ยาโคบ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ยาโคบ Jacob เป็นบุตรคนที่สองของอิสอัค กับนางเรเบคาห์ ยาโคบมีพี่ชายฝาแฝดชื่อ เอซาว แต่ทั้งสองแตกต่างกัน เอซาว ตัวแดงมีขนทั่วตัว เป็นนายพรานมือแม่น เป็นที่รักของอิสอัค ขณะที่ยาโคบ เป็นเด็กเงียบ ๆ อยู่กับบ้าน แต่เป็นที่รักของนางเรเบคาห์ ผู้เป็นแม่
เนื้อหา |
[แก้] สิทธิบุตรหัวปี
วันหนึ่ง ขณะที่ยาโคบต้มอาหารอยู่ เอซาวกลับมาจากท้องทุ่งและหิวจัด เอซาวจึงขออาหารจากยาโคบ ยาโคบจึงกล่าวว่า "ขายสิทธิบุตรหัวปีของพี่ให้ฉันก่อนซี" เอซาวซึ่งกำลังหิวจัดจึงยอมสาบานมอบสิทธิบุตรหัวปีให้แก่ยาโคบ เพื่อแลกกับขนมปังและถั่วแดงต้ม ซึ่งถือได้ว่าเอซาว ได้ดูหมิ่นสิทธิบุตรหัวปี[1] ในสมัยก่อน สิทธิบุตรหัวปีมีความสำคัญ เพราะจะเป็นสิทธิในการรับมรดกทุกอย่างของผู้เป็นบิดา
[แก้] คำอวยพรของอิสอัค
เมื่ออิสอัคแก่ตัวลง และตาของท่านก็ขุ่นมัว ท่านจึงเรียก เอซาว ให้ไปพบ และบอกให้เอซาออกไปล่าสัตว์เพื่อทำอาหารมาให้ เพื่ออิสอัคจะได้อวยพระเอซาวต่อหน้าพระเจ้า แต่นางเรเบคาห์ได้ยิน จึงเรียกยาโคบ และให้ยาโคบนำลูกแพะมาให้นางปรุงเป็นอาหาร และให้ยาโคบนำอาหารนั้นไปให้อิสอัครับประทาน โดยนางเรเบคาห์ ได้นำเสื้อผ้าของเอซาวที่นางมีให้ยาโคบสวมใส่ และนำหนังแพะห่อหุ้มมือ และคอของยาโคบไว้ แล้วยาโคบจึงนำอาหารเข้าไปให้อิสอัค แม้อิสอัคจะสงสัยเนื่องจากเสียงพูดที่แตกต่าง แต่ไม่สามารถจับผิดได้เนื่องจากสายตาที่ขุ่นมัว
เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ท่านจึงอวยพรให้ยาโคบ ต่อหน้าพระพักตร์พระเจ้าว่า "ขอให้ชนชาติทั้งหลายรับใช้เจ้า ขอให้ประชาชาติกราบไหว้เจ้า ขอให้เป็นเจ้านายเหนือพี่น้อง และบุตรชายมารดาเจ้ากราบไหว้เจ้า ผู้ใดสาบแช่งเจ้าก็ขอให้ผู้นั้นถูกสาป และผู้ใดอวยพรเจ้าก็ขอให้ผู้นั้นได้รับพร"[2]
เมื่อ เอซาว กลับมาจากล่าสัตว์ และเตรียมอาหารนำมาให้บิดา แต่ช้ากว่า ยาโคบ จึงไม่ได้รับพรจากบิดา และต้องสูญเสียสิทธิในมรดกทั้งสิ้นของบิดาไป เอซาว จึงโกรธแค้น ยาโคบ และวางแผนจะฆ่า ยาโคบ ภายหลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางเรเบคาห์ทราบเรื่อง จึงได้ส่ง ยาโคบ ไปอยู่กับ ลาบัน พี่ชายของนาง ที่เมืองปัดดานอารัม
[แก้] ยาโคบรับใช้ลาบัน
