See also ebooksgratis.com: no banners, no cookies, totally FREE.

CLASSICISTRANIERI HOME PAGE - YOUTUBE CHANNEL
Privacy Policy Cookie Policy Terms and Conditions
ดงมรณะ - วิกิพีเดีย

ดงมรณะ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ดงมรณะ
ข้อมูลเฉพาะ ตอนดงมรณะ
ผู้ประพันธ์ นายฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ
ชื่อตอน ดงมรณะ
จำนวนเล่ม 4 เล่ม
จำนวนหน้า 1,692 หน้า
ออกแบบปก สามารถ จงเจษฎากุล
ภาพประกอบปก สมชาย ปานประชา
ศิลปกรรม ฝ่ายศิลปกรรม
ณ บ้านวรรณกรรม กรุ๊ป
บรรณาธิการ รักษ์ชนก นามทอน
ลิขสิทธิ์ พนมเทียน
สำนักพิมพ์ สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม
ปีที่พิมพ์ ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2538
ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2541
ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2544
ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2547

ดงมรณะ เป็นตอนที่สองของเพชรพระอุมาจำนวน 4 เล่ม ได้แก่ดงมรณะ เล่ม 1 - 4

เนื้อหา

[แก้] เนื้อเรื่องย่อ

[แก้] ดงมรณะ เล่ม 1

ระวังเสียอรรถรส ข้อความด้านล่างนี้กล่าวถึงเนื้อเรื่องหรือฉากจบ

ภายหลังจากรพินทร์นำคณะนายจ้างผ่านดงทากมาถึงยังบึงใหญ่ ในขณะที่กำลังหาวิธีข้ามบึงก็พบกับอุปสรรคในการเดินทาง เนื่องจากในบึงมีจระเข้ขนาดใหญ่จำนวนมาก รพินทร์จึงหาวิธีข้ามคลองด้วยการยิงตัวสมเสร็จเพื่อใช้เป็นเหยื่อล่อความสนใจ[1]จนสามารถข้ามบึงใหญ่ได้สำเร็จ และหยุดพักค้างแรมในหุบเขากลางดงกล้วย[2] ในตอนเย็นรพินทร์แสดงฝีมือการทำอาหาร คือลูกหมูหันบ้านป่า ยัดไส้ด้วยใบกล้วยให้คณะนายจ้างได้ลองชิม [3] คืนนั้นระหว่างพักผ่อน เกิดอาถรรพณ์ป่ากับปางพักของคณะนายจ้าง ไชยยันต์ที่พักผ่อนอยู่ภายในเต็นท์เกิดตาฝาดมองเห็นเสือดาวขนาดใหญ่กลายเป็นหญิงสาวแรกรุ่น หน้าตาถอดแบบดารินออกมาทุกกระเบียดนิ้ว นั่งห้อยเท้าอยู่บนเถาวัลย์ใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายชิงช้า[4] เชษฐาที่ตื่นขึ้นมากลางดึกโดนอาถรรพณ์ของป่าด้วยเช่นกัน[5] เชษฐาและไชยยันต์ต้องมนตร์สะกดให้ออกนอกปางพัก รพินทร์ที่เฝ้าดูเหตุการณ์ตลอดเข้าช่วยเหลือด้วยการยิงแสกหน้าเสือดาวด้วยปืน.458

เมื่อเชษฐาและไชยยันต์คลายจากมนตร์สะกด และเห็นหญิงสาวแรกรุ่นที่มีใบหน้าเหมือนดารินกลายเป็นเสือดาวขนาดใหญ่ก็ตกใจ รพินทร์เล่าให้ฟังถึงอาถรรพณ์ของป่าและตบะอันแรงกล้าของเสือดาวที่เรียกว่า "เสือสมิง" ที่เกิดจากการฆ่าและกินมนุษย์เป็นอาหาร ทำให้วิญญาณสิงสู่อยู่ในร่างของเสือดาวและสามารถสร้างภาพมายาหลอกล่อให้มนุษย์ติดกับดักได้เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ พรานเกิดขอซากเสือดาวจากรพินทร์เพื่อใช้เป็นของขลังป้องกันอันตราย ด้วยการกรีดบริเวณหนังตรงหน้าผาก ให้เป็นชิ้นเท่าฝ่ามือแล้วชโลมด้วยขี้เถ้าเก็บไว้[6] ก่อนออกเดินทางต่อในวันรุ่งขึ้น รพินทร์นำคณะนายจ้างไต่สันเขาดอยนางขึ้นไปจนถึงเวลาประมาณเที่ยง ก็เริ่มมองเห็นบริเวณของป่าหวายอยู่เบื้องล่าง[7] ก่อนหยุดพักผ่อนชั่วครู่และลงจากดอยนางในช่วงเวลาประมาณบ่ายเศษ ๆ และพบเจอกับร่องรอยเกวียนที่รพินทร์ให้พรานบุญคำเป็นผู้ควบคุมและมอบหมายให้เดินทางล่วงหน้ามาก่อน

