จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมเพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยโรงกลั่นน้ำมันอยู่ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ปัจจุบันบริษัท มีกำลังการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ประมาณ 220,000 บาร์เรลต่อวัน คิดเป็นประมาณร้อยละ 21 ของกำลังการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมทั้งหมดในประเทศ นอกจากนี้ ยังประกอบธุรกิจอื่นผ่านการถือหุ้นในบริษัทต่างๆ ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตไฟฟ้า ธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน ธุรกิจการผลิตพาราไซลีน และธุรกิจขนส่งน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี
[แก้] ประวัติบริษัท
- ปี 2504 บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้จัดตั้งขึ้น โดยได้เข้าทำสัญญาจัดสร้าง และประกอบกิจการโรงกลั่นน้ำมันที่อำเภอศรีราชาในรูปแบบการสร้าง-บริหาร-โอน (Build-Operate-Transfer : BOT) เป็นระยะเวลายี่สิบปีจากกระทรวงอุตสาหกรรม
- ปี 2507 บริษัทเริ่มดำเนินกิจการโรงกลั่นน้ำมัน เมื่อการก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันหน่วยแรก (TOC-1) แล้วเสร็จ ด้วยกำลังการกลั่นน้ำมันดิบจำนวน 35,000 บาร์เรลต่อวัน พร้อมใช้หน่วยแตกโมเลกุล ด้วยสารเร่งปฏิกิริยา (Fluidized Catalytic Cracking Unit)
- ปี 2510 บริษัทได้รับอนุมัติจากรัฐบาลในการขยายโรงกลั่นน้ำมัน
- ปี 2513 บริษัทสามารถเพิ่มกำลังการกลั่นน้ำมันอีก 30,000 บาร์เรลต่อวัน โดยการสร้างโรงกลั่นน้ำมันหน่วยที่สอง (TOC-2) พร้อมหน่วยแตกโมเลกุลด้วยความร้อน (Thermal Cracking Unit) ทำให้บริษัทฯ มีกำลังการกลั่นน้ำมันรวมทั้งสิ้น 65,000 บาร์เรลต่อวัน
- ปี 2524 ครบอายุของสัมปทานใน ในวันที่ 18 กันยายน 2524 บริษัทฯ ได้ทำการโอนคืนทรัพย์สินของบริษัท ซึ่งได้แก่กรรมสิทธิ์ในที่ดินและโรงกลั่นน้ำมัน TOC-1 และ TOC-2 ให้แก่กระทรวงอุตสาหกรรม ตามเงื่อนไขในสัญญาจัดสร้างและประกอบกิจการ
- ปี 2532 หลังจากที่บริษัทได้ทำการติดตั้งหน่วยแตกโมเลกุล ด้วยสารเร่งปฏิกิริยาโดยใช้ไฮโดรเจนร่วม (Hydrocracking Complex) และหน่วยผลิตอื่น ๆแล้ว ทำให้บริษัทมีกำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น จาก 65,000 บาร์เรลต่อวันเป็น 90,000 บาร์เรลต่อวัน
- ปี 2535 วันที่ 11 กันยายน บริษัทได้ทำการซื้อทรัพย์สินโรงกลั่นน้ำมันทั้งหมดที่บริษัทเช่าอยู่ คือโรงกลั่นน้ำมัน TOC-1 และ TOC-2 จากกระทรวงอุตสาหกรรม และได้เข้าทำสัญญาเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์เป็นระยะเวลา 30 ปี สิ้นสุดวันที่ 10 กันยายน 2565
- ปี 2536 ภายหลังจากการขยายกิจการโรงกลั่นน้ำมันครั้งที่ 2 เป็นที่เรียบร้อย โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทฯ กลายเป็นโรงกลั่นน้ำมันเดี่ยว (Single-Site) ที่ใหญ่ที่สุด และเป็นโรงกลั่นน้ำมันแบบคอมเพล็กซ์ (Complex Refinery) ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ ด้วยกำลังการกลั่นน้ำมันดิบถึง 190,000 บาร์เรลต่อวัน
- ปี 2537 บริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิตของหน่วยกลั่นน้ำมันดิบ (Crude Distillation Unit) ให้มีกำลังการกลั่นน้ำมันอีก 15,000 ต่อวัน
- ปี 2538 วันที่ 6 มกราคม บริษัททำพิธีเปิดหน่วยกลั่นที่ 4 (TOC-4) พร้อมวางศิลาฤกษ์หน่วยไฮโดรแครกเกอร์ หน่วยที่ 2 โดยมีคุณชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี
