ไอดี 4 : สงครามวันดับโลก
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
| ไอดี 4 : สงครามวันดับโลก Independence Day |
|
|---|---|
 ใบปิดภาพยนตร์ |
|
| ผู้กำกับ | Roland Emmerich |
| อำนวยการสร้าง | Dean Devlin |
| บทภาพยนตร์ | Dean Devlin Roland Emmerich |
| นักแสดงนำ | Jeff Goldblum Will Smith Bill Pullman Margaret Colin Vivica A. Fox Judd Hirsch Mary McDonnell Robert Loggia Randy Quaid |
| จัดจำหน่าย | ทเวนตีส์เซ็นจูรีฟ็อกซ์ |
| วันที่เข้าฉาย |  3 กรกฎาคม พ.ศ. 2539
|
| ความยาว | 145 นาที (โรงภาพยนตร์) 153 นาที (ฉบับปรับปรุง) |
| ประเทศ | สหรัฐอเมริกา |
| ภาษา | อังกฤษ |
| งบประมาณ | ประมาณ 75,000,000 ดอลลาร์ |
| ก่อนหน้านี้ | ไม่มี |
| ต่อจากนี้ | ไม่มี |
| All Movie Guide profile | |
| ข้อมูลบนเว็บ IMDb | |
| ข้อมูลบนเว็บ สยามโซน | |
ไอดี 4 : สงครามวันดับโลก เป็นชื่อภาษาไทยของภาพยนตร์สหรัฐอเมริกา เรื่อง Independence Day หรือชื่อย่อ ID4 เป็นภาพยนตร์ในแนววิทยาศาสตร์ ฉายในปี พ.ศ. 2539 (ค.ศ. 1997) กำกับโดย โรแลนด์ เอมเมอริช สร้างโดยบริษัท ทเวนตีส์เซ็นจูรีฟ็อกซ์ ความยาว 145 นาที เข้าฉายในประเทศไทยในวันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2539
Independence Day เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในปีที่ออกฉาย เป็นภาพยนตร์ที่สามารถเรียกคนให้ออกจากบ้านเข้าโรงภาพยนตร์ชมได้ เนื่องจากขณะนั้นมีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ที่แอตแลนต้า อยู่ด้วย และทำรายได้ทั่วโลกที่เข้าฉาย และทำสถิติทำรายได้อันดับหนึ่งในบ๊อก ออฟฟิศ ยาวนานถึง 3 เดือน
[แก้] เนื้อเรื่อง
| ระวังเสียอรรถรส ข้อความด้านล่างนี้กล่าวถึงเนื้อเรื่องหรือฉากจบ |
วันที่ 2 กรกฎาคม จู่ๆ ทั่วโลกก็เกิดโกลาหลเมื่อพบว่าสัญญานการสื่อสารถูกรบกวนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์หรือดาวเทียม พร้อมกันนั้นก็มีผู้พบสัญญาณที่เชื่อว่ามาจากจานบินที่กำลังมุ่งหน้ามาทางโลก ซึ่งสัญญาณนั้นถูกส่งมาจากดวงจันทร์ โดยจากภาพถ่ายดาวเทียมปรากฏให้เห็นยานแม่เอเลี่ยนขนาด 550 กิโลเมตร หรือ 1 ใน 4 ของดวงจันทร์ และยานแม่ได้ส่งยานลูกนับสิบๆ ลำ โดยแต่ละลำก็มีขนาดใหญ่กว่า 15 ไมล์ และกำลังเคลื่อนเข้าสู่เมืองใหญ่ทั่วโลก โดยประธานาธิบดี วิทมอร์ (บิลล์ พูลแมน) และคณะไม่รู้จะรับมืออย่างไรกับสถานการณ์
ผู้เชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์ของสถานีโทรทัศน์ เดวิด ลีวินสัน (เจฟฟ์ โกลด์บลุม) อ่านสัญญาณนั้นออกและเชื่อว่ามันเป็นสัญญาณบอกให้โจมตีโลกพร้อมกัน จึงรีบไปที่ทำเนียบขาวพร้อมกับพ่อของเขาเพื่อเตือนประธานาธิบดีก่อนจะสายเกินไป ขณะที่อีกด้านหนึ่ง ผู้กองสตีเว่น ฮิลเล่อร์ (วิลล์ สมิธ) นักบินผู้ไม่กลัวใครของกองทัพสหรัฐ ถูกเรียกตัวไปประจำหน้าที่โดยไม่ได้อยู่ร่วมฉลองวันชาติพร้อมกับครอบครัว
ณ ทำเนียบขาว เดวิดได้อธิบายถึงการที่ดาวเทียมไร้ผลซึ่งเกิดจากการติดต่อระหว่างจานบินทั่วโลก และจากตามที่คำนวณได้เหลือเวลาเพียง 27 นาทีก่อนที่จานบินจะโจมตี ในขณะเดียวกันทางรัฐบาลกำลังส่งฮ.แบบติดไฟพิเศษขึ้นไปติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว แต่ก็ถูกตอบรับด้วยการยิงกลางอากาศ จึงมีคำสั่งให้อพยพคนในเมืองทั้งหมด โดยเหลือเวลาอีก 1 นาที ประธานาธิบดี เดวิด จูเลี่ยน และผู้ติดตาม ยกเว้นภรรยาของประธานาธิบดี ได้ขึ้น Air Force One หนีออกจากเมือง และก็เป็นดั่งคำทำนายของเดวิด เมื่อจานบินทุกลำพร้อมกันยิงแสงทำลายอาคารบ้านเรือนพร้อมกันทั่วโลก มีผู้รอดชีวิตเพียงไม่กี่คน
