แมนรัตน์ ศรีกรานนท์
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เรืออากาศตรี ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ หรือ เรมอนด์ ซีเกร่า (Reimondo Amato de Sequeira) เป็นนักดนตรีลูกครึ่งชาวไทย-โปรตุเกส เป็นสมาชิก วงดนตรี อ.ส. วันศุกร์ ได้รับพระราชทานนามในภาษาไทยจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า "แมนรัตน์ ศรีกรานนท์" ต่อมาทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานทุนส่วนพระองค์ ส่งไปเรียนวิชาเรียบเรียงเสียงประสานที่ โรงเรียนการดนตรีเบิร์กลี (Berklee School of Music) ที่เมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา (ปัจจุบันคือวิทยาลัยดนตรีเบิร์กลี - Berklee College of Music)
แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ เกิดเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2471 ที่กรุงเทพมหานคร บิดาของท่านคือ เรนัลโด ซีเกร่า (Reinaldo Maria de Sequeira) นักดนตรีชาวโปรตุเกส เป็นคนแรกๆที่นำเพลงตะวันตกมาบรรเลงในประเทศไทย แมนรัตน์เป็นผู้ก่อตั้งวงดนตรี"คีตะเสวี" เมื่อปี พ.ศ. 2493 เป็นวงดนตรีร่วมสมัยกับวงสุนทราภรณ์ บรรเลงตามสถานีวิทยุและงานลีลาศด่างๆ แต่เน้นดนตรีสากล สมรสกับคุณลออวรรณ ศรีกรานนท์ มีบุตรและธิดา 2 คน ชื่อ ดร.อินทุอร และ ดร.ภาธร ศรีกรานนท์
แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ ได้รับการยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ดนตรีสากล ในปี พ.ศ. 2535 ปัจจุบันเป็นผู้บริหารโรงเรียนดนตรีสยามกลการ
เนื้อหา |
[แก้] ประวัติส่วนตัวและผลงาน
อ.แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ เกิดเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2471 ปัจจุบันอายุ 78 ปี เกิดที่ตำบลบางรัก เจริญกรุง เป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้อง 6 คน ของ คุณพ่อโรนาโด ซีแกร่า และคุณแม่จำรัส เรณางกูร ซึ่งมีเชื้อสายโปรตุเกส คุณพ่อเป็นนักเปียโนและเล่นดนตรี และคุณพ่อยังทำงานด้านอื่นประจำนอกเหนือจากดนตรี จึงได้รับแรงบันดาลใจและมีความรักในดนตรีมาก อ.แมนรัตน์เติบโตมาในครอบครัวที่มีดนตรีในหัวใจ มีใจรักเสียงดนตรีมาโดยตลอด อ.แมนรัตน์สมรสกับ คุณลออวรรณ อนุสารสุนทร มีบุตร 2 คน คือ ดร.อินทุอร ศรีกรานนท์,CONCERT PIANIST จบจากมหาวิทยาลัย Yale และดร.ภาธร ศรีกรานนท์ จบการศึกษาปริญญาเอก สาขาการประพันธ์เพลง จากมหาวิทยาลัยเอดินเบิร์ก สกอตแลนด์ และได้เล่น SAXOPHONE พร้อมทั้งยังเป็นนักดนตรีในวงดนตรี อ.ส วันศุกร์ ซึ่งเป็นวงดนตรีส่วนพระองค์อีกด้วย
อาจารย์แมนรัตน์ เริ่มการศึกษา เมื่ออายุ 9 ปี โดยได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนอัสสัมชัญและเซ็นคราเบรียลจนจบมัธยมศึกษาปีที่ 4 จึงย้ายมาเรียนอัสสัมชัญ ขณะที่เรียนอยู่ชั้น ม.5 เกิดสงคราม การเรียนจึงได้ชะงักลงช่วงหนึ่ง หลังสงครามสงบกลับมาเรียนต่อ แต่ไม่จบเนื่องจากบิดาได้ล้มป่วยและเสียชีวิตจึงต้องออกจากโรงเรียนมาเล่นดนตรีหาเงินส่งน้องๆเรียนหนังสือ ช่วยเหลือภาระทางบ้าน แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งการเรียน ช่วงที่ทำงานอยู่อีสต์ เอเซียติค ได้เรียนกวดวิชาตลอดเวลาแต่ก็ไม่มีโอกาสสอบชั้นมัธยมศึกษา 6
