สงครามศาสนาของฝรั่งเศส
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สงครามศาสนาฝรั่งเศส (French Wars of Religion) เป็นสงครามกลางเมืองฝรั่งเศส ระหว่างค.ศ. 1562 ถึง ค.ศ. 1598 ระหว่างฝ่ายคาทอลิก นำโดยตระกูลกีส (Guise) กับพวกอูเกอโนต์ (Huguenots) หรือโปรเตสแตนต์ในฝรั่งเศส นำโดยตระกูลบูร์บง ผลคือฝรั่งเศสเปลี่ยนราชวงศ์ใหม่ จากราชวงศ์วาลัวส์ เป็นราชวงศ์บูร์บง และเสรีภาพทางศาสนาของพวกโปรเตสแตนต์ในฝรั่งเศสตามกฤษฎีกาแห่งเมืองนังส์ออกโดยพระเจ้าอองรีที่ 4
เนื้อหา |
[แก้] เหตุสงคราม
พระเจ้าฟรองซัวที่ 1 ทรงเริ่มนโยบายกดขี่พวกโปรเตสแตนต์ใน ค.ศ. 1534 เมื่อพวกโปรเตสแตนต์ติดโปสเตอร์ต่อต้านคาทอลิกในห้องพระบรรทมของพระองค์ ทำให้พระเจ้าฟรองซัวกริ้วมาก ทำให้ชอง คัลแวง (Jean Calvin) นักปฏิรูปศาสนาชาวฝรั่งเศส ผู้ก่อตั้งนิกายคัลแวง ต้องหลบหนีไปสวิสเซอร์แลนด์ แต่นิกายคัลแวงเริ่มเป็นที่นับถือของบรรดาขุนนางชั้นสูงและปัญญาชน แม้จำนวนไม่มากแต่ด้วยอำนาจของกลุ่มคนเหล่านี้ทำให้พวกโปรเตสแตนต์ หรือที่ฝ่ายคาทอลิกตั้งฉายาให้ว่าอูเกอโนต์ เริ่มจะมีปากมีเสียงในสังคมและการเมือง
พระเจ้าอองรีที่ 2 สิ้นพระชนม์ระหว่างการประลองดาบในการทำสนธิสัญญากาโต-กังเบรซี พระเจ้าฟรองซัวที่ 2 ครองราชย์แทน พระเจ้าฟรองซัวทรงอภิเษกกับราชินีมารีที่เพิ่งหลบหนีมาจากสกอตแลนด์เพราะถูกอังกฤษโจมตี พระปิตุจฉา คือ ฟรองซัวดยุคแห่งกีส เข้ามามีอำนาจปกครองบ้านเมือง ตระกูลกีสเป็นตระกูลที่คาทอลิกจัด ต่อต้านโปรเตสแตนต์ทุกประเภท กดขี่พวกอูเกอโนต์ ในค.ศ. 1560 บรรดาขุนนางต้องการขับตระกูลกีสจากอำนาจ จึงวางแผนล้มล้าง เรียกว่า การคบคิดที่อังบัวส์ (The Conspiracy of Amboise) แต่ถูกจับได้ บรรดาผู้สมรู้ร่วมคิดจึงถูกกลาดล้าง โดยเฉพาะเจ้าชายแห่งกองเด (Prince of Condé) ตระกูลบูร์บง (ตระกูลบูร์บงนับถือคัลแวงอย่างโจ่งแจ้งขณะนั้น)แต่ถูกปล่อยตัว
ปีเดียวกันพระเจ้าฟรองซัวสิ้นพระชนม์ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 9 ขึ้นครองราชย์แต่ยังพระเยาว์ พระนางแคทเธอริน เดอ เมดิชิ พระมารดาสำเร็จราชการแทน พระนางทรงพยายามทุกวิถีทางที่จะอยู่รอกท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมือง ระหว่างตระกูลกีสคาทอลิกจัด และตระกูลบูร์บงอูเกอโนต์ พระนางคัทเทอรีนทรงให้เสรีภาพทางศาสนาแก่พวกอูเกอโนต์ ผ่านกฤษฎีกาแซงต์-เยอร์แมง ในค.ศ. 1562 เพื่อคานอำนาจตระกูลกีส ตระกูสกีสไม่พอใจกดดันให้พระนางยกเลิกกฤษฎีกา