วันที่ 3 กรกฎาคม ผู้กองฮิลเลอร์และทหารจำนวนหนึ่งได้พยายามที่ใช้เครื่องบินรบสู้กับจานบิน แต่จานบินและยานเอเลี่ยนนั้นมีเกราะสนามพลังอยู่ทำให้ไม่สามารถทำอะไรจานบินได้เลยแม้แต่น้อย ผู้กองฮิลเลอร์จึงล่อยานเอเลี่ยนลำหนึ่งให้ไปชนกับภูเขาและได้นำร่างของเอเลี่ยนซึ่งสลบอยู่ไปหาฐานทัพที่เขาเห็นระหว่างบิน ในระหว่างที่อยู่บนเครื่องบิน Air Force One จูเลี่ยน (จัดด์ เฮิร์สช) พ่อของเดวิดก็ได้เสนอความคิดเพี้ยนๆ ขึ้นมาถึงเรื่องแอเรีย 51 สถานที่ๆ เชื่อว่ารัฐบาลสหรัฐเก็บศพมนุษย์ต่างดาวไว้ แต่กลายเป็นว่าสถานที่แห่งนี้มีจริง และทั้งหมดก็มุ่งหน้าไปที่แอเรีย 51 ในขณะนั้นผู้กองฮิลเลอร์ก็มาถึง แอเรีย 51 พร้อมกับร่างของเอเลี่ยน ซึ่งประธานาธิบดีและคนของเขาก็ตามมาถึง และได้พบความจริงว่า แอเรีย 51 นั้นได้มีการจับตัวเอเลี่ยน 3 ตัวที่เสียชีวิตจากยานตกในปี ค.ศ. 1947
หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ ดร.Brackish Okun (Spiner) ได้ทำการผ่าตัดเอเลี่ยนที่ผู้กองฮิลเลอร์จับมาได้ แต่ทว่าเอเลี่ยนหลุดลอดออกมาพร้อมสะกดจิตเขาไว้ เอเลี่ยนได้สื่อสารกับประธานาธิบดีผ่านทาง ดร.Okun และได้รู้ว่าพวกเอเลี่ยนเป็นเหมือนฝูงตั๊กแตนที่อพยพไปเพื่อหาแหล่งอาหารไปเรื่อยๆ เมื่ออาหารหมดก็จะอพยพไปดาวอื่นต่อไป เอเลี่ยนพยายามใช้พลังจิตทำร้ายประธานาธิบดีวิทมอร์ แต่สุดท้านเอเลี่ยนก็ถูกฆ่าโดยคนของประธานาธิบดี วิทมอร์สั่งให้ใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตีจานบิน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถทำอะไรต่อจานบินแม้แต่น้อย
เดวิดพยายามหาทางที่จะปิดระบบเกราะสนามพลังให้ได้ และพบว่าไวรัสคอมพิวเตอร์สามารถปิดเกราะของจานบินได้ชั่วคราว พวกเขาจึงเตรียมการใช้ยานเอเลี่ยนที่ตกลงมาปี 1947 ขึ้นไปอัปโหลดไวรัสบนยานแม่ของเอเลี่ยนและวางระเบิดนิวเคลียร์ภายในยาน ส่วนนักบินที่เหลือให้รวมตัวเพื่อทำลายจานบินขณะที่เกราะยังปิดอยู่ และได้ใช้รหัสมอสเพื่อส่งข้อความไปยังฐานทัพทั่วโลกเพื่อให้โจมตี
หลังจากที่แผนการใช้ไวรัสประสบผล ประธานาธิบดีวิทมอร์ได้ขับเครื่องบินรบคู่กับนักบินคนอื่นร่วมกันโจมตีจานบินและยานเอเลี่ยนเหนือแอเรีย 51 ถึงจานบินจะไร้สนามพลังแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรจานบินได้มากนัก และจานบินเตรียมพร้อมที่จะยิง แอเรีย 51 เนื่องด้วยเครื่องบินส่วนใหญ่มิสไซล์หมด วิทมอร์จึงสั่งถอยทัพ Russell Casse (Quaid) ซึ่งยังเหลือมิสไซล์อีกลูกหนึ่ง แต่มิสไซล์ขัดลำ เขาจึงใช้วิธีแบบกามิกาเซ่ตรงเข้าไปยังฐานยิงลำแสงทำลายล้างของจานบิน ทำให้จานบินเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่และถูกทำลายในที่สุด ส่วนกองทัพที่เหลืออยู่ทั่วโลกก็รู้จุดอ่อนของจานบิน ขณะเดียวกันผู้กองฮิลเลอร์และเดวิดได้วางระเบิดบนยานแม่ของเอเลี่ยน และทั้งคู่ก็หนีออกมาอย่างปลอดภัย ถือว่าเป็นชัยชนะของมวลมนุษยชาติอย่างแท้จริง
| จบเนื้อหาส่วนที่เสียอรรถรสแล้ว ข้อความด้านบนนี้กล่าวถึงเนื้อเรื่องหรือฉากจบ |
