เจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
เจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต (พ.ศ. 2400 - พ.ศ. 2465) เจ้าผู้ครองนครลำปาง องค์ที่ ๑๐ แห่ง "ราชวงศ์ทิพย์จักราธิวงศ์ (เจ้าเจ็ดตน)" (ครองราชย์ พ.ศ. 2440 - พ.ศ. 2465) ตลอดรัชสมัย เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต ทรงดำรงพระองค์ไว้ซึ่งความมั่นคงสุจริตและความจงรักภักดีต่อ พระบรมราชวงศ์จักรี พระองค์ได้ทรงพัฒนานครลำปางและเมืองบริวารในด้านต่างๆ ให้ทันกับการพัฒนาในส่วนกลาง ได้ทรงประทานที่ดินและทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อจัดสร้างถาวรวัตถุในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และการก่อสร้างสถานศึกษา ตลอดจนสถานที่ราชการต่างๆ เพื่อความผาสุกแก่ประชาชนลำปางอย่างแท้จริง
เนื้อหา |
[แก้] พระราชประวัติ
เจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต หรือ มหาอำมาตย์โท พลตรี เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต สามันตวิชิตประเทศราช บริสัตยนารถทิพจักราธิวงศ์ ดำรงโยนวิไศย อภัยรัษฎารักษ์ อุดมศักดิ์สัตยาธิวางค์ ลำปางมหานัคราธิปไตย เจ้าผู้ครองนครลำปาง มีพระนามเดิมว่า เจ้าบุญทวงศ์ ณ ลำปาง ทรงราชสมภพเมื่อวันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๐๐ ทรงเป็นราชโอรสใน เจ้าหลวงนรนันทไชยชวลิต, เจ้าผู้ครองนครลำปาง องค์ที่ ๙ กับ แม่เจ้าฟองแก้วราชเทวี และทรงเป็นราชปนัดดา (หลานปู่) ใน เจ้าหลวงวรญาณรังษี, เจ้าผู้ครองนครลำปาง องค์ที่ ๖ กับ แม่เจ้า-ราชเทวี
เจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต ทรงมีราชเชษฐา ราชภคินี ราชอนุชา และราชขนิษฐา ร่วมพระราชบิดา ๒๓ พระองค์ มีพระนามตามลำดับ ดังนี้
- เจ้าหญิงหอม ณ ลำปาง
- เจ้าน้อยคำแสน ณ ลำปาง
- มหาอำมาตย์โท พลตรี เจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต, เจ้าผู้ครองนครลำปาง องค์ที่ ๑๐
- เจ้าน้อยกิ ณ ลำปาง
- เจ้าราชบุตร ชวลิตวราวุธ ณ ลำปาง, เจ้าราชบุตรนครลำปาง - พระบิดาใน "เจ้าราชสัมพันธวงศ์ คำผาย สุยะราช, เจ้าราชสัมพันธ์วงศ์นครลำปาง" ซึ่งสมรสกับ "เจ้าหญิงอุษาวดี ศีติสาร" ราชธิดาองค์ใหญ่ใน "เจ้าหลวงอินต๊ะชมภู, พระญาประเทศอุดรทิศ เจ้าเมืองพะเยา องค์ที่ ๔" เจ้านายราชวงศ์ "เชียงแสนเก่า"
- เจ้าน้อยพึ่ง ณ ลำปาง
- เจ้าน้อยเมือง ณ ลำปาง
- เจ้าน้อยหม่อม ณ ลำปาง
- เจ้าหญิงนวล ณ ลำปาง
- เจ้าหญิงซุ่ย ณ ลำปาง
- เจ้าหญิงหวัน ณ ลำปาง
- เจ้าน้อยแก้ว ณ ลำปาง
- เจ้าหญิงหยิ่น ณ ลำปาง
