ขี่พายุดาบเทวดา
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ขี่พายุดาบเทวดา ชื่อภาษาไทยของภาพยนตร์เรื่อง A Man Called Hero เป็นภาพยนตร์ฮ่องกงกำลังภายในที่สร้างต่อจากความสำเร็จของฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้าจากนิยายของเจ้าจื้อกัง นำแสดงโดย เจิ้งอี้เจี้ยน, ซูฉี, หยวนเปียว, หยางกงหยู, เซี๊ยะถิงฟง, หวงซิวเซิน, อู๋เจิ้นวี่ กำกับโดย แอนดริว หลิว ความยาว 109 นาที เข้าฉายในประเทศไทยเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2542
[แก้] เนื้อเรื่องย่อ
ระวังเสียอรรถรส ข้อความด้านล่างนี้กล่าวถึงเนื้อเรื่องหรือฉากจบ |
จงหัวอิงสง (เจิ้งอี้เจี้ยน) เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของตระกูลจงหัว มีเพื่อนสนิทชื่อ เสิ่นหนู ทั้งคู่ได้ร่ำเรียนวิชากับอาจารย์จิ๋น (หวงซิวเซิน) อิงสงประสบความสำเร็จอย่างมาก ในขณะที่เสิ่นหนูไม่เอาไหน วันหนึ่งขณะกลับบ้าน อิงสงก็พบว่าครอบครัวตนเองถูกฆ่าล้างครัวโดย เจียน ที่ต้องการกระบี่แดง กระบี่วิเศษที่เป็นมรดกของตระกูล และเจียนได้อพยพย้ายไปสหรัฐอเมริกา อิงสงกับเสิ่นหนูจึงต้องเดินทางไปอเมริกาเพื่อล้างแค้น ต่อมาไม่นาน เจี่ย (หยางกงหยู) หญิงคนรักของอิงสงก็ได้เดินทางมาตามหาคนรักของเธอด้วย
อิงสงได้ไปทำงานในเหมืองแร่แห่งหนึ่ง ที่คุมโดย แบล็ค และเจียน ซึ่งทั้งคู่มักเอาเปรียบคนจีนที่ทำงานอยู่ที่นั่น อิงสงได้พบกับเจี่ย และทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกัน โดยทั้งหมดอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งในย่านไชน่าทาวน์ ต่อมาเจี่ยตั้งท้อง แต่ในคืนวันที่เธอคลอด ซามูไรไร้เทียมทาน (อู๋เจิ้นวี่) คู่แค้นของอาจารย์จิ๋น ได้ส่งนินจากลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นลูกน้องมาป่วน ทำให้โรงแรมไฟไหม้และเจี่ยต้องตาย อิงสงจึงฝากลูกชายเอาไว้และซ่อนกระบี่แดงเอาไว้ และออกเดินทางอีกครั้งเพื่อล้างแค้น
ระหว่างทาง อิงสงได้พบกับหมอดูคนหนึ่ง ที่ทำนายว่า ชะตาของอิงสงเป็นดาวพิฆาตมาเกิด ใครอยู่ด้วยจะต้องตาย
16 ปี ผ่านไป เหล่าคนจีนในไชน่าทาวน์รวมตัวกันต่อต้านแบล็คและเจียน อิงสงได้ปรากฏตัวอีกครั้งและสังหารทั้งคู่ตาย แต่อิงสงปฏิเสธที่จะพบลูก (เซี๊ยะถิงฟง) ต่อมาไม่นาน ซามูไรไร้เทียมทานก็ได้เดินทางมาอเมริกา อิงสงจึงได้จับกระบี่แดงขึ้นมาสู้อีกครั้งบนหัวของเทพีเสรีภาพ หลังจากล้างแค้นได้สำเร็จแล้ว อิงสงก็ได้จากไปอย่างเดียวดายดั่งคำทำนาย
[แก้] ความนิยม
A Man Called Hero มีชื่อภาษาอังกฤษอีกชื่อว่า " Hero in China " ประสบความสำเร็จทางรายได้ในการออกฉายที่ฮ่องกง แต่สำหรับคำวิจารณ์นั้นค่อนข้างเป็นไปในทางลบ เนื่องจากบทภาพยนตร์ค่อนข้างเน้นหนักไปทางดราม่า ทั้ง ๆ ที่เนื้อหาเป็นแอ๊คชั่น อีกทั้งสเปเชี่ยลเอฟเฟ๊กต์ต่าง ๆ ก็ได้ผ่านสายตามาแล้วจากฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า จึงไม่อาจสร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผู้ชมได้เหมือนเดิม สำหรับในประเทศไทยก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า