คณะเดินทางทั้งหมดพบซากควายที่ใช้ในการเทียมเกวียนนอนตายเนื่องจากถูกงูจงอางกัด[8] รพินทร์นำคณะนายจ้างและลูกหาบเดินทางต่อจนเข้าใกล้เขตป่าหวายในตอนค่ำ แต่เกิดปะทะกับโขลงช้างของไอ้แหว่ง พญาช้างสารเกเรที่เคยมาป้วนเปี้ยนแถวปางพัก รพินทร์มีโอกาสเผชิญหน้ากับไอ้แหว่งซึ่ง ๆ หน้า แต่ในขณะที่เหนี่ยวไกปืนเพื่อเล็งบริเวณเนินน้ำเต้า บังเอิญกระสุนในปืนไรเฟิลของรพินทร์หมด ทำให้เสียโอกาสในการพิชิตพญาคชสารและเป็นการเปิดโอกาสให้ไอ้แหว่งและเหล่าบริวารหนีรอดไปได้ คณะนายจ้างทุกคนปลอดภัยไม่ได้รับอันตรายจากการปะทะในครั้งนี้ แต่ต้องสูญเสียลูกหาบจำนวน 3 คน[9]และเกวียนจำนวน 3 เล่ม ที่ถูกโขลงช้างของไอ้แหว่งถล่มเสียราบคาบ ทำให้ลูกหาบที่ติดตามคณะเดินทางสูญเสียขวัญและกำลังใจ เชษฐาในฐานะหัวหน้าคณะเดินทาง ปลุกปลอบขวัญของบรรดาลูกหาบที่ขวัญหนีดีฝ่อจากการปะทะกับไอ้แหว่ง ด้วยการให้สัญญาจะจ่ายเงินค่าคำขวัญให้แก่ลูกหาบที่เสียชีวิต รายละหนึ่งหมื่นบาทเมื่อเดินทางกลับพร้อมด้วยพรานชดและถึงหมู่บ้านหนองน้ำแห้ง โดยจะฝากหนังสือลายมือของเชษฐาไปถึงคุณอำพล เมื่อคณะเดินทางแยกทางกับลูกหาบตามสัญญาว่าจ้างที่หมู่บ้านหล่มช้าง[10]

