อิสระ สมชัย
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
นายอิสสระ สมชัย กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ อดีต ส.ส.อุบลราชธานี หลายสมัย เกิดวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2489 ก่อนเข้าสู่วงการเมืองประกอบอาชีพเป็นทนายความ เริ่มเข้าสู่วงการเมืองโดยการลงสมัครรับเลือกตั้งได้เป็น สมาชิกสภาจังหวัดอุบลราชธานี 2 สมัย ต่อมาเข้าสู่วงการเมืองระดับประเทศ และได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 6 สมัย
"นายอิสสระ สมชัย" เป็น 1 ใน 2 ส.ส.ภาคอีสาน ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่สามารถชนะ การเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 โดยได้เป็น ส.ส.อุบลราชธานี เขต 8 (อีกคนคือ นายวิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ชนะเลือกตั้งได้เป็น ส.ส.อุบลราชธานี เขต 3)
ความเคลื่อนไหวช่วงก่อนเลือกตั้ง 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550
วันที่ 23 ตุลาคม 2550 มีกระแสข่าวว่า นายอิสสระ สมชัย อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และ นายสุทัศน์ เงินหมื่น กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ จะย้ายเข้าสังกัด พรรคมัชฌิมาธิปไตย หลังจากเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ มานานกว่า 20 ปี ขณะที่ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ หัวหน้าพรรคพรรคมัชฌิมาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ที่ จ.อุบลราชธานี เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันแล้ว และค่อนข้างแน่นอนที่ทั้ง นายสุทัศน์ และนายอิสระ จะย้ายมาอยู่กับ พรรคมัชฌิมาธิปไตย ส่วนสาเหตุที่ทั้งสองย้ายพรรค ไม่ได้มีเงื่อนไขอะไร เป็นเพราะมีอุดมการณ์เดียวกันมากกว่า สำหรับตำแหน่งของนายสุทัศน์นั้น คงจะได้รับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค หรือประธานที่ปรึกษาพรรค
ต่อมา นายวิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ำกำกับดูแลการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคอีสาน ได้ให้สัมภาษณ์ในวันเดียวกันว่า ส.ส.ทั้งสองคนยังเข้าร่วมประชุมพรรค และนายสุทัศน์ยังได้เสนอชื่อบุตรชายคือ นายอภิวัฒน์ เงินหมื่น ให้ลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ แต่ยอมรับว่านายประชัย เคยทาบทามนายสุทัศน์จริง เนื่องจากนายสุทัศน์ เป็นทนายความสู้คดีให้นายประชัย แต่มั่นใจว่านายสุทัศน์จะไม่ย้ายพรรค
ด้าน นายอิสสระ สมชัย ได้ให้สัมภาษณ์ในวันเดียวกัน ปฏิเสธข่าวดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง ตนเองยังคงอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ หากไม่ลงเลือกตั้งกับพรรคประชาธิปัตย์ ตนก็จะไม่ลงสมัคร และไม่เคยมีใครมาชักชวนให้ย้ายพรรค และเท่าที่ทราบพรรคมัชฌิมาประชาธิปไตย ก็จัดทีมผู้สมัครลงในเขตที่ตนจะลงแล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่จะย้ายไป ขณะที่มีประชาชนโทรมาสอบถามข่าวที่เกิดขึ้น ซึ่งตนก็ได้ปฏิเสธข่าวไปแล้ว และวันนี้ก็มาประชุมกับพรรค เป็นไปได้ที่เป็นการปล่อยข่าวดิสเครดิต ส่วนกรณีนายสุทัศน์เท่าที่คุยกัน นายสุทัศน์ก็บอกว่าจะไม่ย้ายไปไหนเช่นกัน
[แก้] ประวัติการศึกษา
- จบชั้นประถมศึกษาจาก โรงเรียนโพธิ์ศรี จ.อุบลราชธานี
- จบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจาก มัธยมพิบูลวิทยาลัย จ.อุบลราชธานี
- สำเร็จการศึกษาระดับเตรียมอุดมศึกษาจาก โรงเรียนสิทธิ์ธรรมศาสตรศิลป์ จ.อุบลราชธานี
- ศึกษาต่อจนสำเร็จการศึกษา ปริญญาตรีทางกฎหมาย จาก มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาพัฒนาสังคม จาก สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
การศึกษาหลักสูตรพิเศษเพิ่มเติม
- ประกาศนียบัตรชั้นสูง หลักสูตร "การเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย สำหรับนักบริหารชั้นสูง" จาก สถาบันพระปกเกล้า (รุ่นที่ 2)
[แก้] ประวัติการทำงาน
- ทนายความตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2518 ถึงปัจจุบัน
- เป็นนักการเมืองท้องถิ่น (สมาชิกสภาจังหวัดอุบลราชธานี 2 สมัย)
- เป็น ส.ส.อุบลราชธานี 6 สมัย (2529, 2535/1, 2535/2, 2538, 2539, 2548)
[แก้] เครื่องราชย์อิสริยาภรณ์
- มหาวชิรมงกุฎไทย (มวม.)