[แก้] สงคราม
สงครามศาสนาฝรั่งเศสจึงปะทุ องค์ชายแห่งกองเดถูกฝ่ายกีสจับ ฝ่ายบูร์บงจับดยุคแห่งมองต์โมแรงซี ในค.ศ. 1563 ดยุคฟรองซัวแห่งกีสถูกลอบสังหาร จนพระนางคัทเทอรีนต้องเจรจาสงบศึกผ่านกฤษฎีกาอังบัวส์ในปีเดียวกัน
แต่พระเจ้าฟิลิปที่ 2 แห่งสเปน (ทรงได้ชื่อว่าเคร่งครัดคาทอลิกที่สุดในโลกขณะนั้น) เริ่มสะสมทัพตามชายแดน ทั้งทางสเปนและแคว้นเบอร์กันดี (เป็นของสเปน) ทำให้ฝ่ายอูเกอโนต์ไม่พอใจ จึงทำสงครามอีกครั้ง และไม่รู้ผลแพ้ชนะ จนเจรจาสันติภาพที่ลองจูโมในค.ศ. 1568
แต่สงครามก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะยังไม่มีผู้แพ้ชนะเด็ดขาด คราวนี้ประเทศต่างๆในยุโรปเข้าร่วมด้วย ฝ่ายคาทอลีกนำโดยตระกูลกีสและดยุคแห่งอังชูได้พระนางคัทเทอรีนมาเป็นพวก เพราะทรงเห็นว่าตระกูลกีสมีอำนาจเกินต้านทาน และยังได้พระเจ้าฟิลิปแห่งสเปนและพระสันตปาปาสนับสนุนด้วย ฝ่ายโปรเตสแตนต์นำโดยองค์ชายแห่งกองเดได้พระนางอลิซาเบ็ธที่ 1 แห่งอังกฤษและเจ้าครองแคว้นที่ถือนิกายคัลแวงในเยอรมันนี ในค.ศ. 1569 องค์ชายแห่งกองเดสิ้นชีวิตในสนามรบ นายพลโคลิญญี (Admiral Coligny) นำแทน จนค.ศ. 1570 ทั้งสองฝ่ายสงบศึกกันในสันติภาพแซงต์-เยอร์แมง-เอิง-ลาย
นายพลโคลิญญีนั้นเป็นทหารที่มีอำนาจ และเป็นพวกอูเกอโนต์ พระนางคัทเทอรีนทรงเกรงในอำนาจของโคลิญญี ในค.ศ. 1572 องค์หญิงมาร์เกอริตแห่งวาลัวส์ (Marguerite of Valois) ที่เป็นคาทอลิกอภิเษกกับพระเจ้าอองรีแห่งนาวาร์ตระกูลบูร์บงที่เป็นอูเกอโนต์ พวกอูเกอโนต์จำนวนมากมาร่วมงานอภิเษก อองรีดยุคแห่งกีสบุกเข้าสังหารโคลิญญี และกระจายทัพสังหารพวกอูเกอโนต์ในปารีสทั้งหมดอย่างโหดร้าย ทำให้ปารีสเกิดกลียุค เรียกว่า การสังหารหมู่วันเซนต์บาร์โธโลมิว และเมืองอื่นๆในฝรั่งเศส ก็อาอย่างปารีสสังหารพวกอูเกอโนต์เช่นกัน
เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดสงครามอีกครั้ง ฝ่ายอูเกอโนต์คราวนี้เสียเปรียบ แต่ในค.ศ. 1573 ดยุคแห่งอังชูทรงได้รับเลือกให้เป็นกษัตริย์แห่งโปแลนด์ ฝ่ายคาทอลิกจึงขาดผู้นำ จนกฤษฎีกาแห่งบูโลญ ริดรอนสิทธิของพวกอูเกอโนต์ไปมาก อนุญาตให้ประกอบพิธีกรรมเฉพาะในบางเมือง ในบ้านเท่านั้น และประชุมกันได้ไม่เกินสิบคน