ในส่วนของการทำงานอาจารย์แมนรัตน์ ได้ผ่านการทำงานหลายที่ เช่น บริษัทเชลส์ ซึ่งที่นี้ได้ตั้งวงดนตรีของพนักงานขึ้น และได้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าวง จากนั้นได้ตั้งวงดนตรีเล็กๆของตนเองอีก 1 วง ชื่อ วงดนตรีเรมอนด์และสหาย (ต่อมาเปลี่ยนเป็น คีตะเสวี) ซึ่งเป็นชื่อวงดนตรีของบิดา รวบรวมเพื่อนๆมาเล่นดนตรียามว่างจากการทำงาน แรกๆเล่นกันในงานเลี้ยงสังสรรค์ตามบ้านเพื่อนฝูงเท่านั้น แต่ภายหลังได้เล่นออกอากาศทางสถานีวิทยุ 1 ปณ และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยด้วย
หลังออกจากบริษัทเซลล์ ก็มาทำอยู่กับ บริษัทน้ำมันแสตนดาร์ด เวคัม ออยส์ ในปี 2498 ได้ร่วมเล่นดนตรีอยู่กับวงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในตำแหน่งนัก PIANO ได้มีโอกาสเล่นเปียโนถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวันที่ไปออกอากาศ ณ สถานีวิทยุ อ.ส หลังจากนั้นได้ถวายตัวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อที่จะเล่นเปียโนในวงดนตรี “ลายคราม” ซึ่งนักดนตรีในวงเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ ชั้นหม่อมเจ้าและชั้นหม่อมราชวงศ์ และที่พิเศษ คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นผู้ทรงแซกโซโฟน และคลาริเน็ต จนถึงปัจจุบันได้เล่นดนตรีถวายในวงดนตรี อ.ส วันศุกร์ มาเป็นเวลา 50 ปี และได้เคยร่วมเล่นดนตรีกับนักดนตรีแจ๊สชั้นนำของโลก เช่น เบนนี กูดแมน สก็อต แฮมิลตัน และเบนนี คาร์เตอร์ เป็นต้น
ต่อมาเมื่อบริษัทน้ำมันแสตนดาร์ด เวคัม ออยส์ แยกตัวออกเป็น 2 บริษัท คือ บริษัทน้ำมันเอสโซ และ บริษัท น้ำมันโมบิล อ.แมนรัตน์เลือกทำที่ บ.โมบิลและได้ลาออกในปี 2508 เนื่องจากได้รับทุนจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ไปศึกษาวิชาการดนตรีแจ๊ส ในสาขาวิชาเรียบเรียงเสียงประสานและการประพันธ์เพลงที่ BERKLEE SCHOOL OF MUSIC ในหลักสูตร 2 ปี จนจบได้รับ CERTIFICATE ทางด้าน JAZZ COMPOSITION หลังจากกลับมา ต้องการนำความรู้ที่ได้มาเผยแพร่ให้นักศึกษาไทย จึงได้มาทำงานที่บริษัทสยามกลการ ดร.ถาวร พรประภา ได้มอบหมายให้ก่อตั้งโรงเรียนดนตรีสยาม-กลการ โดยในช่วงแรกได้เชิญนักเรียบเรียงเสียงประสานที่มีฝีมือมาเรียนกันแบบเพื่อนฝูง เช่น อ.ประสิทธิ์ พยอมยงค์ ประภาส อมรพันธ์ นริศ ทรัพย์ประภา เป็นต้น ซึ่งต่อมาได้เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้นี้ให้แก่นักดนตรีอาชีพ และนักศึกษาทั่วไป มีลูกศิษย์หลายคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตการงานหลายคน ขณะเดียวกันก็ยังเป็นครูสอนดนตรีที่โรงเรียนจิตรลดา โดยเป็นพระอาจารย์ถวายการสอนดนตรีแด่เจ้าฟ้าทุกพระองค์ด้วย