รพินทร์และคณะนายจ้างตั้งใจจะหยุดพักการเดินทางหนึ่งวัน เพื่อพักผ่อนตามอัธญาศัย และในวันมะรืนจะบ่ายหน้ามุ่งไปทางทิศเหนือระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร เพื่อพักแรมและสร้างปางพักถาวรบริเวณไหล่เขาริมหน้าผา เชษฐานำปืนไรเฟิลที่เตรียมไว้สำหรับในการเดินทาง ออกมาแจกจ่ายให้แก่ลูกหาบเพื่อใช้ในการป้องกันตัวจากอันตราย ดารินเปลี่ยนปืนที่ใช้จากเดิมคือ .470 มาเป็นบีเวอร์ .300 แม็กนั่มแทน เพราะปืนขนาดเล็กอานุภาพในการยิงน้อยไม่สามารถใช้ต่อสู้กับสัตว์ใหญ่ได้ ตกดึกดารินฝันว่าเจ้าป่านุ่งขาวห่มขาว หนวดเครายาวมาทวงคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ ดารินจึงแก้บนตามที่ขอไว้ด้วยสก็อตวิสกี้[11] ตกดึกประมาณตีสอง ปางพักของคณะเดินทางได้ถูกล้อมด้วยโขลงช้างบริวารของไอ้แหว่ง รพินทร์นำคณะนายจ้างและลูกหาบหลบหนีการโจมตีขึ้นไปตั้งหลักบนเนินเขา ไชยยันต์และแงซายช่วยกันฝังระเบิดไนโตรเจนบริเวณเนินเขาทั้ง 4 ด้าน[12] ผลจากการปะทะครั้งใหญ่กลางดึกนี้ ทำให้ลูกหาบเสียชีวิตจากการถูกหินที่เกิดจากแรงระเบิดหนึ่งคน แต่ที่ร้ายแรงมากที่สุดคือเชษฐา ที่ได้รับบาดเจ็บที่ขาอ่อนเหนือเข่าด้านซ้ายขึ้นไปเล็กน้อย เป็นแผลฉกรรจ์ ลึกและยาว ศีรษะแตกอีกสองแห่ง สูญเสียเลือดเป็นจำนวนมาก ชีพจรเต้นอ่อนและหมดสติ

ดารินทำการผ่าตัดฉุกเฉินเพื่อช่วยชีวิต แต่เชษฐาสูญเสียเลือดเป็นจำนวนมากต้องให้เลือดโดยด่วน ดารินต้องการเลือดกรุ๊ป เอ เนกาทีฟที่หายากและไม่มีในกรุ๊ปเลือดที่นำติดตัวมา แงซายเสนอตัวเข้าช่วยเหลือด้วยการให้เลือดแก่เชษฐา ซึ่งเป็นกรุ๊ปเดียวกัน ภายหลังจากการผ่าตัดเสร็จสิ้น เชษฐาหลับด้วยฤทธิ์ยาจนค่ำถึงรู้สึกตัว และรับรู้ถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับตนเองจนไม่สามารถเดินได้ชั่วคราว แต่ขวัญและกำลังใจของเชษฐากลับดีเยี่ยม ไม่หวั่นแม้แต่น้อยในการเตรียมวางแผนออกตามไล่ล่าไอ้แหว่งในวันรุ่งขึ้น รพินทร์นำคณะนายจ้างเดินทางต่อไปอีกเป็นระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตรจนถึงเนินเขาแห่งหนึ่งจึงหยุดพัก และจัดตั้งเป็นกองบัญชาการชั่วคราวในการโจมตีกับโขลงช้างของไอ้แหว่งหากเกิดการปะทะกันโดยไม่คาดฝัน [13] ในขณะพรานพื้นเมือง แงซายและลูกหาบช่วยกันสร้างปางพัก รพินทร์ออกเดินสำรวจรอบบริเวณปาง พบร่องรอยของไอ้แหว่งที่ขาหลังด้านซ้ายหักและมุ่งหน้าพาร่างที่บาดเจ็บของมันกลับไปยังเขานาง[14] รพินทร์ ไชยยันต์และแงซาย ออกติดตามร่องรอยของไอ้แหว่งตามที่มันทิ้งไว้ มุ่งหน้าไปทางเขานาง รพินทร์ติดตามไอ้แหว่งอยู่ 6 วันก็ไม่พบเจอตัวแม้แต่เงา จึงย้อนกลับมาเพราะพบร่องรอยของไอ้แหว่งที่หวนย้อนกลับมาปางพัก พร้อมกับวางแผนในการออกติดตามใหม่ เชษฐาที่อาการดีขึ้นมากพร้อมที่จะออกตามล่าไอ้แหว่งกับรพินทร์โดยมีดารินขอติดตามไปด้วย

รพินทร์และคณะนายจ้างแกะรอยไอ้แหว่งประมาณ 5 - 6 ชั่วโมงจากป่าหวาย[15] เกิดปะทะกับโขลงของไอ้แหว่ง ดารินยิงสุ่มสี่สุ่มห้าใส่โขลงช้างที่ดาหน้าเข้าหาอย่างประสงค์ร้ายด้วยบีเวอร์ .300 แม็กนั่ม ผลปรากฏว่ากระสุนนัดนั้นโดนไอ้แหว่งเข้าที่ท้องอย่างจัง เป็นบาดแผลฉกรรจ์หลบหนีไป[16] รพินทร์ติดตามรอยไอ้แหว่งไปจนถึงน้ำตกใหญ่และค้นพบด่านทางลับเข้าหุบหมาหอน ซึ่งซ่อนเร้นอยู่ภายหลังน้ำตก[17]

