เดวิด
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เดวิด หรือ ดาวิด (ภาษาอังกฤษ: David; ภาษาฮิบรู: דָּוִד; ภาษาฮิบรูมาตรฐาน: Davíd ; ภาษาฮิบรูไทบีเรียน: Dāwíð; ภาษาอาหรับ: داوود or داود, Dāwūd, [ดาวูด]; หมายถึง เป็นที่รัก)( (1037 - 967 ก่อนคริสต์ศักราช; ปกครองอาณาจักรยูดาห์และ อิสราเอล 1005 - 967 ก่อนคริสต์ศักราช)
เดวิดเป็นกษัตริย์องค์ที่สองของอาณาจักรอิสราเอล กล่าวกันว่ามีคุณธรรมและเป็นนักการทหารที่มีความสามารถ เป็นนักดนตรี กวี (เชื่อกันว่าเป็นผู้เขียนเพลงสดุดี (Psalms) หลายเพลง)
ชีวิตของพระเจ้าเดวิดที่บันทึกไว้ใน หนังสือซามูเอล เล่ม 1ในพันธสัญญาเดิมตั้งแต่บทที่ 16 เป็นต้นไปและหนังสือพงศาวดาร
เป็นบุคคลสำคัญใน ศาสนาเอบราฮัม ในคติของศาสนายูดาย เป็นมหาราช ปฐมกษัตริย์ที่แท้จริง ผู้รวบรวมวงศ์วานของอิสราเอล ในคติของ ศาสนาคริสต์ พระเยซูสืบเชื้อสายมาจากกษัตริย์เดวิด ในคติของศาสนาอิสลาม นบีเดวูด เป็นศาสนทูตของอัลลอหฺ
เนื้อหา |
[แก้] ผู้ได้รับเลือก
หลังจากที่พระเจ้าทรงเลิกสนับสนุนพระเจ้าซอล ก็ทรงส่งซามูเอลไปหาเจสสีผู้เป็นพ่อของเดวิด เพื่อแสดงความประสงค์ว่า พระองค์จะทรงเลือกกษัตริย์องค์ใหม่ของอาณาจักรอิสราเอลต่อจากซอล และผู้ที่ถูกเลือกคือลูกคนเล็กของเจสสี ซึ่งกำลังเลี้ยงแกะอยู่ และกล่าวว่า "(เดวิด) มีลักษณะหน้าตาดี และพระเจ้ากล่าวต่อซามูเอล, เจิมเดวิด, เพราะนี่คือกษัตริย์"
[แก้] เดวิดเล่นพิณต่อหน้าพระเจ้าซอล
เมื่อพระเจ้าซอลทรงถูกทรมานจากสิ่งชั่วร้าย คนรับใช้ก็แนะนำพระเจ้าซอลให้เรียกตัวเดวิดผู้มึความเชี่ยวชาญในการเล่นพิณ เป็นผู้มีศักดิ์ เป็นนายทหารเก่งกล้า และเป็นผู้รู้จักพูด และเป็นผู้นับถือพระเจ้า ให้มาช่วย เดวิดจึงได้เข้ามารับราชการกับพระเจ้าซอล และเป็นคนโปรดของซอล เมื่อใดที่ซอลไม่สบายเดวิดก็เล่นพิณถวายจนทรงรู้สึกปกติ [1]
[แก้] เดวิดและโกไลแอธ
ในระหว่างที่พระเจ้าซอลเป็นกษัตริย์ ชาวอิสราเอลมักถูกรุกรานโดยชาวฟิลลิสเชีย (Philistia) ที่อยู่ทางตอนใต้ของอิสราเอล ขณะที่เดวิดนำเสบียงไปส่งให้พี่ชายผู้ติดทัพอยู่กับพระเจ้าซอล เดวิดก็ได้ข่าวว่าชาวฟิลลิสเชียมึนักต่อสู้ยักษ์ชื่อ โกไลแอธ ซึ่งฟิลลิสเชียก็ท้าให้ชาวอิสราเอลส่งนักสู้มารบกับโกไลแอธให้รู้แพ้รู้ชนะ
เดวิดยืนยันกับพี่ชายว่ามีความสามารถจะต่อสู้กับโกไลแอธได้ พระเจ้าซอลทรงส่งเดวิดไปต่อสู้อย่างไม่ค่อยเต็มใจ แต่เดวิดกลับได้รับชัยชนะโดยล้มโกไลแอธด้วยการเหวี่ยงหินก้อนเดียว พวกฟิลลิสเชียเห็นเช่นนั้นก็วิ่งหนีขวัญเสีย ชาวอิสราเอลจึงได้รับชัยชนะ
เดวิดนำหัวโกไลแอธมาถวายพระเจ้าซอล ทรงถามว่าเป็นบุตรใคร เดวิดตอบว่า "ข้าเป็นบุตรของเจสสีชาวเบธเลเฮ็มผู้เป็นผู้รับใช้ของพระองค์" [2]
[แก้] ศัตรูของซอล
หลังจากได้รับชัยชนะพระเจ้าซอลก็ทรงแต่งตั้งให้เดวิดเป็นแม่ทัพและยกมิคาลผู้เป็นพระธิดาให้เดวิด เดวิดก็ได้รับชัยชนะในการต่อสู้หลายอีกศึก จนพวกผู้หญิงกล่าวกันว่า "พระเจ้าซอลสังหารข้าศึกเป็นพัน และเดวิดสังหารเป็นแสน" เดวิดเป็นที่ชื่นชอบของประชาชนมาก พระเจ้าซอลกลับทรงระแวงว่าจะชิงอาณาจักร จึงพยายามสังหารด้วยกลอุบายหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ กลับยิ่งทำให้เดวิดเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยเฉพาะกับโจนาธานพระโอรสของซอลเอง โจนาธานเตือนเดวิดถึงแผนของพระเจ้าซอล เดวิดจึงหนีเข้าป่า [3]
