกไว้ว่า
ใน พ.ศ. สองสี่แปดสิบสาม นายกนามจอมพล ป. พิบูลย์ศรี ออกเที่ยวตรวจราชการงานที่มี มาถึงแดนโก-ลกโชคดีแรง กำนันวงศ์ร้องขอต่อ ฯพณฯ ท่าน ขอเปิดการเทศบาลขึ้นในแขวง จอมพล ป. เห็นตามความชี้แจง คุณวงศ์แต่งเปิดเขตเทศบาล ฯลฯ ในเจ็ดปีที่คุณวงศ์เป็นนายก สร้างโก-ลกให้สง่าหรูหราแสน ทำประโยชน์มากมายเมืองชายแดน ตามแบบแปลนที่จะเล่ากล่าวต่อไป หนึ่งขอตั้งไปรษณีย์โทรเลข งานชิ้นเอกสร้างสรรค์ทันสมัย เรื่องที่สองร้องขอตั้งต่อไป โรงเรียนใหม่ถึงขั้นชั้นมัธยม ทางกระทรวงศึกษาอนุญาต ความมุ่งมาตรมั่นหมายก็ได้ผล ฯลฯ ประการสี่มีข้อขอเสนอ ตั้งเป็นอำเภอปรารถนา เพราะโก-ลกคนมากหากเป็นป่า กิจธุระต้องไปติดต่อสุไหงปาดี รัฐบาลเห็นพ้องอนุญาต แจ้งประกาศบอกกระบวนมาถ้วนถี่ ให้ตั้งก่อนเป็นกิ่งจึงจะดี แต่บัดนี้เป็นอำเภอเสมอกัน
หลังจากตั้งเทศบาลแล้ว 8 ปี ตำบลสุไหงโก-ลกจึงได้ยกฐานะเป็น กิ่งอำเภอสุไหงโก-ลก ขึ้นกับอำเภอสุไหงปาดี โดยมีเขตปกครอง 4 ตำบล คือ ตำบลสุไหงโก-ลก ตำบลปูโยะ ตำบลปาเสมัส และตำบลมูโนะ (รับโอนมาจากอำเภอตากใบ) กระทั่งวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2496 จึงได้รับการยกฐานะเป็น อำเภอสุไหงโก-ลก มีนายนอบ นพสงศ์ เป็นนายอำเภอคนแรก เขตการปกครอง 4 ตำบลเท่าเดิม ส่วนตำบลสุไหงโก-ลกอยู่ในเขตเทศบาล ความน่าภูมิใจของเทศบาลนี้คือ เป็นเทศบาลเดียวในประเทศไทยที่จัดตั้งก่อนอำเภอถึง 13 ปีและเกิดจากความต้องการของประชาชน ปัจจุบันเทศบาลตำบลสุไหงโก-ลกได้รับการยกฐานะเป็นเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลกเมื่อ ปี พ.ศ. 2545 เป็นต้นมา ปัจจุบันอำเภอสุไหงโก-ลกมีความเจริญและเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภาคใต้ตอนล่าง มีด่านการค้าชายแดนที่ใหญ่ที่สุดของฝั่งตะวันออก เป็นศูนย์กลางของการค้าขายส่งสินค้าทั้งพืชผักผลไม้ ตลอดจนไม้ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และขนมนมเนยจากประเทศเพื่อนบ้าน
[แก้] การปกครองส่วนภูมิภาค
การปกครองของอำเภอสุไหงโก-ลกมี 4 ตำบล 19 หมู่บ้าน ได้แก่
1. | สุไหงโก-ลก | (Su-ngai Kolok) | 1 หมู่บ้าน | |||||||
2. | ปาเสมัส | (Pasemat) | 7 หมู่บ้าน | |||||||
3. | มูโนะ | (Muno) | 5 หมู่บ้าน | |||||||
4. | ปูโยะ | (Puyo) | 6 หมู่บ้าน |
[แก้] การปกครองส่วนท้องถิ่น
ท้องที่อำเภอสุไหงโก-ลกประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 4 แห่ง ได้แก่
- เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลสุไหงโก-ลกทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลปาเสมัส ครอบคลุมพื้นที่ตำบลปาเสมัสทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลมูโนะ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลมูโนะทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลปูโยะ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลปูโยะทั้งตำบล
[แก้] ประชากร
- เชื้อชาติมีชาวไทย ชาวไทยเชื้อสายมลายู ชาวไทยเชื้อสายจีน และชาวมลายู
- ศาสนาประชาชนชาวไทยและไทยเชื้อสายจีนส่วนใหญ่ในเขตเมืองจะนับถือศาสนาพุทธและศาสนาคริสต์ ชาวไทยมุสลิมนับถือศาสนาอิสลาม
- อาชีพ ส่วนใหญ่ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลกจะประกอบอาชีพธุรกิจค้าขาย ส่งออกสินค้า ไม้แปรรูป ผลิตผลทางเกษตรกรรม แลกเปลี่ยนสินค้า เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ งานบริการการท่องเที่ยว ข้าราชการ ส่วนรอบนอกประกอบอาชีพเกษตรกร โดยมากจะนิยมปลูกลองกองและยางพารา
[แก้] สถานที่ท่องเที่ยว