[แก้] ดงมรณะ เล่ม 2

แงซายเป็นคนนำพาทั้งหมดผ่านเข้ามาภายในถ้ำโดยอ้างว่าเป็นการบอกกล่าวจากพระธุดงค์ที่เลี้ยงดูมา ดารินพบซากพญาคชสารยืนตายอย่างสมศักดิ์ศรีที่บริเวณช่องแคบภายในถ้ำ[18] ก่อนจะอโหสิกรรมทุกสิ่งทุกอย่างให้ ภายหลังจากปราบไอ้แหว่งสำเร็จ รพินทร์นำคณะนายจ้างออกเดินทางจากป่าหวายมุ่งหน้าหมู่บ้านหล่นช้างไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ใช้ระยะเวลา 3 วันในการเดินทางด้วยเกวียน แต่ถ้าตัดทางขึ้นเขาก็จะร่นระยะเวลาเหลือเพียง 2 วัน[19] ระหว่างการเดินทางพบเจอโขลงของแม่แปรก แต่ไม่เกิดเหตุร้ายใด ๆ ก่อนถึงหมู่บ้านพุเตยในเวลาเย็นและหยุดพักแรมหนึ่งคืน รพินทร์พบความผิดปกติของหมู่บ้านพุเตยที่ปราศจากผู้คน กลายเป็นหมู่บ้านร้าง

เชษฐารู้สึกถึงความผิดปกติรอบนอกบริเวณปางพักและหมู่บ้านพุเตย ยิ่งตกดึกเสียงหมาเห่าและหอนที่โหยหวนสร้างความหวาดกลัวให้แก่บรรดาลูกหาบและดาริน ดังไปทั่วราวกับเห็นสิ่งที่มองไม่เห็น รพินทร์อธิบายถึงสาเหตุของหมู่บ้านพุเตยที่ร้างเพราะอหิวาต์ ทำให้ผู้คนในหมู่บ้านต้องพากันอพยพย้ายถิ่นที่อยู่อาศัย และซากศพของผู้ที่เสียชีวิตถูกห่อด้วยเสื่อตามหน้าบ้านและขั้นบันได รวมถึงยะขิ่น ลูกสาวของผาเอิงที่เสียชีวิตด้วย ก่อนจะวางเวรยามกำหนดในแต่ละจุดเพื่อดูแลความปลอดภัยแก่คณะนายจ้าง พรานเกิดกับพรานเส่ยเป็นเวรยามผลัดแรก ในขณะทำหน้าที่เวรยามพรานเส่ยเห็นยะขิ่น หญิงสาวชาวกะเหรี่ยงคู่รักของตนเองมาหา พร้อมกับชักชวนให้ไปด้วยกัน พรานเส่ยพยายามจะตามยะขิ่นไปแต่ถูกพรานเกิดขัดขวางเนื่องจากมองไม่เห็นยะขิ่น จึงออกอุบายหลอกล่อพรานเกิดจนสำเร็จและหนียามไปพรอดรักกับยะขิ่น[20] รพินทร์ที่ตรวจสอบความเรียบร้อยรอบปางพักพบว่าพรานเส่ยหายตัวไปในขณะเข้าเวรยาม จากการสอบถามพรานเกิดทำให้รู้ว่าพรานเส่ยถูกผียะขิ่นพาตัวไป จึงออกติดตามค้นหาเพื่อนำตัวกลับ ก่อนจะเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตของพรานเส่ย โดยมีคณะนายจ้างและพรานพื้นเมืองคู่ใจอีก 3 คนติดตามไปด้วย