เมื่อยาโคบเดินทางไปยังบ้านของ ลาบัน ลุงของตนเอง และยาโคบขอรับใช้ลาบัน เป็นเวลา 7 ปี เพื่อให้ได้ นางราเชล มาเป็นภรรยา ฝ่ายลาบันมีบุตรสาว 2 คน คือ เลอาห์ คนพี่ และ ราเชล คนน้อง รูปร่างสละสลวย และงามน่าดู เมื่อครบกำหนด 7 ปี ลาบันก็ยก เลอาห์ให้เป็นภรรยาของยาโคบ โดยให้เหตุผลว่า ไม่มีธรรมเนียมที่จะยกน้องสาวให้ก่อนพี่หัวปี และให้ครบ 7 วันก่อน จึงจะยกนางราเชลให้ ยาโคบจีงยอมรับใช้ลาบันอีก 7 ปี[3]
เมื่อนางราเชล คลอดโยเซฟ บุตรชายคนที่ 11 ยาโคบก็ขอเดินทางกลับบ้านบิดา และต่อรองค่าจ้าง เป็นแพะ แกะ ที่มีจุด ด่าง และดำ ซึ่งยาโคบได้ใช้ภูมิปัญญาในการผสมพันธุ์แพะ และแกะ ที่เป็นจุด ด่าง และดำ จนมั่งมีมากขึ้น มีฝูงแพะ แกะฝูงใหญ่ ฝูงอูฐฝูงลา คนใช้ชายหญิง เป็นเหตุให้บุตรชายของลาบันไม่พอใจยาโคบมาก เมื่อพระเจ้าทรงสั่งให้ยาโคบกลับไปยังดินแดนของอับราฮัม ยาโคบจึงปรึกษากับ นางราเชล และนางเลอาห์ ซึ่งภรรยาทั้งสอง ก็ยินดีเดินทางไปกับยาโคบ ทั้งหมดจึงพากันเดินทางกลับไปยังเทือกเขากิเลอาด[4]
[แก้] อิสราเอล
ที่เปนีเอล ริมฝั่งแม่น้ำยับบอก ยาโคบพักแรมจากการเดินทางกลับจากบ้านของลาบัน ระหว่างรอพบเอซาว พี่ชายฝาแฝดของตนเอง ในคืนนั้นมีชายคนหนึ่งมาปล้ำสู้กับยาโคบ ตั้งแต่ดึกจนรุ่งเช้า ก็ไม่ปรากฏผลแพ้ชนะ ชายผู้นั้นจึงแตะที่ข้อต่อสะโพกของยาโคบ และทำให้สะโพกของยาโคบนั้นเคล็ดไป และชายผู้นั้นจึงตั้งชื่อใหม่ให้แก่ ยาโคบ ว่า อิสราเอล ซึ่งแปลว่า ผู้ปล้ำสู้กับพระเจ้า[5]
[แก้] ยาโคบพบกับเอซาว
เมื่อยาโคบเดินทางกลับจากบ้านของลาบัน ขณะกลับเข้าบ้านเกิด ยาโคบได้ใช้ให้คนไปพบ เอซาว พี่ชายฝาแผดของตนเพื่อแจ้งข่าว และระหว่างนั้นยาโคบได้แบ่งทรัพย์สมบัติของตนส่วนหนึ่งไว้ให้เป็นของขวัญแก่เอซาว
เอซาวได้นำคนสี่ร้อยคนออกมาต้อนรับยาโคบ และคืนดีกันในวันนั้นเอง เอซาวก็กลับเข้าไปพักอยู่เมืองเสอีร์ ส่วนยาโคบกับครอบครัวพักอยู่ที่สุคคท ต่อมาจึงได้ย้ายไปยังเบธเอล เอฟราธาห์(เบธเลเฮม) และคีริยาทอารบาเป็นลำดับ ขณะเดินทางจากเบธเอลไปยังเมืองเอฟราธาห์ นางราเชลก็เจ็บท้องคลอดบุตรชายคนสุดท้อง ชื่อ เบนยามิน แล้วเสียชีวิตลง[6]
[แก้] บุตรของยาโคบ
- บุตรที่เกิดจากนางเลอาห์ : รูเบน, สิเมโอน, เลวี, ยูดาห์, อิสสาคาร์, เศบูลุน.