- ด่านการค้าชายแดนสุไหงโก-ลก (ไทย-มาเลเซีย) โดยมีศูนย์กลางการค้าขายอยู่ในตัวเมืองสุไหงโก-ลกที่ศูนย์พาณิชกรรมเก็นติ่งหลังโรงแรมเก็นติ่งเยื้องสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก
- ศาลเจ้าแม่โต๊ะโม๊ะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชายไทยเชื้อสายจีน จะมีพิธีสมโภชองค์เจ้าแม่โต๊ะโม๊ะ ในระหว่างเดือนพฤษภาคมของทุกปี ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวมาก
- ป่าพรุสิรินธร ป่าพรุธรรมชาติผืนสุดท้ายที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่นอกเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลกอีกไปประมาณ 6 กิโลเมตร มีศูนย์พัฒนาและวิจัยป่าพรุสิรินธรซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เปิดด้วยพระองค์เอง
- สวนสิรินธร สวนภูมินทร์ สวนรื่นอรุณ สวนมิ่งขวัญประชา และสวนสาธารณะเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ทั้งหมดเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในหลายพื้นที่ของอำเภอสุไหงโก-ลก มีความสวยงามและน่าท่องเที่ยวพักผ่อนมาก
- พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ประดิษฐานอยู่ ณ บริเวณกลางสวนภูมินทร์ เป็นที่เคารพและสักการะของชาวเมืองและจังหวัดใกล้เคียง
- แหล่งท่องเที่ยวในตัวเมืองยามค่ำคืน ตั้งแต่บริเวณถนนเจริญเขต ถนนประชาวิวัฒน์ ถนนวรคามินทร์ ตลอดจนสุดสายถนนเป็นที่ตั้งของแหล่งช้อปปิ้ง ร้านกาแฟ คาเฟ่ ร้านอาหารกึ่งผับ บาร์ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวยามค่ำคืนที่ไม่ยอมหลับไหล
[แก้] โรงแรมและสถานที่พัก
โรงแรมและสถานที่พักอำเภอสุไหงโก-ลกมีหลายหลายให้เลือกโดยมีห้องพักทั้งหมดประมาณ มากกว่า 4,000 กว่าห้อง (พ.ศ. 2549)
- โรงแรมเก็นติ้ง (ห้องพัก ประมาณ 400 ห้อง)
- โรงแรมมารีน่า (ห้องพักประมาณ 400 ห้อง)
- โรงแรมแกรนการ์เดนร์ (ห้องพักประมาณ 350 ห้อง)
- โรงแรมอินเตอร์ โอเตล
- โรงแรมธารารีเจน โอเตล
- โรงแรมซิตี้
- โรงแรมเวนิส พาเลซ โฮเทล (ประมาณ 300 ห้อง)
- โรงแรมเมอลิน
- โรงแรมริเวียร่า
- โรงแรมปาร์คสัน
- โรงแรมทักษิณ 1
- โรงแรมทักษิณ 2
- บังกะโลโก-ลก (12 หลัง) และโรงแรมเล็ก ๆ อีกหลายสิบแห่ง
[แก้] ข้อมูลพื้นฐาน
- เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก
- เทศบาลตำบลปาเสมัส
- สนามกีฬามหาราช
- ด่านศุลกากร
- สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและตำรวจตรวจคนเข้าเมือง
- สถานีตำรวจภูธรสุไหงโก-ลก
- สถานีตำรวจภูธรมูโนะ
- สถานีรถไฟสุไหงโก-ลก
- ด่านตรวจพืช
- ที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก
- สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ
- โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก
- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
- การไฟฟ้าฝ่ายผลิต
- ธนาคาร
- ออมสิน
- เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
- ไทยพาณิชย์
- กรุงไทย
- กรุงเทพ
- กสิกรไทย
- ทหารไทย
- นครหลวงไทย
- กรุงศรีอยุธยา
- สถานปฏิบัติการชั้นคลินิก โรงพยาบาลเทพสิรินธร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น
- แผนที่ จาก มัลติแมป โกลบอลไกด์ หรือ กูเกิลแมปส์
- ภาพถ่ายทางอากาศ จาก เทอร์ราเซิร์ฟเวอร์
- ภาพถ่ายดาวเทียม จาก วิกิแมเปีย
อำเภอของจังหวัดนราธิวาส | |||
---|---|---|---|
อำเภอ: |
เมืองนราธิวาส - ตากใบ - บาเจาะ - ยี่งอ - ระแงะ - รือเสาะ - ศรีสาคร - แว้ง - สุคิริน - สุไหงโก-ลก - สุไหงปาดี - จะแนะ - เจาะไอร้อง |