ตลอดเส้นทางการเดินทางจากปางพักมุ่งหน้าเข้าภายในหมู่บ้านพุเตย เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นของซากศพที่นอนเกลื่อนกลาด เสียงนกแสกและเสียงเห่าหอนยังคงดังต่อเนื่อง ไชยยันต์หวาดผวากับสภาพโดยรอบของหมู่บ้านพุเตยและถูกเหล่าวิญญาณผู้ตายภายในหมู่บ้านหลอกหลอน ทำให้ขวัญเสียขลาดกลัวขาดสติยั้งคิดถึงกับยิงปืนเข้าใส่ลูกมะพร้าวที่เต็มไปด้วยขนรุงรังเนื่องจากมองเห็นเป็นศีรษะมนุษย์ รพินทร์มาหยุดที่หน้าบ้านของผาเอิง ก่อนก้าวขึ้นเรือนก็พบกับพรานเส่ยที่ถูกผียะขิ่นสิงสู่ และพยายามต่อสู้ขัดขวางทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้นำตัวพรานเส่ยจากไป รพินทร์พยายามหว่านล้อมให้ยะขิ่นปล่อยตัวพรานเส่ยแต่ก็ไร้ผล เพราะต้องการเอาตัวพรานเส่ยไปอยู่ด้วยกัน พร้อมกับแสดงอิทธิฤทธิ์จนรพินทร์ต้องเผาหมู่บ้านพุเตยเพื่อช่วยเหลือพรานเส่ยออกมา วันรุ่งขึ้นรพินทร์นำคณะนายจ้างเดินทางมาประมาณชั่วโมงเศษ ๆ ก็เริ่มขึ้นเนิน การเดินทางเริ่มลำบากขึ้นตามลำดับจนรพินทร์รู้สึกตัวว่านำพาคณะนายจ้างมาผิดทาง จึงย้อนกลับไปอ้อมเขาอีโก้และหยุดพักแรม แต่คืนนั้นเกิดเหตุการณ์ประหลาดแก่ปางพัก งูขนาดใหญ่มีหงอนได้ปรากฏตัวขึ้น ควายที่ใช้เทียมเกวียนในการเดินทางถูกงูใหญ่คาบหายไปหนึ่งตัว[21]

รพินทร์และคณะนายจ้างออกเดินทางต่อในวันรุ่งขึ้น ถึงหมู่บ้านหล่มช้างในตอนสาย ๆ และพบกับเจ้ามุ ลูกชายของคะหยิ่นหัวหน้ากะเหรี่ยงหมู่บ้านหล่มช้างที่ถูกหมูขวิดจนไส้ไหล[22] ดารินช่วยปฐมพยาบาลและเย็บบาดแผลที่ท้องให้แก่เจ้ามุ ก่อนเดินทางถึงหมู่บ้านหล่มช้างในตอนเที่ยง ภายหลังรพินทร์และเชษฐาได้ทราบจากแงซายถึงเรื่องราวเมื่อครึ่งปีก่อน ที่มีหมอสอนศาสนามิชชันนารีสองสามีภรรยาถูกคะหยิ่นฆ่าตาย เนื่องจากรับคำท้าในการรักษาโรคให้หายภายใน 3 วันแต่กลับรักษาไม่หาย[23] ภายหลังพบกับคะหยิ่น ดารินรู้สึกหมั่นไส้ในคำโอ้อวด จึงท้าด้วยการยิงมะขวิดด้วยปืน .300[24] จนคะหยิ่นยอมรับในฝีมือของดารินและยกย่องให้เป็นแม่มด ที่หมู่บ้านหล่มช้าง รพินทร์และคณะนายจ้างพบเกวียนของพรานชด ที่ฝากไว้กับคะหยิ่นก่อนออกเดินทางต่อเพื่อค้นหาขุมทรัพย์เพชรพระอุมา จอดไว้ใต้ต้นตะแบกบริเวณลานหน้าบ้านของคะหยิ่น[25] คะหยิ่นช่วยเหลือคณะเดินทางของเชษฐาที่ยังบาดเจ็บด้วยการเกณฑ์ลูกบ้านไปตัดไม้สร้างบ้านให้พักชั่วคราว ระหว่างการก่อสร้าง ลูกบ้านของคะหยิ่นถูกงูใหญ่มีหงอนจำนวนสองตัวออกอาละวาด รพินทร์และคณะนายจ้างอาสาช่วยปราบงูใหญ่ให้เป็นการตอนแทน โดยวางแผนการโจมตีด้วยการใช้ธนูติดระเบิด