ลูกศิษย์ที่เรียนกับอาจารย์แมนรัตน์ในขณะนั้นได้ตั้งวงดนตรีวงใหญ่(BIG BAND) ขึ้น ชื่อ “วงดนตรี ม.ศ” ซึ่งย่อมาจากชื่อแมนรัตน์ ศรีกรานนท์ เพื่อเป็นการทดลองเพลงที่เขียนมาเนื่องจากการเรียนวิชาเรียบเรียงเสียงประสาน และได้บรรเลงออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 เป็นเวลาถึง 13 ปี
ในปี 2517 ได้ลาออกจากโรงเรียนดนตรีสยามกลการ เพื่อเข้าทำงานที่ธนาคารกรุงเทพ จนกระทั่งเกษียณในปี 2530 จึงได้มาทำงานในบริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด ในตำแหน่งที่ปรึกษา จนถึงปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท
[แก้] ทางด้านผลงานการประพันธ์เพลง
อาจารย์แมนรัตน์มีผลงานการประพันธ์เพลงกว่า 1,000 เพลง โดยในช่วงที่ทำการสอนอยู่ที่โรงเรียนดนตรีสยามกลการ ได้แต่งเพลงขึ้นหลายเพลง อาทิเช่น รักเอย ชั่วฟ้าดินสลาย จากยอดดอย สวรรค์อำพราง จับปู ใครเอ่ย ใจเอ๋ย ฯลฯ ผลงานที่สร้างชื่อเสียง ได้แก่ เพลงรักเอย ได้รับพระราชทานรางวัลแผ่นเสียงทองคำ เพลงชั่วฟ้าดินสลาย ได้รับพระราชทานรางวัลแผ่นเสียงเงิน สำหรับเพลงจับปู เป็นเพลงในท่วงทำนองที่สนุกสนานมีวงดนตรีต่างๆนำมาบรรเลงกันอย่างแพร่หลาย
สรุปผลงานประพันธ์
- เพลง "รักเอย"
- เพลง "ภูมิแผ่นดิน นวมินทร์มหาราชา"
- เพลง "ชั่วฟ้าดินสลาย"
- เพลง "แด่ทหารหาญในสมรภูมิ"
- เพลง "เนติบัณฑิตยสภา"
- เพลง "จับปูดำขยำปูนา"
- เพลง "รักลวง"
- เพลง "จากยอดดอย" ฯลฯ
[แก้] ผลงานทางด้านวิชาการ
ได้เรียบเรียงตำราหลายเล่ม เพื่อให้ลูกศิษย์ได้ศึกษา พัฒนาวิชาการดนตรีให้เทียบเท่าอารยะประเทศ เช่น วิชาการประพันธ์ดนตรีแจ๊ส (JAZZ COMPOSITION) วิชาการประสานเสียงดนตรีแจ๊ส (JAZZ HARMONY)
เนื่องจากมีผลงานดนตรีด้านต่างๆ และเป็นผู้ให้การส่งเสริมการดนตรีให้แพร่หลายมาโดยตลอดจึงทำให้ในปี 2535 อาจารย์แมนรัตน์ได้รับคัดเลือกจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล) ปี พ.ศ. 2540 ได้รับพระราชทานปริญญาศิลปกรรมศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาดุริยางคศาสตร์สากล จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และ 24 มกราคม 2548 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ศาสตราจารย์พิเศษ ในสาขาวิชาดุริยางคศาสตร์ คณะศิลปกรรมศ่าสตร์ ม.มหาสารคาม
ปัจจุบัน อ.แมนรัตน์ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด และเป็นกรรมการและที่ปรึกษาของหน่วยงานราชการและเอกชนหลายแห่ง เป็นอาจารย์สอน เป็นที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรี Jazz ของคณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ผู้อำนวยการโรงเรียนดนตรีสยามกลการ และสอนวิชา JAZZ COMPOSITION, JAZZ HARMONY ที่โรงเรียนดนตรีสยามกลการและมหาวิทยาลัยต่างๆ ฯลฯ
[แก้] ดูเพิ่ม
[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์ของ ดร. ภาธร ศรีกรานนท์ และครอบครัว
- http://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetailsql.asp?stcolumnid=447&stissueid=2416&stcolcatid=2&stauthorid=9