- เจ้าไชยสงคราม น้อยโท่น ณ ลำปาง, เจ้าไชยสงครามนครลำปาง
- เจ้าหญิงบัวเกษร ณ ลำปาง
- เจ้าหญิงบัวเทพ ณ ลำปาง - พระอัยยิกา (เจ้ายาย) ใน "เจ้าอินทเดชสุวรรณบท ณ ลำพูน"
- เจ้าหญิงแก้วมาลา ณ ลำปาง
- เจ้าน้อยปั๋นแก้ว ณ ลำปาง
- เจ้าหญิงฟอง ณ ลำปาง
- เจ้าน้อยอ้น ณ ลำปาง
- เจ้าอุปราช ทิพจักร ณ ลำปาง, เจ้าอุปราชนครลำปาง - พระบิดาใน "เจ้าเทพธำรงค์ ณ ลำปาง","เจ้าหญิงอัตถ์ ณ ลำปาง","เจ้าหญิงต่วน ณ ลำปาง"
- เจ้าน้อยหมวก ณ ลำปาง
- เจ้าหญิงบัวทิพย์ ณ ลำปาง
เจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต ได้เสด็จขึ้นครองนครลำปาง ใน พ.ศ. ๒๔๔๐ และเสด็จพิราลัยใน พ.ศ. ๒๔๖๕ รวมระยะเวลาที่ทรงครองนคร ๒๕ ปี สิริพระชนมายุ ๖๕ พรรษา
[แก้] ราชโอรส ราชธิดา
เจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต ทรงมีราชโอรสและราชธิดา รวม ๑๓ พระองค์ อยู่ในราชตระกูล ณ ลำปาง มีพระนามตามลำดับ ดังนี้
ใน แม่เจ้าเมืองชื่นราชเทวี - ราชธิดาใน "เจ้าหลวงวรญาณรังษี, เจ้าผู้ครองนครลำปาง องค์ที่ ๖" (มีราชธิดา ๕)
- เจ้าหญิงสำเภาแก้ว ณ ลำปาง - สมรสกับ "เจ้าอุปราช ทิพจักร ณ ลำปาง, เจ้าอุปราชนครลำปาง""
- เจ้าหญิงสำเภาคำ ณ ลำปาง - สมรสกับ "เจ้าราชบุตร น้อยแก้วเมืองปวน ณ ลำปาง, เจ้าราชบุตรนครลำปาง"
- เจ้าหญิงฝนห่าแก้ว ณ ลำปาง - สมรสกับ "เจ้าไชยสงคราม น้อยเบี้ย ณ ลำปาง, เจ้าไชยสงครามนครลำปาง" พระมารดาใน "แม่เจ้าทิพวรรณ (ณ ลำปาง) ณ เชียงตุง" ชายาใน "เจ้าฟ้าสิริสุวรรณราช ยศสรพรหมลือ (เจ้าฟ้าพรหมลือ ณ เชียงตุง) , เจ้าฟ้านครเชียงตุง องค์ที่ ๑๐"
- เจ้าหญิงดาวบิน ณ ลำปาง - สมรสกับ "เจ้าคำลือ ณ ลำปาง"
- เจ้าหญิงอ้ม ณ ลำปาง - สมรสกับ "พันตรี หลวงไกรเทพสงคราม (แถม จารุจินดา) "
ใน หม่อมจิ๋น (มีราชธิดา ๑)
- เจ้าหญิงจ๋อม ณ ลำปาง
ใน หม่อมช้อย (มีราชธิดา ๑)
- เจ้าหญิงเนียม ณ ลำปาง
ใน หม่อมเมฆ (มีราชโอรส ๑)
- เจ้าบุญสารเสวตร์ ณ ลำปาง - ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้ในพระบรมราชูปถัมป์
ใน หม่อมเจียกใหญ่ (มีราชธิดา ๒)
- เจ้าหญิงบุษมาลี ณ ลำปาง - (พิราลัยแต่เยาว์)
- เจ้าหญิงบุษบง ณ ลำปาง - สมรสกับ "เจ้ามงคล ณ ลำปาง"
ใน หม่อมน้อย (มีราชธิดา ๑)
- เจ้าหญิงอัมพร ณ ลำปาง
ใน หม่อมเจียกน้อย (มีราชโอรส ๑)
- เจ้าบุญส่ง ณ ลำปาง - รับพระราชทานสืบทอด "เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นตติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ต.จ.ว.) "
ใน หม่อมวาส (มีราชธิดา ๑)
- เจ้าหญิงบุษบา ณ ลำปาง
[แก้] พระกรณียกิจสำคัญ
เจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต ได้ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจอันทรงคุณูปการต่อนครลำปางและประเทศชาติเป็นอเนกประการ มีรายละเอียดพอสังเขป ดังนี้
- ด้านการทหารและการป้องกันนคร
พระองค์ทรงเป็นผู้ริเริ่มและวางรากฐานด้านการทหารให้แก่นครลำปาง ได้ทรงระดมชาวเมืองต่อสู้ป้องกันนครจากพวกเงี้ยวที่ก่อการจลาจล ยกกำลังเข้าตีนครลำปางเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๔๔๕ และสามารถปราบปรามเงี้ยวราบคาบ การที่ทรงระดมพลเมืองเป็นทหารเพื่อรบพุ่งทำสงครามดังกล่าว ทำให้เกิดมีกองทหารนครลำปางขึ้น และเพื่อความเป็นปึกแผ่นมั่นคงของกิจการทหาร พระองค์ได้ประทานที่ดินส่วนพระองค์สร้างโรงทหาร โรงพยาบาลทหาร และค่ายทหาร
- ด้านการศึกษา
เจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต ทรงได้รับการศึกษาหนังสือไทยเหนือในสำนัก อภิไชย วัดเชียงมั่น นครลำปาง และหนังสือไทยกลางที่คุ้มหลวง เนื่องจากขณะนั้นยังไม่มีโรงเรียน พระองค์ทรงตระหนักดีว่าการศึกษาของประชาชนลำปางที่มีอยู่ในวัดนั้นไม่เพียงพอต่อการพัฒนานคร เจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต ทรงสนพระทัยติดตามความเคลื่อนไหวด้านการจัดการศึกษาของส่วนกลาง แล้วทรงนำมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาของนครลำปาง ทรงนำการศึกษาแบบสอนภายในโรงเรียนเข้ามาแทนการศึกษาในวัดเป็นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๗ ณ สถานที่ตั้งโรงเรียนเทศบาล ๓ (บุญทวงศ์อนุกูล) ในปัจจุบัน พระองค์ทรงเล็งเห็นความสำคัญของการศึกษาว่าจำเป็นยิ่งต่อการพัฒนานครลำปาง พระองค์ได้สนับสนุนส่งเจ้านายบุตรหลานและประชาชนลำปาง ที่ทรงคัดเลือกว่ามีสติปัญญาความสามารถไปศึกษาต่อที่ ณ กรุงเทพมหานคร โดยให้อยู่ในความดูแลของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งบุคคลเหล่านั้นก็ได้กลับมาทำงานสร้างคุณประโยชน์ให้แก่นครลำปางและประเทศชาติหลายท่าน นอกจากนั้น พระองค์ยั่งได้ทรงสละราชทรัพย์ส่วนพระองค์ซื้อที่ดินและอาคารของห้างเซ่งหลี สร้างโรงเรียนขึ้นอีกแห่งหนึ่งแล้วประทานให้เป็นของรัฐ ซึ่งในปี พ.ศ. ๒๔๔๘ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะดำรงอิสริยยศเป็นสยามมกุฎราชกุมารได้เสด็จประพาสหัวเมืองฝ่ายเหนือ และทรงพระกรุณาเสด็จทรงเปิดโรงเรียนใหม่แห่งนี้เมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน และพระราชทานนามว่า "โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย" เพื่อถวายเป็นพระอนุสรณ์แด่ เจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต
- ด้านการศาสนา
เจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต ทรงเคยเข้ารับการอุปสมบท ณ สำนักพระปัญญา วัดสวนดอก นครลำปาง พระองค์ทรงมีราชศรัทธาอย่างแรงกล้าในทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ได้ทรงพระราชทานพระอุปถัมภ์แก่วัดต่างๆ โดยในนครลำปางและเมืองบริวารอย่างทั่วถึง ทรงสละราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาด้วยความศรัทธาเลื่อมใสอย่างแท้จริง อนึ่ง เพื่อให้พระสงฆ์ในจังหวัดลำปาง ได้มีความรู้ความเข้าใจ ในเรื่องพระศาสนาดียิ่งขึ้น พระองค์ยังได้ทรงสนับสนุนส่งพระสงฆ์ให้เข้ารับศึกษาพระปริวัติธรรม ณ วัดมหาธาตุ กรุงเทพมหานคร อีกด้วย
- ด้านการอุตสาหกรรมและการคมนาคม
เจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต ทรงมีสายพระเนตรยาวไกล ทรงเล็งเห็นว่าการอุตสาหกรรมต่อไปจักเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจของบ้านเมือง ได้ทรงจัดตั้งโรงงานทอผ้าและโรงงานฟอกหนังขึ้นในนครลำปาง ซึ่งนับเป็น โรงงานฟอกหนังแห่งแรกของประเทศไทย นอกจากนั้น พระองค์ยังทรงส่งเสริมกิจการด้านการคมนาคม ทรงมีราชดำริให้มีการก่อสร้างปรับปรุงถนนต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงนครลำปางและเมืองบริวารใกล้เคียง รวมทั้ง ได้ประทานที่ดินส่วนพระองค์เพื่อก่อตั้งที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข เพื่อเป็นศูนย์กลางในการติดต่อสื่อสารของประชาชน
[แก้] อ้างอิง
- ปราณี ศิริธร ณ พัทลุง. เพ็ชร์ล้านนา. (ครั้งที่ ๒) เชียงใหม่ :ผู้จัดการ ศูนย์ภาคเหนือ, ๒๕๓๘.
- สมหมาย เปรมจิตต์, สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. ตำนานสิบห้าราชวงศ์ (ฉบับสอบชำระ) . เชียงใหม่: มิ่งเมือง, ๒๕๔๐.
- ศักดิ์ รัตนชัย. พงศาวดารสุวรรณหอคำนครลำปาง (ตำนานเจ้าเจ็ดพระองค์กับหอคำมงคล ฉบับสอบทานกับเอกสารสืบค้น สรสว.ลำปาง) .
- เจ้าวงศ์สัก ณ เชียงใหม่, คณะทายาทสายสกุล ณ เชียงใหม่. เจ้าหลวงเชียงใหม่.
- คณะทายาทสายสกุล เจ้าหลวงเมืองพะเยา, สถาบันศิลปวัฒนธรรมโยนก. ครบรอบ ๑๐๐ ปี แม่เจ้าทรายมูล (มหาวงศ์) ไชยเมือง และประวัติสายสกุลเจ้าหลวงเมืองพะเยา พุทธศักราช ๒๓๘๗ - ๒๔๕๖. พะเยา :บ.ฮาซัน พริ้นติ้ง จก., ๒๕๔๖
- คัมภีร์ คัมภีรญาณนนท์ , นาวาอากาศเอก. เจ้านายฝ่ายเหนือ. [1]
รัชสมัยก่อนหน้า: พระเจ้านรนันทไชย |
เจ้าผู้ครองนครลำปาง ราชวงศ์ทิพย์จักราธิวงศ์ พ.ศ. 2440 - พ.ศ. 2465 |
รัชสมัยถัดไป: เจ้าราชบุตร |
ดูเพิ่มเติม