แงซายใช้ไม่ไผ่ทั้งลำมาทำธนู ขึ้นสายด้วยริ้วหนังวัว หางสำหรับตัดลมใช้หางนกเงือก ลูกธนูที่ใช้ยาวหนึ่งหลา ติดระเบิดไนโตรเจนประมาณ 7 นิ้ว วัด ก่อนใช้งานจริงได้ทดลองยิงก่อนหนึ่งดอก ผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ รุ่งขึ้นงูใหญ่มีหงอนทั้งสองตัวออกอาละวาด แต่ถูกเชษฐายิงด้วย .458 กระสุนเข้าที่ตาซ้ายบอดสนิททันที[26] เลื้อยหลบหนีไป รพินทร์และคณะนายจ้างออกติดตามร่องรอยของหยดเลือดที่ไหลจากบาดแผลไปยังถ้ำที่อาศัย คะหยิ่นนำทั้งหมดเข้าไปภายในถ้ำด้วยการเลื้อยเหมือนงูไปบนผิวใบไม้จำนวนมากที่ปกคลุมพื้นโคลน[27]

[แก้] ดงมรณะ เล่ม 3

แงซายปะทะกับงูใหญ่มีหงอนตัวผู้ด้วยการยิงธนูติดระเบิดจำนวน 2 ดอก ดอกแรกเข้าที่บริเวณกลางลำตัว[28] ดอกที่สองปักติดแน่นที่เพดานปากด้านบน[29] ส่วนงูใหญ่ตัวเมียโดนที่บริเวณกลางลำตัวและใกล้กับส่วนคอ แหลกละเอียดตายคาที่ทั้งสองตัว ภายหลังจากปราบงูใหญ่ตามสัญญา ทั้งหมดพักอยู่ที่หมู่บ้านหล่มช้างราวหนึ่งเดือน รอจนกระทั่งอาการของเชษฐาดีขึ้นจนเกือบปกติ จึงออกเดินทางต่อโดยมีแต่รพินทร์ คณะนายจ้าง แงซายและพรานพื้นเมืองคู่ใจอีก 4 คนเท่านั้น ส่วนพวกลูกหาบให้เดินทางกลับหนองน้ำแห้ง คะหยิ่นขอสวามิภักดิ์และติดตามไปกับคณะเดินทางด้วย เชษฐาจึงมอบปืนเรมิงตัน โมเดล 870 ปั๊มแอคชั่นให้เป็นปืนคู่มือ[30]

7 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น รพินทร์นำคณะนายจ้างออกเดินทางจากหล่มช้าง บ่ายหน้าสู่เขาหัวแร้งทางตะวันตกเฉียงเหนือ ระยะทางราว 20 กิโลเมตร โดยตั้งใจจะให้ถึงในเที่ยงของวันรุ่งขึ้น[31] พบหลักฐานการเดินทางผ่านมาของพรานชดและหนานอิน และบทกลอนตัดพ้อชีวิตที่พรานชดเขียนไว้ที่แผ่นหินด้วยถ่าน พร้อมชื่อ วันเวลาที่พรานชดแวะพักแรม ร่องรอยของสางเขียวกับมะราบรี

