แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม เป็นหนังสือเล่มที่หกในหนังสือชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ โดย เจ.เค. โรว์ลิ่ง ออกวางจำหน่ายเมื่อ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 2005 หนังสือเล่มนี้ขายได้ถึง 9 ล้านเล่มภายใน 24 ชั่วโมงแรก ถือเป็นสถิติสูงสุดในขณะนั้น ซึ่งตอนนี้ภาคที่ตามมา แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ได้ทำลายสถิตินั้นลงไปเรียบร้อยแล้ว แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม ฉบับภาษาไทยแปลโดย "สุมาลี" จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์
เรื่องราวในภาคนี้เป็นเรื่องของแฮร์รี่ในชั้นปีที่ 6 ที่โรงเรียนฮอกวอตส์ เล่าถึงอดีตของลอร์ดโวลเดอมอร์และการเตรียมพร้อมรับสงครามครั้งสุดท้ายของแฮร์รี่ พร้อมทั้งสอดแทรกเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก ความสับสนทางอารมณ์ และความขัดแย้งของตัวละครต่างๆ ซึ่งอยู่ในช่วงวัยรุ่นไว้ด้วย
[แก้] เนื้อเรื่องย่อ
ระวังเสียอรรถรส ข้อความด้านล่างนี้กล่าวถึงเนื้อเรื่องหรือฉากจบ |
โวลเดอมอร์และเหล่าผู้เสพความตายสร้างความเสียหายและสับสนอลหม่านไปทั่วเกาะอังกฤษ รัฐมนตรีคอร์นีเลียส ฟัดจ์จำเป็นต้องลาออกเพราะถูกต่อต้านคัดค้านอย่างรุนแรงที่จัดการกรณีโวลเดอมอร์ไม่ได้เรื่อง รูฟัส สกริมเจอร์ขึ้นเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์แทน และอาเธอร์ วีสลีย์ก็ได้เลื่อนขั้น
ที่บ้านของสเนป นาร์ซิสซา แม่ของมัลฟอย และน้องสาวเจ้าอารมณ์ เบลลาทริกซ์ เลสเตรนจ์มาหาเขา และให้สเนปปฏิญญาไม่คืนคำว่าจะปกป้องเดรโกระหว่างปฏิบัติภารกิจเพื่อจอมมารและหากเดรโกทำตามคำสั่งไม่สำเร็จ
อัลบัส ดัมเบิลดอร์ไปหาแฮร์รี่ พอตเตอร์ที่บ้านเดอร์สลีย์และขอให้แฮร์รี่ไปเยี่ยมศาสตราจารย์ฮอเรซ ซลักฮอร์นซึ่งเกษียณแล้วด้วยกัน ดัมเบิลดอร์ขอให้ซลักฮอร์นกลับไปสอนที่ฮอกวอตส์และได้รับความช่วยเหลือจากแฮร์รี่โดยที่แฮร์รี่เองไม่รู้ตัว หลังจากนั้นช่วงปิดเทอมที่เหลือ แฮร์รี่ได้ไปอยู่กับครอบครัววีสลีย์และเฮอร์ไมโอนีที่บ้านโพรงกระต่าย บิล วีสลีย์ตกลงหมั้นหมายกับเฟลอร์ เดอลากูร์ ผู้เข้าแข่งขันประลองเวทย์ไตรภาคีจากโรงเรียนโบซ์บาตงโดยทางบ้านไม่เห็นด้วย (โดยเฉพาะจินนี่ นางวีสลีย์ และเฟร็ดกับจอร์จ)ช่วงปิดภาคฤดูร้อนนี้ แฮร์รี่มีเวลาอยู่กับจินนี่และเกิดความรู้สึกต่อเธอหลายอย่างปนเปกัน แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนีได้รับผลสอบวิชาพ่อมดระดับสามัญ (ว.