[แก้] เดวิดลี้ภัย
เมื่อหนีไปเดวิดก็รวบรวมกำลังผู้ที่ถูกข่มเหงโดยพระเจ้าซอล ขณะที่ลี้ภัยเดวิดก็ได้รับเมืองซิคแล็กเป็นบรรณาการจากพระเจ้าอาชิส (King Achish) กษัตริย์ฟิลลิสเชียแห่งแกธ แต่เดวิดก็ยังเป็นวีรบุรุษของชาวอิสราเอล ต่อมาพระเจ้าอาชิสยกทัพไปต่อสู้กับพระเจ้าซอล แต่เดวิดก็ไม่ได้ร่วมในการสงครามครั้งนี้ เพราะถูกกล่าวหาโดยชาวฟิลลิสเชียถึงความไม่น่าไว้ใจในความจงรักภักดีต่อฟิลลิสเชีย
[แก้] เดวิดเป็นกษัตริย์
พระเจ้าซอลและโจนาธานถูกสังหารโดยฟิลลิสเชียระหว่างสงคราม เดวิดมีความโศกเศร้าต่อการสูญเสียเป็นอันมาก [4]
หลังจากนั้นเดวิดก็เดินทางไปเฮบบรอน เพื่อไปได้รับการเจิมเป็นพระเจ้าแผ่นดินปกครองอาณาจักรยูดาห์ ขณะที่ อิชโบเชธ (Ish-Bosheth) พระโอรสของพระเจ้าซอล ได้รับการเจิมเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ปกครองอาณาจักรอิสราเอลทางตอนเหนือ [5]
เดวิดกับอิชโบเชธก็ทำสงครามกันจนอิชโบเชธถูกลอบสังหาร ผู้ลอบสังหารก็นำพระเศียรของอิชโบเชธมาถวายเดวิดเพราะหวังจได้รับรางวัล แต่เดวิดสั่งประหารชีวิตผู้ที่ฆ่าอิชโบเชธ ในฐานะที่เป็นอาชญากร [6]
เมื่อพระโอรสของซอลสิ้นพระชนม์ลง พวกปุโรหิตชาวอิสราเอลก็เดินทางมาเฮบบรอน เพื่อมาทำพิธียกเดวิดขึ้นเป็นกษัตริย์ของอาณาจักรยูดาห์และอาณาจักรประเทศอิสราเอล ขณะนั้นเดวิดมีพระชนมพรรษา 30 ปี [7]
[แก้] พระเจ้าเดวิด
เมื่อพระเจ้าเดวิดได้ชัยชนะจากในการโจมตีป้อมเยบูไซท์ (Jebusite) ของเมืองเยรูซาเล็มก็ยกเยรูซาเล็มขึ้นเป็นเมืองหลวง “พระเจ้าฮิรามแห่งไทเร (Tyre) ก็ส่งผู้ถือสาส์นมาถึงพระเจ้าเดวิดพร้อมกับต้นซีดาร์ และช่างไม้และปูนเพื่อสร้างวังของเดวิด”[8] พระเจ้าเดวิดก็นำหีบพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ (Ark of the Covenant) มาเยรูซาเล็มโดยตั้งใจประดิษฐานในวัดที่สร้างใหม่ [9] แต่พระเจ้าก็ทรงกล่าวกับประกาศกเนธาน (Prophet Nathan) ห้ามและกล่าวว่าการสร้างวัดต้องรอต่อมาให้ชนรุ่นหลังสร้าง แต่พระเจ้าก็ทรงทำพันธสัญญากับเดวิดว่าเดวิดจะเป็นผู้สร้างตระกูลเดวิด (House of David) และ “บัลลังก์ของเจ้าจะเป็นบัลลังก์ที่ยืนยาวตลอดไป” [10]
หลังจากนั้นพระเจ้าเดวิดก็ทรงขยายอำนาจ ได้รับชัยชนะต่อ โซบาท์ (Zobah) และ อารัม (Aram) (ปัจจุบันอยู่ในประเทศซีเรีย), บริเวณเอโดม (Edom) และ โมอับ (Moab) (ปัจจุบันอยู่ในประเทศจอร์แดน), ฟิลลิสเชีย และดินแดนอื่นๆ [11]
[แก้] อ้างอิง
- ^ 1 ซามูเอล 16:14-23
- ^ 1 ซามูเอล 17
- ^ 1 ซามูเอล 18
- ^ 2 ซามูเอล 1
- ^ 2 ซามูเอล 2:1-10
- ^ 2 ซามูเอล 4
- ^ 2 ซามูเอล 5
- ^ 2 ซามูเอล 5
- ^ 2 ซามูเอล 6
- ^ 2 ซามูเอล 7
- ^ 2 ซามูเอล 8
[แก้] ดูเพิ่ม
[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น
- Complete Bible Genealogy เชื้อสายเดวิด
- The Eternal House Of David Family Reunion การพบปะของผู้สืบสายจากเดวิด
- Poet Robert Pinsky Takes on King David กวีโรเบิร์ต พินสกี พูดเรื่องพระเจ้าเดวิด