[แก้] ดงมรณะ เล่ม 4

ระหว่างออกเดินทางต่อ รพินทร์และคณะนายจ้างพบกับส่างปา พรานต่องสูผู้นำทางและคนรับใช้ของฝรั่งผิวขาว ที่หลงทางและกำลังหาทางเข้าประเทศไทย โดยเดินทางตัดผ่านทางแม่ฮ่องสอน และพบฝรั่งสองสามีภรรยา มาเรีย ฮอฟมัน และ ดร.สเเกล ฮอฟมัน นักสำรวจสมุนไพร ต่อมา ดร.ฮอฟมันถูกสางเขียวฆ่าด้วยหอกที่ลำธาร และมาเรียผู้เป็นภรรยาถูกจับตัวไป ส่างปาเข้าต่อสู้เพื่อช่วยเหลือนายสาวแต่ถูกธนูอาบยาพิษ ได้คะหยิ่นช่วยแก้พิษให้[32] รพินทร์และคณะนายจ้างต่างมีความเห็นตรงกันในการออกติดตามช่วยเหลือและชิงตัวมาเรียกลับมาจากพวกสางเขียว พร้อมกับฆ่าสางเขียวตายเป็นจำนวนมาก ตกดึกคืนนั้น ปางพักของเชษฐาได้ถูกเจ้าลู ลูกชายของหัวหน้าเผ่าสางเขียวรมควันด้วยหนังคางคก แต่รพินทร์และเชษฐาคอยระวังตัวอยู่แล้วจากแผนการที่เจ้าเกอะ มะราบรีที่รพินทร์ช่วยชีวิตเอาไว้ พ่อของนางเที๊ยะ ที่ถูกสางเขียวฆ่าตายพร้อมกับกินหัวใจ [33]

รพินทร์จับเจ้าลูเป็นตัวประกันโดยติดต่อสื่อสารด้วยภาษาว้า[34] และบังคับให้พาไปยังถิ่นของสางเขียว เพื่อเจรจาต่อรองแลกเปลี่ยนตัวกับมาเรีย แต่การเจรจาไม่เป็นผลสำเร็จ ซูซูผู้พ่อของเจ้าลูยอมแลกตัวกับมาเรีย แต่มุมบาหมอผีประจำเผ่าสางเขียวไม่ยอม จึงเกิดเหตุการณ์นองเลือดขึ้นระหว่างรพินทร์ คณะนายจ้างและเผ่าสางเขียว รพินทร์บุกเข้าชิงตัวมาเรียจากแท่นบูชายัญ มุมบาโดนเจ้าเกอะเอาหอกแทงตายแต่เจ้าเกอะก็โดนสางเขียวตัดหัวในทันทีเช่นกัน แงซายพลาดท่าโดนหอกของสาวเขียวที่สะบัก ทั้งหมดพากันหลบหนีจากถิ่นของสางเขียวเมื่อได้ตัวมาเรียกลับคืนมาแล้ว รพินทร์และคณะนายจ้างพากันถอยกลับอย่างเร่งด่วน แต่ไม่ทันการเพราะฝ่ายสางเขียวยิงตอบโต้ด้วยธนูเพลิง เผาสะพานเชือกข้ามเหว เชษฐา ไชยยันต์และคนอื่นข้ามฝั่งมาได้อย่างปลอดภัย เหลือเพียงรพินทร์และดารินที่ข้ามมาไม่ทัน

รพินทร์เกิดเป็นไข้จับสั่น แต่ก็พยายามพาดารินหลบหนีฝูงหมาไนจำนวนมากที่ตามไล่ล่า ดารินเห็นผีนางเที๊ยะมาช่วยเหลือด้วยการนำทางไปหลบในถ้ำที่หน้าผาแห่งหนึ่ง ตลอดทั้งคืนดารินคอยดูแลรพินทร์และคอยระวังตัวจากฝูงหมาไน เจ้าลูพาสางเขาพยายามปีนขึ้นไปยังถ้ำแต่ก็ถูกดารินยิงเสียชีวิตด้วยปืนและกระสุนที่เหลือติดตัว แงซาย ไชยยันต์และคะหยิ่นข้ามฝั่งมาตอนใกล้รุ่งเพื่อช่วยเหลือและถล่มหมู่บ้านสางเขียวจนราบเป็นหน้ากลองด้วยธนูติดระเบิด ซูซูหัวหน้าเผ่าโดนระเบิดตาย สางเขียวที่เหลือขอยอมแพ้จึงเป็นการยุติการต่อสู้โดยสิ้นเชิง แงซายช่วยเหลือรพินทร์และดารินจากถ้ำที่หลบซ่อนตัวอย่างปลอดภัย ก่อนเดินทางกลับยังเขาหัวแร้ง