- ปี 2540 วันที่ 28 พฤศจิกายน บริษัทมีโอกาสได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนิน ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์โรงไฟฟ้า พลังงานความร้อนร่วม และโรงงานผลิตสารพาราไซลีน ตลอดจนทรงเปิดโรงกลั่นน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน
- ปี 2541 ผลจากการที่รัฐบาลประกาศลอยตัวค่าเงินบาทเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 ทำให้หนี้เงินกู้ต่างประเทศของบริษัท ในมูลค่าเงินบาทเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งภาวะวิกฤติเศรษฐกิจส่งผลกระทบให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง บริษัทประสบปัญหาทางการเงิน และมีความจำเป็นต้องประกาศพักชำระหนี้อย่างเป็นทางการ รวมทั้งจัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อขอเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในเดือนพฤศจิกายน
- ปี 2543 ศาลล้มละลายกลางได้อนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทในเดือนมีนาคม และต่อมาในเดือนเมษายน บริษัทได้บรรลุข้อตกลงในสัญญาหลักในการปรับโครงสร้างหนี้
- ปี 2544 วันที่ 11 มกราคม บริษัทสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยร่วมมือกับการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย และโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา นำร่องผลิตแก๊สโซฮอล์ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ของพลังงานไทย ภายใต้โครงการ “ จำหน่ายแก๊สโซฮอล์ เพื่อประชาชน ”
- ปี 2546 นำร่องผลิตน้ำมันดีเซลกำมะถันต่ำ (350 ส่วนในล้านส่วน) เพื่อรองรับข้อกำหนดคุณภาพน้ำมันดีเซลใหม่ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ต้นปี 2547
- ปี 2547 เดือนเมษายน บริษัทฯ ได้จัดหาเงินกู้ยืมใหม่ (Refinance) ซื้อหนี้คืนและแลกเปลี่ยนหนี้เงินกู้ยืมระยะยาวเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในทางการเงิน และลดต้นทุนเงินกู้ยืมในอัตราสะท้อนสินเชื่อที่แข็งแกร่งขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้แล้ว ในเดือนมิถุนายน บริษัทฯ ชำระหนี้ก่อนกำหนดประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ วันที่ 9 สิงหาคม บริษัทได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) วันที่ 20 ตุลาคม บริษัทลงนามในสัญญาซื้อหุ้น บจ.ไทยพาราไซลีนและ บมจ.ไทยลู้บเบสจากผู้ถือหุ้นรายอื่น ส่งผลให้บริษัทฯ เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดในบริษัททั้งสอง วันที่ 26 ตุลาคม บริษัทฯ เข้าจดทะเบียนเพื่อทำการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เป็นวันแรก ราคาเปิดที่ 42 บาทต่อหุ้น สูงกว่าราคาจอง (32 บาทต่อหุ้น) ร้อยละ 31 วันที่ 16 ธันวาคม บริษัทลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น บจ.ผลิตไฟฟ้าอิสระ ร้อยละ 24 จากบริษัท ยูโนแคล เอเชีย แปซิฟิก เวนเจอร์ส ส่งผลให้บริษัทฯ ถือหุ้นใน บจ.ผลิตไฟฟ้าอิสระทั้งสิ้นร้อยละ 55
- ปี 2548 บริษัทประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ในตลาดต่างประเทศ ซึ่งได้แก่ สิงคโปร์ ฮ่องกง และกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน ด้วยวงเงินรวม 350 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 14,000 ล้านบาท) และบริษัท มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ยังได้ประกาศให้หุ้นกู้ของบริษัทฯ ได้เครดิตเฉพาะกาลหุ้นกู้สกุลเงินดอลลาร์ที่ระดับ (P) Baa1 ซึ่งเทียบเท่ากับ BBB+ ขณะที่ S&P ได้จัดลำดับความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ ไว้ที่ BBB