ดยุคแห่งอังชูทรงสละบัลลังก์โปแลนด์ กลับมาขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าอองรีที่ 3 ในค.ศ. 1575 ทรงผ่านกฤษฎีกาแห่งโบลิเออ กอบกูสถานะของพวกอูเกอโนต์ ทำให้ดยุคอองรีแห่งกีสไม่พอใจ ตั้งสันนิบาตคาทอลิกภายใต้การสนับสนุนของสเปน กดดันให้พระเจ้าอองรีเลิกสิทธิของพวกอูเกอโนต์ในสนธิสัญญาแบร์เยอรัค ในค.ศ. 1584 ฟรองซัวดยุคแห่งอังชู พระอนุชาของพระเจ้าอองรีและรัชทายาทพระองค์เดียว สิ้นพระชนม์ ทำให้บัลลังก์ตกเป็นของพระเจ้าอองรีแห่งนาวาร์ที่เป็นอูเกอโนต์ ในค.ศ. 1584 ดยุคแห่งกีสทำสนธิสัญญาชวงวิลล์ กับพระเจ้าฟิลิปแห่งสเปน ว่าสเปนจะช่วยสันนิบาตคาทอลิกอย่างจริงจัง
ในค.ศ. 1588 ชาวปารีสที่คาทอลิกจัด รวมขบวนประท้วงขับไล่พระเจ้าอองรีที่ 3 ออกจากเมือง เพราะทรงผ่อนปรนพวกอูเกอโนต์ ทำให้ตระกูลกีสครองเมืองปารีส พระเจ้าอองรีที่ 3 จึงหลอกล่อให้ดยุคอองรีแห่งกีสมาพบ และสังหาร ทำให้ชาวฝรั่งเศสคาทอลิกโกรธแค้นพระเจ้าอองรี พระเจ้าอองรีที่ 3 ทรงหนีไปหาพระเจ้าอองรีแห่งนาวาร์ มอบบัลลังก์ให้ ทั้งฝ่ายคาทอลิก ที่มีฐานทางเหนือและตะวันออกของประเทศ และฝ่ายโปรเตสแตนต์ ที่มีฐานทางตะวันตกและใต้ ทำสงครามของอองรีทั้งสาม (War of Three Henrys) ในค.ศ. 1589 พระเจ้าอองรีทรงถูกลอบปลงพระชนม์ พระเจ้าอองรีแห่งนาวาร์ทรงชนะพวกคาทอลิกบุกไปถึงทางเหนือ แต่ไม่อาจยึดปารีสได้ จนพระองค์ทรงอุทานว่า Paris vaut bien une masse. (ปารีสช่างมีค่าเหลือเกิน)ทรงเข้ารีตคาทอลิกในค.ศ. 1593 ชาวปารีสจึงยอมให้เข้าเมืองแต่โดยดี ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าอองรีที่ 4 เป็นปฐมกษัตริย์ราชวงศ์บูร์บง
ในค.ศ. 1598 พระเจ้าอองรีที่ 4 ทรงออกกฤษฎีกาแห่งเมืองนังทส์ ให้เสรีภาพทางศาสนาแก่พวกอูเกอโนต์ทุกประการ และเจรจาสงบศึกกับสเปนในสนธิสัญญาแวร์แวงส์ สงครามศาสนาฝรั่งเศสเป็นอันสิ้นสุด
[แก้] อ้างอิง
- en:French_Wars_of_Religion, วิกิพีเดียฉบับภาษาอังกฤษ
[แก้] ข้อมูลเพิ่มเติม
สงครามศาสนาของฝรั่งเศส เป็นบทความเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น ข้อมูลเกี่ยวกับ สงครามศาสนาของฝรั่งเศส ในภาษาอื่น อาจสามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ด้านซ้ายมือ หรือ ดูเพิ่มที่ สถานีย่อย:ประวัติศาสตร์ |