เมื่อกลับถึงปางพัก มาเรียขอติดตามร่วมเดินทางไปกับคณะเดินทางด้วย เชษฐามอบปืน .460 เวเธอร์บีแม๊กนั่มของ ดร.ฮอฟมันให้แงซายเป็นผู้ถือแทนปืน .44-40 ที่มีกระสุนเหลือ 35 นัด พร้อมกับให้ทดลองทางปืน ส่วน .375 ของดารินมอบให้ส่างปาเป็นผู้ถือแทน แงซายทดลองทางปืนกับต้นไม้ใหญ่ ซึ่งรู้ภายหลังจากยิงกระสุนนัดแรกว่าเป็นต้นตะเคียน[35] ตกตอนเย็นพรานพรานบุญคำที่แอบไปปลดทุกข์บริเวณนั้น วิ่งกระหืดกระหอบมาแจ้งแก่รพินทร์ถึงรอยปืนที่ต้นตะเคียน มียางไหลซึมออกมาสีแดงคล้ายเลือด

[แก้] อ้างอิง

  1. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1703, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1703
  2. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1929, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1929
  3. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1730 - 1731, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1730 - 1731
  4. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1738, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1738
  5. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1741, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1741
  6. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1766, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1766
  7. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1767, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1767
  8. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1788, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1788
  9. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1814, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1814
  10. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1828, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1828
  11. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1845 - 1846, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1845 - 1846
  12. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1858, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1858
  13. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1926, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1926
  14. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1931, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1931
  15. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 2031, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2031
  16. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 2075, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2075
  17. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 2091, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2091
  18. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 2 หน้า 2144, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2144
  19. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 2 หน้า 2174, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2174
  20. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 2 หน้า 2210, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2210
  21. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 2 หน้า 2295, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2295
  22. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 2 หน้า 2322, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2322
  23. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 2 หน้า 2345, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2345
  24. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 2 หน้า 2373, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2544,
  25. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 2 หน้า 2388, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2388
  26. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 2 หน้า 2527, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2527
  27. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 2 หน้า 2559, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2559
  28. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 3 หน้า 2549, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2549
  29. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 3 หน้า 2595, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2595
  30. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 3 หน้า 2644, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2644
  31. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 3 หน้า 2686, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2686
  32. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 4 หน้า 2975, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2975
  33. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 4 หน้า 3022, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3022
  34. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 4 หน้า 3040, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3040
  35. ^ พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 4 หน้า 3362, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3362


aa - ab - af - ak - als - am - an - ang - ar - arc - as - ast - av - ay - az - ba - bar - bat_smg - bcl - be - be_x_old - bg - bh - bi - bm - bn - bo - bpy - br - bs - bug - bxr - ca - cbk_zam - cdo - ce - ceb - ch - cho - chr - chy - co - cr - crh - cs - csb - cu - cv - cy - da - de - diq - dsb - dv - dz - ee - el - eml - en - eo - es - et - eu - ext - fa - ff - fi - fiu_vro - fj - fo - fr - frp - fur - fy - ga - gan - gd - gl - glk - gn - got - gu - gv - ha - hak - haw - he - hi - hif - ho - hr - hsb - ht - hu - hy - hz - ia - id - ie - ig - ii - ik - ilo - io - is - it - iu - ja - jbo - jv - ka - kaa - kab - kg - ki - kj - kk - kl - km - kn - ko - kr - ks - ksh - ku - kv - kw - ky - la - lad - lb - lbe - lg - li - lij - lmo - ln - lo - lt - lv - map_bms - mdf - mg - mh - mi - mk - ml - mn - mo - mr - mt - mus - my - myv - mzn - na - nah - nap - nds - nds_nl - ne - new - ng - nl - nn - no - nov - nrm - nv - ny - oc - om - or - os - pa - pag - pam - pap - pdc - pi - pih - pl - pms - ps - pt - qu - quality - rm - rmy - rn - ro - roa_rup - roa_tara - ru - rw - sa - sah - sc - scn - sco - sd - se - sg - sh - si - simple - sk - sl - sm - sn - so - sr - srn - ss - st - stq - su - sv - sw - szl - ta - te - tet - tg - th - ti - tk - tl - tlh - tn - to - tpi - tr - ts - tt - tum - tw - ty - udm - ug - uk - ur - uz - ve - vec - vi - vls - vo - wa - war - wo - wuu - xal - xh - yi - yo - za - zea - zh - zh_classical - zh_min_nan - zh_yue - zu -