[แก้] ธุรกิจและผลิตภัณฑ์
ปัจจุบันไทยออยล์ประกอบธุรกิจต่างๆ ได้แก่
- ธุรกิจการกลั่น
- ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูป
- น้ำมันชนิดเบา (Light-Distillate) 33% ได้แก่ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) , Mixed Xylenes, น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว (ULG) ออกเทน 91, 95
- น้ำมันชนิดกลาง (Middle Distillate) 56% ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบิน (Jet) , น้ำมันก๊าด (Kerosene) , น้ำมันดีเซล
- น้ำมันชนิดหนัก (Heavy Oil) 11% ได้แก่ น้ำมันเตา, ยางมะตอย และกำมะถันเหลว
บริษัทรับน้ำมันดิบตะวันออกกลาง 75% เอเชียตะวันออก 5% และจากแหล่งในประเทศ (น้ำมันดิบเพชร, น้ำมันดิบปัตตานี และคอนเดนเสทจากอ่าวไทย) 20%
- ธุรกิจปิโตรเคมี บริษัทผลิตสารพาราไซลีน 289,000 ตันต่อปี แต่หลังจากเปลี่ยนสารเร่งปฏิกิริยาเคมีเมื่อต้นปี 2548 ก็สามารถเพิ่มการผลิตเป็น 348,000 ตันต่อปี ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิตขั้นที่ 2 เป็น 407,000 ตันต่อปี
- ธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน บริษัทผลิตน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานขนาด 270,000 ตันต่อปี ยางมะตอย 400,000 ตันต่อปี และผลิตผลพลอยได้อื่นๆ 270,000 ตันต่อปี ปัจจุบันกำลังดำเนินโครงการปรับปรุง ประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มผลกำไร (Hydrocarbon Management) และเตรียมแผนการลงทุน เพื่อผลิตน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานกลุ่มที่ 2 และ 3 ซึ่งมีคุณภาพและมูลค่าสูงขึ้น
- ธุรกิจขนส่ง
- ไทยออยล์มารีน (TOM)
- ท่อส่งปิโตรเลียมไทย (THAPPLINE)
- ธุรกิจการผลิตไฟฟ้า
- ไทยออยล์เพาเวอร์ (TP)
- ผลิตไฟฟ้าอิสระ (IPT)
[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น
กลุ่มบริษัทในเครือ ปตท. |
กลุ่มธุรกิจสำรวจ ผลิต
และก๊าซธรรมชาติ |
ถือหุ้นเต็ม |
พีทีที แอลเอ็นจี (PTTLNG) • ผลิตไฟฟ้าและพลังงานร่วม (CHPP) • ปตท. กรีน เอ็นเนอร์ยี่ (PTT GE) |
ถือหุ้นมากกว่า 25% |
บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) • ปตท. จำหน่ายก๊าซธรรมชาติ (PTT NGD) • ทรานส์ ไทย - มาเลเชีย (ประเทศไทย) (TTM (T)) • ทรานส์ ไทย - มาเลเซีย (มาเลเชีย) (TTM (M)) • พีทีที ยูทิลิตี้ (PTTUT) • ผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็น (DCAP) • ไทยออยล์เพาเวอร์ (TP) |
ถือหุ้นน้อยกว่า 25% |
ผลิตไฟฟ้าอิสระ(ประเทศไทย) (IPT) • ราชบุรีเพาเวอร์ (RPCL) |
|
|
กลุ่มธุรกิจน้ำมัน |
ถือหุ้นเต็ม |
ปตท. (กัมพูชา) (PTTCL) • Subic Bay Energy (SBECL) • ปตท.ค้าสากล (PTTT) • ปตท.ธุรกิจค้าปลีก (PTTRB) • |
ถือหุ้นมากกว่า 25% |
รีเทล บิซิเนส อัลไลแอนซ์ (RBA) • PTT MART (PTTMART) • ไทยลู้บเบล็นดิ้ง (TLBC) • เวียดนามแอลพีจี (VLPG) • Keloil-PTT LPG (KPL) • ปิโตรเอเชีย (ประเทศไทย) (PA (Thailand)) • ปิโตรเอเซีย (Huizhou) (PA (Huizhou)) • ท่อส่งปิโตรเลียมไทย (THAPPLINE) |
ถือหุ้นน้อยกว่า 25% |
ปิโตรเอเซีย (Maoming) (PA (Maoming)) • ปิโตรเอเซีย (Shantou) (PA (Shantou)) • บริการน้ำมันอากาศยาน (IPS) • บมจ. บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) • ขนส่งน้ำมันทางท่อ (FPT) |