- บุตรที่เกิดจากนางบิลฮาห์: ดาน และ นัฟทาลี.
- บุตรที่เกิดจากนางศิลปาห์: กาด และ อาเชอร์.
- บุตรที่เกิดจากนางราเชล: โยเซฟ และเบนยามิน.
บุตรของยาโคบทั้งหมด ยกเว้นเบนยามิน เกิดที่เมืองปัดดานอารัม บ้านของลาบัน ลุงของยาโคบนั่นเอง ส่วนเบนยามินนั้น เกิดที่เมืองเอฟราธาห์ และเป็นบุตรชายคนสุดท้องของยาโคบ
ยาโคบได้ไปใช้บั้นปลายชีวิตที่อียิปต์ ด้วยเกิดเหตุภัยแล้งยาวนาน และโยเซฟบุตรชายของเขาได้เป็นผู้ปกครองอียิปต์ และยาโคบได้เข้าเฝ้าฟาโรห์แห่งอียิปต์เมื่อมีอายุได้ 130 ปี เมื่อยาโคบอายุได้ 147 ปี ก็เสียชีวิต ก่อนเสียชีวิต ยาโคบได้เรียกโยเซฟมาสั่งเสียว่า "อย่าฝังศพเราไว้ในอียิปต์[7] เมื่อยาโคบเสียชีวิต โยเซฟก็ได้ให้พวกหมออาบศพบิดาใช้เวลาทั้งสิ้น 40 วัน และชาวอียิปต์ก็ไว้ทุกข์ให้ยาโคบเป็นเวลา 70 วัน แล้วโยเซฟก็นำศพของบิดาไปฝังรวมกับบรรพบุรุษ ในถ้ำที่มัคเปลาห์ แผ่นดินคานาอันตามคำสั่งของบิดา[8]
บุตรของยาโคบ ตามชื่อภรรยา (ญ = บุตรสาว) (ตัวเลขในวงเล็บคือลำดับของการเกิด) |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เลอาห์ | รูเบน (Reuben) (1) | สิเมโอน (Simeon) (2) | เลวี (Levi) (3) | ดีนาห์ (Dinah) (ญ) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ยูดาห์ (Judah) (4) | อิสสาคาร์ (Issachar) (9) | เศบูลุน (Zebulun) (10) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ราเชล | โยเซฟ (Joseph) (11) | เบนยามิน (Benjamin) (12) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เอฟราอิม บุตรโยเซฟ (11.1) | มนัสเสห์ บุตรโยเซฟ (11.2) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
บิลลาห์ (สาวใช้นางราเชล) |
ดาน (Dan) (5) | นัฟทาลี (Naphtali) (6) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ศิลปาห์ (สาวใช้นางเลอาห์) |
กาด (Gad) (7) | อาเชอร์ (Asher) (8) |
[แก้] อ้างอิง
- ^ พระธรรมปฐมกาล บทที่ 25 ข้อที่ 27-34
- ^ พระธรรมปฐมกาล บทที่ 27 ข้อ 1-40
- ^ พระธรรมปฐมกาล บทที่ 29 ข้อที่ 1-30
- ^ พระธรรมปฐมกาล บทที่ 30-31
- ^ พระธรรมปฐมกาล บทที่ 32 ข้อที่ 22-32
- ^ พระธรรมปฐมกาล บทที่ 32, 33 และ 35
- ^ พระธรรมปฐมกาล บทที่ 47 ข้อที่ 29-31
- ^ พระธรรมปฐมกาล บทที่ 49 และ 50