- http://www.musiclearnonline.com เว็บไซต์ผลงานและแผนที่ บ้านศรีกรานนท์
- http://www.thaipost.net/index.asp?bk=tabloid&post_date=26/Dec/2547&news_id=100050&cat_id=220300
- http://www.planpublishing.com/monthreview/life_fam/specialtopic/august/index1.html
|
|
---|---|
ทัศนศิลป์ |
(2528) เฟื้อ หริพิทักษ์ · (2529) คำหมา แสงงาม · ประสงค์ ปัทมานุช · ไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ · แสงดา บันสิทธิ์ · เห้ง โสภาพงศ์ · (2530) ชิต เหรียญประชา · โหมด ว่องสวัสดิ์ · พยอม สีนะวัฒน์ · (2531) เฉลิม นาคีรักษ์ · พูน เกษจำรัส · พิมาน มูลประมุข · (2532) สนิท ดิษฐพันธุ์ · (2533) ทวี นันทขว้าง · (2534) สวัสดิ์ ตันติสุข · (2535) ประยูร อุลุชาฎะ (น. ณ ปากน้ำ) · (2536) พินิจ สุวรรณะบุณย์ · (2538) จิตต์ จงมั่นคง · (2539) ชำเรือง วิเชียรเขตต์ · (2540) กมล ทัศนาญชลี · (2541) ประหยัด พงษ์ดำ · ชลูด นิ่มเสมอ · (2542) ดำรง วงศ์อุปราช · อินสนธิ์ วงศ์สาม · มานิตย์ ภู่อารีย์ · (2543) จักรพันธุ์ โปษยกฤต · (2544) ถวัลย์ ดัชนี · (2545) ประกิต บัวบุศย์ · (2546) พิชัย นิรันต์ · (2547) ไพบูลย์ มุสิกโปดก · สันต์ สารากรบริรักษ์ · (2548) ทวี รัชนีกร · ประเทือง เอมเจริญ · (2549) เกียรติศักดิ์ ชานนนารถ · นนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน · สมถวิล อุรัสยะนันทน์ · (2550) เดชา วราชุน · ยรรยง โอฬาระชิน · |
ทัศนศิลป์ (สถาปัตยกรรม) |
(2529) สมภพ ภิรมย์ · (2530) มิตรารุณ เกษมศรี · (2532) ประเวศ ลิมปรังษี · (2537) ภิญโญ สุวรรณคีรี · (2541) อาวุธ เงินชูกลิ่น · สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา · (2543) ฤทัย ใจจงรัก · (2544) ประดิษฐ์ ยุวพุกกะ · (2545) นิธิ สถาปิตานนท์ · (2546) วนิดา พึ่งสุนทร · (2547) จุลทัศน์ กิติบุตร · (2548) เดชา บุญค้ำ · (2550) กฤษฎา อรุณวงษ์ ณ อยุธยา · |
ศิลปะการแสดง |
(2528) มนตรี ตราโมท · แผ้ว สนิทวงศ์เสนี · (2529) ทองมาก จันทะลือ · กั้น ทองหล่อ · ไพฑูรย์ กิตติวรรณ · เฉลิม บัวทั่ง · เปลื้อง ฉายรัศมี · ชูศรี สกุลแก้ว · ท้วม ประสิทธิกุล · ทองหล่อ ทำเลทอง · พวงร้อย อภัยวงศ์ · เจียร จารุจรณ · (2530) ยก ชูบัว · ชิ้น ศิลปบรรเลง · วิจิตร คุณาวุฒิ · เจริญใจ สุนทรวาทิน · เฉลย ศุขะวณิช · ไชยลังกา เครือเสน · (2531) หวังดี นิมา · ประสิทธิ์ ถาวร · บุญยงค์ เกตุคง · เสรี หวังในธรรม · จำเรียง พุธประดับ · กรี วรศะริน · สมาน กาญจนะผลิน · สง่า อารัมภีร · (2532) ฉิ้น อรมุต · สวลี ผกาพันธุ์ · ประสิทธิ์ พยอมยงค์ · ประเวศ กุมุท · หยัด ช้างทอง · (2533) สุเทพ วงศ์กำแหง · สุวรรณี ชลานุเคราะห์ · บัวผัน จันทร์ศรี · สมชาย อาสนจินดา · (2534) พยงค์ มุกดา · เพ็ญศรี พุ่มชูศรี · เคน ดาเหลา · บุญยัง เกตุคง · (2535) จูเลี่ยม กิ่งทอง · ผ่องศรี วรนุช · คำ กาไวย์ · ส่องชาติ ชื่นศิริ · แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ · (2536) ขาเดร์ แวเด็ง · ชาลี อินทรวิจิตร · ฉวีวรรณ ดำเนิน · สุดจิตต์ อนันตกุล · จำเนียร ศรีไทยพันธุ์ · (2537) ประยูร ยมเยี่ยม · อัศนี ปราโมช · (2538) ชาย เมืองสิงห์ · เปรื่อง ชื่นประโยชน์ · คำผาย นุปิง · สร้อย ดำแจ่ม · แจ้ง คล้ายสีทอง · สวง ทรัพย์สำรวย · อำนวย กลัสนิมิ · (2539) ขวัญจิต ศรีประจันต์ · จันทร์สม สายธารา · รวงทอง ทองลั่นธม · พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ · สมควร กระจ่างศาสตร์ · บุญเลิศ นาจพินิจ · สาคร ยังเขียวสด · ใหญ่ วิเศษพลกรัง · (2540) อิ่ม จิตภักดี · พินิจ ฉายสุวรรณ · มาลัยวัลย์ บุณยะรัตเวช · ไวพจน์ เพชรสุพรรณ · สมพงษ์ พงษ์มิตร · สุรพล โทณะวณิก · บุญเพ็ง ไฝผิวชัย · (2541) ศิริวัฒน์ ดิษยนันทน์ · ชัยชนะ บุญนะโชติ · ชรินทร์ นันทนาคร · เบ็ญจรงค์ ธนโกเศศ · ปิยะพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา · จุรี โอศิริ · ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง · เจ้าเครือแก้ว ณ เชียงใหม่ · (2542) ชินกร ไกรลาศ · ชลธี ธารทอง · มารศรี อิศรางกูร ณ อยุธยา · แท้ ประกาศวุฒิสาร · สัมพันธ์ พันธุ์มณี · เชื้อ ดนตรีรส · สมพันธ์ โชตนา · สัมพันธ์ พันธุ์มณี · (2543)มงคล แสงสว่าง · (2544) หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล · (2545) จิรัส อาจณรงค์ · (2546) พร้อม บุญฤทธิ์ · (2547) ไพรัช สังวริบุตร · จินตนา สุขสถิตย์ · ราฆพ โพธิเวส · (2548) วิเชียร คำเจริญ · ฉลาด ส่งเสริม · มานพ ยาระณะ · สำราญ เกิดผล · ศุภชัย จันทร์สุวรรณ์ · (2549) กาหลง พึ่งทองคำ · เกียรติพงศ์ กาญจนภี · สุชาติ ทรัพย์สิน · (2550) ชาญ บัวบังศร · นครินทร์ ชาทอง · |
วรรณศิลป์ |
(2528) คึกฤทธิ์ ปราโมช · (2529) กัณหา เคียงศิริ · อบ ไชยวสุ · (2530) ปิ่น มาลากุล · (2531) สุกัญญา ชลศึกษ์ · (2532) อังคาร กัลยาณพงศ์ · (2533) ศักดิชัย บำรุงพงศ์ · (2534) อาจินต์ ปัญจพรรค์ · สุวัฒน์ วรดิลก · (2535) คำสิงห์ ศรีนอก · (2536) เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ · ประคิณ ชุมสาย ณ อยุธยา · (2538) รงค์ วงษ์สวรรค์ · ทวีป วรดิลก · (2539) ศรีฟ้า มหาวรรณ · (2540) ฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ · (2541) วสิษฐ เดชกุญชร · (2542) สุภา สิริสิงห · (2543) อัศศิริ ธรรมโชติ · (2544) คำพูน บุญทวี · (2545) สุจิตต์ วงษ์เทศ · (2546) กรุณา กุศลาสัย · (2547) วินิตา ดิถียนต์ · ชาติ กอบจิตติ · (2548) สถาพร ศรีสัจจัง · ประยอม ซองทอง · (2549) มณี พยอมยงค์ · ระวี ภาวิไล · (2550) โกวิท เอนกชัย · |
แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ เป็นบทความเกี่ยวกับ ชีวประวัติ ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น ข้อมูลเกี่ยวกับ แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ ในภาษาอื่น อาจสามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ด้านซ้ายมือ |