|
กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมี
และการกลั่น |
ถือหุ้นเต็ม |
พีทีที โพลีเมอร์ โลจิสติกส์ (PTTPL) |
ถือหุ้นมากกว่า 25% |
พีทีที โพลีเมอร์ มาร์เก็ตติ้ง (PTTPM) • บมจ. ปตท.เคมิคอล (PTTCH) • บมจ. ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น (PTTAR) • บมจ. ไทยออยล์ (TOP) • พีทีที อาซาฮี เคมิคอล (PTTAC) • เอ็ชเอ็มซี โปลีเมอส์ (HMC) • พีทีที ฟีนอล (PPCL) • สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) • บมจ. ไออาร์พีซี (IRPC) • บางจากปิโตรเลียม (BCP) |
|
บริษัทอื่น |
ถือหุ้นเต็ม |
พีทีที อินเตอร์เนชั่นแนล (PTTINTER) |
ถือหุ้นมากกว่า 25% |
เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ (EnCo) |
ถือหุ้นน้อยกว่า 25% |
พีทีที ไอซีที โซลูชั่นส์ (PTTICT) • บมจ. ทิพยประกันภัย (TIP) |
|
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนี SET100 ของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แบ่งตามหมวด |
เกษตรและ
อุตสาหกรรมอาหาร |
ธุรกิจการเกษตร |
เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) |
อาหารและเครื่องดื่ม |
น้ำตาลขอนแก่น (KSL) • ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) • ทิปโก้ ฟู้ดส์ (ประเทศไทย) (TIPCO) • ไทยยูเนียน โฟรเซ่น โปรดักส์ (TUF) |
|
สินค้าอุปโภคบริโภค |
แฟชั่น |
- |
ของใช้ในครัวเรือน |
- |
ของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ |
- |
|
ธุรกิจการเงิน |
ธนาคาร |
ธนาคารสินเอเซีย (ACL) • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) • ธนาคารกรุงเทพ (BBL) • ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) • ธนาคารเกียรตินาคิน (KK) • ธนาคารกรุงไทย (KTB) • ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) • ธนาคารนครหลวงไทย (SCIB) • ธนาคารทิสโก้ (TISCO) • ธนาคารทหารไทย (TMB) |
เงินทุนและหลักทรัพย์ |
หลักทรัพย์ แอ๊ดคินซัน (ASL) • หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส (ASP) • หลักทรัพย์ บัวหลวง (BLS) • หลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (KEST) • หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) (KGI) • บัตรกรุงไทย (KTC) • หลักทรัพย์ ภัทร (PHATRA) • ทุนธนชาต (TCAP) • หลักทรัพย์ ซีมิโก้ (ZMICO) • |
ประกันภัยและประกันชีวิต |
- |
|
วัตถุดิบและ
สินค้าอุตสาหกรรม |
ยานยนต์ |
อาปิโก ไฮเทค (AH) • สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) • ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า (STANLY) |
เครื่องมือและเครื่องจักร |
จี สตีล (GSTEEL) • นครไทยสตริปมิล (NSM) • สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) |
กระดาษและวัสดุการพิมพ์ |
- |
ปิโตรเลียมและเคมีภัณฑ์ |
อะโรเมติกส์ (ประเทศไทย) (ATC) • ปตท. เคมิคอล (PTTCH) • ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ (TPC) • |
บรรจุภัณฑ์ |
- |
|
อสังหาริมทรัพย์
และก่อสร้าง |
วัสดุก่อสร้าง |
ไดนาสตี้เซรามิค (DCC) • ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) • ปูนซีเมนต์นครหลวง (SCCC) • ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO) • ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) • ทาทา สตีล (ประเทศไทย) (TSTH) |
พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ |
อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) • เอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (AP) • บางกอกแลนด์ (BLAND) • ช.การช่าง (CK) • เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) • เหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ) • อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนท์ (ITD) • แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) • แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) • เอ็ม บี เค (MBK) • เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ (METRO) • เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง (NCH) • นวนคร (NNCL) • เพาเวอร์ไลน์ เอนจิเนียริ่ง (PLE) • พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) • ควอลิตี้เฮาส์ (QH) • สวนอุตสาหกรรมโรจนะ (ROJANA) • แสนสิริ (SIRI) • ศุภาลัย (SPALI) • ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) • ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่ (TICON) • ธนายง (TYONG) |
|
ทรัพยากร |
พลังงานและสาธารณูปโภค |
บ้านปู (BANPU) • ผลิตไฟฟ้า (EGCO) • โกลว์ พลังงาน (GLOW) • ไออาร์พีซี (IRPC) • ลานนารีซอร์สเซส (LANNA) • ปตท. (PTT) • ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น (PTTAR) • ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) • ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) • โรงกลั่นน้ำมันระยอง (RRC) • ไทยออยล์ (TOP) |
เหมืองแร่ |
ผาแดงอินดัสทรี (PDI) |
|
บริการ |
พาณิชย์ |
ซีพีออลล์ (CPALL) • โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) • ล็อกซเล่ย์ (LOXLEY) • สยามแม็คโคร (MAKRO) • ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน (ROBINS) |
การแพทย์ |
กรุงเทพดุสิตเวชการ (BGH) • โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) • บางกอก เชน ฮอสปิทอล (KH) |
สื่อและสิ่งพิมพ์ |
บีอีซี เวิลด์ (BEC) • เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป (MAJOR) • อสมท (MCOT) • อาร์เอส (RS) |
การท่องเที่ยวและสันทนาการ |
ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERAWAN) |
บริการเฉพาะกิจ |
- |
ขนส่งและโลจิสติกส์ |
ท่าอากาศยานไทย (AOT) • ทางด่วนกรุงเทพ (BECL) • พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL) • อาร์ ซี แอล (RCL) • การบินไทย (THAI) • โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) |
|
เทคโนโลยี |
เทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสื่อสาร |
แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) • ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) • จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) • สามารถคอปอเรชั่น (SAMART) • ไทยคม (THCOM) • ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) • ทีทีแอนด์ที (TT&T) • |
ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ |
แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (CCET) • เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) • ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส์ (HANA) |
|
หลักทรัพย์สำรอง |
ริช เอเชีย สตีล (RICH) • เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) • หลักทรัพย์ บีฟิท (BSEC) • สยามสตีลอินเตอร์เนชั่นแนล (SIAM) |