พ.ร.ส.) เฮอร์ไมโอนีได้คะแนนสูงทุกวิชา ส่วนรอนกับแฮร์รี่ตกวิชาพยากรณ์ศาสตร์และประวัติศาสตร์เวทมนตร์ ทั้งคู่ยังไม่สามารถลงเรียนวิชาปรุงยาเพื่อการสอบความรู้พ่อมดเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ (ส.พ.บ.ส.)ได้ เพราะสเนปจะรับเฉพาะนักเรียนที่ได้คะแนน "ด"(ดีเยี่ยม)เท่านั้นซึ่งวิชานี้เป็นวิชาบังคับสำหรับอาชีพที่แฮร์รี่ใฝ่ฝันคือเป็นมือปราบมาร ระหว่างการซื้อของสำหรับปีการศึกษาใหม่ที่ฮอกวอตส์ในตรอกไดแอกอน แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนีเห็นเดรโก มัลฟอยลอบออกไปที่ตรอกน็อกเทิร์น จึงตามไปและเห็นมัลฟอยเข้าร้านบอร์จินและเบอร์กส์ ซึ่งเป็นร้านขายของเกี่ยวกับศาสตร์มืด พวกเขาเห็นเดรโกข่มขู่นายบอร์จินให้ซ่อมของชิ้นหนึ่งและเก็บอีกชิ้นหนึ่งไว้ให้เขา
เมื่อเปิดเรียน แฮร์รี่เกือบเอาตัวไม่รอดจาการกลั่นแกล้งของเดรโก มัลฟอย บนรถไฟด่วนฮอกวอตส์เอ็กเพรส และทิ้งไว้บนรถเขาหวังเพื่อรถไฟจะพาแฮร์รี่กลับลอนดอน ตอนอยู่ที่สถานีฮ็อกมีด แต่นิมฟาดอร่า ท็องส์มาช่วยไว้ทันเวลา และก็พบว่า เซเวอรัส สเนป ได้รับแต่งตั้งเป็นอาจารย์วิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดคนใหม่อย่างไม่คาดคิด ส่วนซลักฮอร์นมาเป็นอาจารย์วิชาปรุงยาแทน และเมื่อซลักฮอร์นรับนักเรียนที่ได้คะแนนอย่างต่ำ "ก" (เกินความคาดหมาย)จากการสอบ ว.พ.ร.ส.ในการเรียนวิชาปรุงยาระดับ ส.พ.บ.ส. แฮร์รี่กับรอนจึงสามารถเรียนได้ ซลักฮอร์นได้ให้แฮร์รี่ยืมตำราปรุงยาเล่มเก่าซึ่งมีข้อความเขียนว่าเป็นสมบัติของ "เจ้าชายเลือดผสม" ข้อความที่เขียนด้วยลายมือของเจ้าของเดิมผู้มีพรสวรรค์ช่วยให้แฮร์รี่เรียนวิชานี้ได้ดีมาก ซลักฮอร์นจึงมอบน้ำยานำโชคให้เป็นรางวัล
เวลาผ่านไป ผู้เสพความตายก่อเหตุมากขึ้นเรื่อยๆ และอาจเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ฮอกวอตส์ ในการออกไปเที่ยวฮอกส์มี้ดครั้งแรก นักเรียนกริฟฟินดอร์คนหนึ่งชื่อ เคที่ เบลล์ ได้รับบาดเจ็บเมื่อถูกคำสาปสะกดใจให้สวมสร้อยต้องคำสาป แฮร์รี่สงสัยว่ามัลฟอยหรือไม่ก็ผู้เสพความตายคนอื่นเกี่ยวข้องกับเครื่องนี้ อีกเหตุการณ์หนึ่ง รอนดื่มยาพิษโดยบังเอิญเมื่อดื่มเหล้าที่เตรียมไว้สำหรับดัมเบิลดอร์ แฮร์รี่เอาน้ำยาบิซัวร์ซึ่งแก้พิษได้เกือบทุกชนิดกรอกใส่ปากช่วยชีวิตไว้ได้ทัน ก่อนหน้านี้รอนกับเฮอร์ไมโอนีทะเลาะกันอย่างรุนแรงเมื่อรอนนัดเที่ยวกับลาเวนเดอร์ บราวน์ เพื่อยั่วเฮอร์ไมโอนีและแก้แค้นที่เธอจูบกับวิคเตอร์ ครัม ซึ่งเฮอร์ไมโอนีก็ตอบโต้ด้วยการไปงานคริสต์มาสของซลักฮอร์นกับคอร์แม็ก แม็คล้ากเก้น ทำให้เธอยิ่งรู้สึกเลวร้ายเพราะถูกแฮร์รี่ตำหนิพฤติกรรมดังกล่าว รอนกับเฮอร์ไมโอนียังคงทะเลาะกันตลอดทำให้แฮร์รี่เกรงว่าทั้งสองจะไม่กลับมาคืนดีกันอีก อย่างไรก็ตาม เฮอร์ไมโอนีก็ว้าวุ่นใจมากเมื่อรอนดื่มยาพิษจนเฉียดตายและคืนดีกับเขา รอนเองก็เลิกกับลาเวนเดอร์ในที่สุด ในเวลาเดียวกันนั้น แฮร์รี่ก็พบว่าจริงๆ แล้วเขารู้สึกอย่างไรกับจินนี่ ซึ่งตอนนี้เป็นเชสเซอร์ในทีมควิดดิช เมื่อรู้สึกอิจฉาที่เห็นเธอจูบกับดีน โธมัสแฟนหนุ่ม ทว่าแฮร์รี่ก็ลังเลที่ทำอะไรเพราะไม่อยากขวางความสัมพันธ์ของจินนี่กับดีน และกลัวว่ารอนจะไม่ชอบใจหากแฮร์รี่นัดน้องสาวคนเดียวของเขาไปเที่ยว
ดัมเบิลดอร์เริ่มสอนพิเศษให้แฮร์รี่เป็นการส่วนตัว โดยใช้เพนซีฟให้แฮร์รี่ดูความทรงจำเกี่ยวกับโวลเดอมอร์ ความทรงจำส่วนที่เป็นของซลักฮอร์นมีบางส่วนหายไป และแฮร์รี่ได้มาโดยใช้น้ำยานำโชค ดัมเบิลดอร์คาดว่าโวลเดอมอร์แบ่งวิญญาณของตนออกเป็นเจ็ดส่วน เก็บไว้เป็นฮอร์ครักซ์หกชิ้น เพื่อให้ตนเป็นอมตะ ส่วนชิ้นที่เจ็ดอยู่ในร่างของตัวเอง ซึ่งฮอร์ครักซ์สองชิ้นถูกทำลายไปแล้ว (สมุดบันทึกของทอม ริดเดิ้ล โดยแฮร์รี่ ตอนอยู่ปีสอง และแหวนของมาร์โวโล ก๊อนต์ โดยดัมเบิลดอร์)
ต่อมาแฮร์รี่พบมัลฟอยร้องไห้อยู่ในห้องน้ำของเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ ทั้งสองร่ายคาถาใส่กัน แฮร์รี่ใช้คาถาฉีกขาด(ซึ่งจดอยู่ในหนังสือของเจ้าชายเลือดผสม ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเป็นคาถาอะไร)ทำให้ร่างของมัลฟอยเป็นแผลลึก สเนปมาถึงและช่วยมัลฟอยไว้ เขาจำคาถานั้นได้จึงสั่งให้แฮร์รี่เอาหนังสือมาให้เขา แฮร์รี่เอาฉบับของรอนให้ไปแทน สเนปสั่งกักบริเวณแฮร์รี่ทุกวันเสาร์ตลอดเวลาที่เหลืออยู่ของเทอมนั้น ซึ่งครั้งแรกเป็นวันที่มีการแข่งขันควิดดิชนัดสุดท้ายพอดี เมื่อสิ้นสุดเวลากักบริเวณ แฮร์รี่ได้ทราบว่าทีมกริฟฟินดอร์ชนะ และจินนี วีสลีย์เล่นเป็นซีกเกอร์แทนเขา ช่วงเวลาฉลองชัยชนะนั้นเอง ความรู้สึกต่อจินนี่ที่แฮร์รี่ระงับไว้ก็เปิดเผยออกมาเมื่อเขาจูบเธอ (จินนี่เลิกกับดีนหลายวันก่อนแล้ว) และหลังจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มเที่ยวด้วยกัน
ก่อนที่แฮร์รี่และดัมเบิลดอร์จะออกเดินทางจากฮอกวอตส์เพื่อไปหาฮอร์ครักซ์อีกชิ้นหนึ่ง (ล็อกเก็ตของซาลาซาร์ สลิธีริน)แฮร์รี่ได้มอบน้ำยานำโชคที่เหลือให้แก่รอน เฮอร์ไมโอนี และจินนี่เพื่อจะช่วยให้พวกเขาปราศจากอันตราย เขาสงสัยว่ามัลฟอยอาจจะเป็นผู้เสพความตายและบอกดัมเบิลดอร์ซึ่งไม่แสดงท่าทีสนใจ เขารู้ในเวลาต่อมาว่าดัมเบิลดอร์เคยให้สเนปสอบสวนมัลฟอยแล้ว วันหนึ่ง แฮร์รี่ได้ทราบจากศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์ว่าสเนปเป็นผู้ส่งข่าวให้โวลเดอมอร์รู้ที่อยู่ของพ่อแม่ของเขาเมื่อสิบห้าปีก่อน แฮร์รี่ถามดัมเบิลดอร์ตรงๆ ว่าทำไมจึงเชื่อในสเนปทั้งๆ ที่เขาเคยทำเช่นนั้น ดัมเบิลดอร์ยืนยันความเชื่อใจของเขา และบอกแฮร์รี่ว่ารู้ที่ซ่อนฮอร์ครักซ์ชิ้นหนึ่งแล้ว จึงชวนแฮร์รี่ไปหาด้วยกัน แฮร์รี่เชื่อว่ามัลฟอยกับสเนปสมคบกันคิดไม่ดี จึงบอกให้รอน เฮอร์ไมโอนี ลูน่า เลิฟกู๊ด เนวิลล์ ลองบอตทอม และจินนี่ คอยเฝ้าห้องโถงต่างๆ ไว้ตอนที่เขากับดัมเบิลดอร์ไม่อยู่ จากนั้นแฮร์รี่กับดัมเบิลดอร์ก็หายตัวไปยังถ้ำลับแห่งหนึ่ง ดัมเบิลดอร์ต้องดื่มน้ำยาจากอ่างที่ใส่ฮอร์ครักซ์ เพื่อเอามันออกมา ทำให้เขาอ่อนแอไปมาก
กลับมาที่ฮอกส์มี้ด แฮร์รี่และดัมเบิลดอร์เห็นตรามารของโวลเดอมอร์ลอยอยู่บนอากาศเหนือฮอกวอตส์ ทั้งสองยืมไม้กวาดจากมาดามโรสเมอร์ตาซึ่งภายหลังพบว่าตกอยู่ใต้อำนาจคำสาปสะกดใจของมัลฟอย แล้วบินไปยังหอคอยที่มัลฟอยดักซุ่มทำร้ายอยู่ ดัมเบิลดอร์ทำให้แฮร์รี่ซึ่งอยู่ใต้ผ้าคลุมล่องหนขยับตัวไม่ได้ก่อนตัวเองจะถูกมัลฟอยปลดอาวุธ เดรโกเผยว่าตนเองเป็นผู้ช่วยให้พวกผู้เสพความตายเข้ามาในฮอกวอตส์ผ่านทางตู้ล่องหนที่อยู่ระหว่างตรอกน็อกเทิร์นกับฮอกวอตส์ ถึงกระนั้นดัมเบิลดอร์ก็เข้าใจอย่างชัดแจ้งว่าเด็กหนุ่มซึ่งเห็นได้ชัดว่าตกอยู่ในความหวาดกลัวช่วยสมุนโวลเดอมอร์เพราะถูกบังคับ ในเวลาเดียวกัน สมาชิกภาคีฟินิกซ์ (รวมทั้งรีมัส ลูปิน, นิมฟาดอร่า ท็องส์, ศาสตราจารย์มักกอนนากัล และบิล วีสลีย์)ก็ต่อสู้กับพวกผู้เสพความตายอยู่ที่ด้านล่างของโรงเรียน
บรรดาผู้เสพความตายขึ้นมาบนหอคอยที่ตรามารปรากฏอยู่ และเร่งเร้าให้เดรโกปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ คือฆ่าดัมเบิลดอร์เสีย แต่เดรโกลังเลและดูเหมือนจะหวาดกลัว สเนปมาถึง ดัมเบิลดอร์ซึ่งยังคงอ่อนแอจากยาพิษขอร้องอย่างกำกวมให้สเนปช่วย สเนปจึงเสกคาถาพิฆาตฆ่าดัมเบิลดอร์ ความแรงของคาถาทำให้ร่างของดัมเบิลดอร์ร่วงลงมาจากหอคอย เมื่อดัมเบิลดอร์ตาย แฮร์รี่จึงพ้นจากคาถาห้ามเคลื่อนไหว พวกผู้เสพความตายหนีไป แฮร์รี่ไล่ตามสเนปซึ่งบอกว่าตัวเขานั่นเองคือเจ้าชายเลือดผสม ระหว่างที่หนีไปกับมัลฟอย สเนปยังกล่าวด้วยว่าแฮร์รี่ไม่มีพลังพอที่จะเอาชนะเขาได้ และอ่อนแอเหมือนเช่นพ่อของแฮร์รี่ ทำให้แฮร์รี่ยิ่งโกรธแค้นขึ้นอีก
แฮร์รี่เอาฮอร์ครักซ์ออกมาจากตัวของดัมเบิลดอร์ แต่กลับพบว่าเป็นของปลอม ภายในมีข้อความจากคนที่ใช้ชื่อย่อว่า ร.อ.บ.ซึ่งได้ขโมยฮอร์ครักซ์อันจริงไป และปฏิญาณว่าจะทำลายมันทิ้งพร้อมกับตั้งความหวังว่าเมื่อโวลเดอมอร์พบคู่ต่อสู้ที่คู่ควร โวลเดอมอร์จะได้"ตายได้อีกครั้งหนึ่ง"
โรงเรียนปิดกะทันหันพร้อมกับมีพิธีศพของดัมเบิลดอร์ซึ่งมีผู้มาร่วมงานมากมาย ทั้งศิษย์เก่าและนักเรียนปัจจุบัน อาจารย์ สัตว์วิเศษที่อยู่ในป่าต้องห้าม ศาสตราจารย์มักกอนนากัลได้รับแต่งตั้งเป็นอาจารย์ใหญ่ชั่วคราวแม้ว่าโรงเรียนอาจปิดเป็นการถาวร ศาสตราจารย์ซลักฮอร์นเป็นอาจารย์ประจำบ้านสลิธีรินแทนสเนป แต่ไม่ว่าอย่างไร แฮร์รี่ก็ตัดสินใจออกจากฮอกวอตส์ตลอดไปเพื่อค้นหาฮอร์ครักซ์ที่เหลืออยู่ รอนและเฮอร์ไมโอนีสัญญาว่าจะไปกับเขา และแฮร์รี่จบความสัมพันธ์กับจินนี่เพื่อปกป้องเธอให้พ้นจากโวลเดอมอร์ หนังสือจบลงตรงที่แฮร์รี่รอเวลาไปร่วมงานแต่งงานของบิลกับเฟลอร์ และรู้สึกสบายใจที่ "อย่างน้อยก็มีวันสุดท้ายที่จะได้มีความสุขกับรอนและเฮอร์ไมโอนี"
จบเนื้อหาส่วนที่เสียอรรถรสแล้ว ข้อความด้านบนนี้กล่าวถึงเนื้อเรื่องหรือฉากจบ |
[แก้] อ้างอิง
- แฮร์รี่ พอตเตอร์ เล่ม 6 ตอน เจ้าชายเลือดผสม (ปกแข็ง) ( หนังสือ ) nanmeebooks.com
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม เป็นบทความเกี่ยวกับ วรรณคดี วรรณกรรม หรือหนังสือ ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น ข้อมูลเกี่ยวกับ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม ในภาษาอื่น อาจสามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ด้านซ้ายมือ หรือ ดูเพิ่มที่ สถานีย่อย:โลกวรรณศิลป์ |